ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เคาะร่างระเบียบวาระที่ 4 เข้าสู่เวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เดือน ธ.ค.นี้ มุ่งคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม หวังเพิ่มการเข้าถึงบริการทันตกรรมที่ปลอดภัย เพื่อปกป้องทุกเพศทุกวัยจากปัญหาการจัดฟัน-ทำฟันปลอมเถื่อนที่ระบาดทั่วประเทศ

นพ.กิจจา เรืองไทย

นพ.กิจจา เรืองไทย ประธานกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2561-2562 เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ (คจ.สช.) มีมติรับรองร่างระเบียบวาระเพิ่มเติมเพื่อเข้าสู่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 ธันวาคม 2561 ในประเด็น “การพัฒนาระบบคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม” ตามที่คณะอนุกรรมการวิชาการเสนอ เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงและรับบริการทางทันตกรรมที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และปลอดภัย เพิ่มความเป็นธรรมในการเข้ารับบริการ และแก้ไขปัญหาการจัดฟันและทำฟันปลอมเถื่อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาวะของผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหลากหลายภาคส่วน ไม่เฉพาะงานด้านสาธารณสุขและทันตแพทย์เท่านั้น

สำหรับประเด็น “การพัฒนาระบบคุ้มครองผู้บริโภคทางทันตกรรม” นี้ เป็นการพัฒนาข้อเสนอโดยทันตแพทยสภา แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ (คคส.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และวิทยาลัยการคุ้มคองผู้บริโภคด้านยาและสุขภาพแห่งประเทศไทย (วคบท.) สภาเภสัชกรรม นับเป็นระเบียบวาระที่ 4 แล้วหลังจาก คจ.สช.เห็นชอบระเบียบวาระไปก่อนหน้านี้ 3 ประเด็น ได้แก่

1.ความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อ (Health Literacy for NCDs)

2.การสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะในเขตเมืองเพื่อสุขภาวะสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

และ 3.ความรับผิดชอบร่วมทางสังคมเกี่ยวกับอีสปอร์ตต่อสุขภาวะเด็ก (E-Sport : Social Responsibility for Child Health)

ขณะเดียวกัน ที่ประชุม คจ.สช.ยังรับทราบความก้าวหน้าของร่างระเบียบวาระการสร้างสรรค์พื้นที่สาธารณะในเขตเมืองฯ ว่า คณะทำงานได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการผังเมือง และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อทำความเข้าใจให้มติไปสู่การปฏิบัติได้จริง รวมถึงรับทราบการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาข้อเสนอเรื่องอีสปอร์ตเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ คจ.สช.ยังได้เห็นชอบกลุ่มเครือข่ายสมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติตามที่คณะอนุกรรมการพัฒนาการสร้างเสริมศักยภาพและจัดกลุ่มเครือข่ายเสนอ และในปีนี้ยังมีการมุ่งเน้นทำความเข้าใจกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติกับสมาชิกกลุ่มเครือข่ายเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะ โดยจะจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “สานพลังภาคีเครือข่ายเยาวชนสู่สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ” เพื่อให้กลุ่มเด็กและเยาวชนมีความรู้ความเข้าใจในภาพรวมของกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ และเตรียมความพร้อมการเข้าร่วมงาน สมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 11 ในช่วงปลายปี ขณะเดียวกันยังเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างภาคีเครือข่ายเด็กและเยาวชน เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดหรือทำงานด้านสาธารณะต่อไป