ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

อีก 3 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ และในปีหน้าจะเป็นปีแรกที่ประเทศไทยจะมีผู้สูงวัยมากกว่าเด็ก โครงสร้างของประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนไป รัฐบาลและประชาชนจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสังคมผู้สูงอายุให้ได้และมีคุณภาพ จึงเป็นที่มาของศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน

ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน โดยมี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย ร่วมกันรังสรรค์ศูนย์แห่งนี้ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ของสังคมผู้สูงอายุ และศูนย์แห่งนี้จะให้บริการในด้านใดบ้างมีการทำงานอย่างไร ภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จะมาบอกที่มาที่ไปว่าทำไมประเทศไทยจึงจะต้องมีศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน

ภรณี ภู่ประเสริฐ

ภรณี เล่าว่า ตอนนี้สังคมไทยเปลี่ยนไป มีผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น อีก 3 ปีข้างหน้าประเทศไทยจะเปลี่ยนโครงสร้างประชากรเป็นสังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ คือ มีผู้สูงอายุ 20% ของประชากรทั้งหมด ปีหน้าเองก็จะมีผู้สูงอายุมากกว่าเด็กแล้วเป็นปีแรกของประเทศไทย ทำให้โครงสร้างของประชากรเปลี่ยนไป และผู้สูงอายุของประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่คนเดียวมากขึ้นไม่มีลูกหลานอาศัยอยู่ด้วย ก็เป็นเหตุอย่างหนึ่งที่ต้องดูแลที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุให้ดี ที่ผ่านมามีสถานการณ์ที่ผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้มมากถึงปีละ 1,000 คน เท่ากับว่าวันละ 3 คน จะต้องมีผู้สูงอายุเสียชีวิตจากการพลัดตกหกล้ม ทั้งที่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ป้องกันได้ เพียงแค่ปรับสภาพแวดล้อมภายในบ้านให้รองรับสิ่งเหล่านี้ไว้

นอกจากนี้ยังพบว่า สถานการณ์ดังกล่าวในประเทศไทยมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น 55% ของผู้หญิงที่ล้มมักจะล้มในบ้าน และยังพบว่า ในห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ ทั้ง 3 ห้องนี้เป็นที่ที่ผู้สูงอายุล้มมากที่สุด ซึ่งเมื่อผู้สูงอายุล้มแล้วมักจะกลับมาเดินเป็นปกติไม่ได้ บางรายเกิดภาวะติดเตียงหรือไม่ก็เสียชีวิตไปเลย จึงเป็นเหตุให้ สสส.ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการปรับสภาพแวดล้อมเรื่องที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นการป้องกันก่อนเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ส่วนการดำเนินงาน ทาง สสส.จะเข้าไปสนับสนุนมหาวิทยาลัยต่างๆ และได้มีการทำ MOU กับ 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม จะเห็นว่าทั้ง 5 มหาวิทยาลัยนี้กระจายอยู่ทุกภาคทั่วประเทศ สสส.สนับสนุนมหาวิทยาลัยต่างๆ ในฐานะเป็นสถาบันการศึกษามีองค์ความรู้อยู่มากมาย มีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์

ทาง สสส.จะหนุนเสริมให้คณาจารย์ช่วยรวบรวมและพัฒนาองค์ความรู้เหล่านี้ พัฒนานวัตกรรมในการออกแบบบ้านตามลักษณะภูมิประเทศของแต่ละภาคที่ไม่เหมือนกัน เนื่องจากคนแต่ละคนจะมีฐานะทางเศรษฐกิจที่หลากหลาย เราจำเป็นต้องขอความรู้จากเหล่าอาจารย์ช่วยแนะนำให้คำปรึกษาในการปรับบ้าน และยังมีการสนับสนุนให้เกิดการอบรมช่างชุมชนที่จะเข้ามาช่วยปรับบ้านให้ผู้สูงอายุสามารถอยู่ในบ้านตัวเองได้ นอกจากนี้ยังให้มหาวิทยาลัยต่างๆ ช่วยเป็นธนาคารอุปกรณ์รวบรวมเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับผู้สูงอายุไว้ที่มหาวิทยาลัยด้วย

ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ กล่าวต่อว่า จะมีการให้บริการคำปรึกษาฟรี ส่วนเรื่องการปรับปรุงบ้านจะต้องมีการประเมินเป็นรายบุคคล สำหรับผู้มีรายได้น้อยจะได้รับความร่วมมือจากท้องถิ่นและกระทรวงการพัฒนากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนเรื่องงบประมาณ ให้ในรูปแบบสงเคราะห์ อาจจะหลังละ 20,000 บาท หรืออาจจะมากกว่านั้น สำหรับคนที่มีฐานะลำบาก ส่วนที่มีฐานะปานกลาง ทางอาจารย์มหาวิทยาลัยอาจจะไปประสานกับภาคเอกชนในราคาประหยัดมาให้ หรือแนะนำให้ไปซื้อในส่วนที่เหมาะสมแก่บ้านเราตามฐานะของแต่ละท่าน

ซึ่งการปรับเปลี่ยนบ้าน เช่น ปรับพื้นลาดให้เหมาะสมกับรถวีลแชร์หรือรถเข็นเด็กเล็กๆ ก็สามารถจะปรับบ้านเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับไว้เลย ประตูอาจจะกว้างขึ้น ลูกบิดเปลี่ยนจากกลมเป็นก้านโยกเพื่อให้คนทุกวัยสามารถใช้ได้ และตัวเราเองเผื่อเกิดหกล้ม ขาหรือมือเคล็ด ก็สามารถใช้ได้เลย บริการเหล่านี้ เป็นบริการที่รองรับสำหรับคนที่มีความพร้อมเห็นความสำคัญของการปรับบ้านเพื่ออนาคต

ผู้ที่สนใจสามารถขอรับบริการได้ที่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เบอร์โทร 084-554-9301 อีเมล chula.udc@gmail.com เฟสบุ๊ค ศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน หรือ universal design center เปิดบริการจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30- 17.00 น. หยุดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ตลาดสามย่าน และมหาวิทยาลัยที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น