ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กระดาษหลากหลายสีสัน และริบบิ้นลายต่างๆ แขวนระโยงระยาง ของขวัญหลากหลายรูปแบบ ทั้งอุปโภคและบริโภค ต่างทยอยกันลดราคา เพื่อดึงดูดใจให้ลูกค้าเลือกซื้อของไปร่วมฉลองในโอกาสพิเศษที่ใกล้จะถึงนี้ หากลองเดินเตร็ดเตร่ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้า แม้แต่ร้านขายของชำแถวบ้าน ก็เริ่มมีกระเช้าปีใหม่มาวางขายหน้าร้าน พร้อมทั้งตกแต่งสถานที่ให้น่าสนใจและดึงดูดลูกค้า สิ่งเหล่านี้ ล้วนเป็นสัญญาณว่า อีกไม่กี่วัน จะเข้าสู่การนับถอยหลังสู่เทศกาลปีใหม่แล้ว

ลองแอบเดินสอดส่องเหล่าของขวัญแทนใจในกระเช้าปีใหม่ที่จัดไว้อย่างสวยงาม เราจะเห็นบรรดาผลิตภัณฑ์สุขภาพ ข้าวสารอาหารแห้ง ขนม และเครื่องดื่มสุขภาพประเภทต่างๆ ซึ่งเรามักจะคุ้นตากับสิ่งเหล่านี้อยู่แล้วในทุกๆ ปี นี่ถือเป็นสัญญาณที่น่ายินดี สำหรับการรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพที่ดี ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่นอกจากสิ่งของพวกนี้แล้ว ก็จะมีจำพวกกล่องยาวๆ ห่อด้วยกระดาษสีสวยงาม หรือขวดเครื่องดื่มสีทึบแล้วผูกด้วยริบบิ้น ที่ไม่ต้องทายว่าภายในคืออะไร ผู้รับก็น่าจะเดาออกว่า สิ่งนั้นคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นแน่

ที่ผ่านมา การให้ ‘เหล้า’ ถือเป็นค่านิยมการให้ของขวัญในเทศกาลต่างๆ แต่ปัจจุบันไม่มีใครให้เหล้าเป็นของขวัญกันอีกแล้ว เพราะ WHO ยืนยันแล้วว่าเหล้าเป็นสาเหตุของโรคกว่า 200 ชนิด รวมถึงอุบัติเหตุ ความรุนแรง การล่วงละเมิดทางเพศ ด้วยค่านิยมที่เปลี่ยนไป และอยากให้คนไทยหันมาสนใจสุขภาพมากขึ้น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรมรณรงค์ ภายใต้แคมเปญ“ให้เหล้า=แช่ง” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับค่านิยมของประชาชนที่ยังมองเหล้าเป็นเครื่องดื่มแห่งการเฉลิมฉลอง และหนุนกฎหมายห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาล และเพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยรณรงค์ขับเคลื่อนให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สนับสนุนให้ซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพและอื่นๆ ที่ไม่ใช่เหล้า เพื่อให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพดี

ให้เหล้า=แช่ง เป็นประโยคฮิตติดปากในช่วงก่อนปีใหม่ในทุกๆ ปี นั่นเพราะ เป็นการเตือนสติให้ทุกคนระลึกว่า การให้เหล้าเป็นของขวัญ ไม่ว่าจะเทศกาลใด จะเป็นการ “แช่ง” แทนการอวยพร เหมือนอย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มีผลดี มีแต่ผลเสียต่อสุขภาพ คนรอบข้าง และสังคม ยิ่งในช่วงเทศกาล มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากกว่าช่วงปกติถึง 2.5 เท่า หรือเฉลี่ย 87 รายต่อวัน สาเหตุอันดับ 1 คือ เมาแล้วขับ โดย ช่วงเวลา 18.00-23.59 น. เป็นเวลาเกิดเหตุอุบัติเหตุโดยมีแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องมากที่สุด ซึ่งเท่ากับว่า ใครให้เหล้า ก็เท่ากับแช่งให้พบเจอกับหายนะ ต่างๆ อย่าง แช่งที่ 1. เสี่ยงกับอุบัติเหตุ แช่งที่ 2. เสี่ยงกับโรคร้ายรุมเร้า แช่งที่ 3. เสี่ยงไปทำร้ายครอบครัว และแช่งที่ 4. เสี่ยงทะเลาะวิวาท

จะดีกว่าไหม ถ้าปีใหม่นี้ ให้ของขวัญปีใหม่ที่ดีต่อใจและสุขภาพ หากใครไม่รู้ว่าโอกาสปีใหม่นี้จะเลือกซื้อกระเช้าปีใหม่หรือของขวัญประเภทใด วันนี้ทางทีมเว็บไซต์ มีข้อมูลเรื่องการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ ซึ่งกรุงเทพมหานคร (กทม.) กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติในการจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ปี 2562 โดยมีการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการควบคุมดูแลการจัดและจำหน่ายกระเช้าของขวัญในพื้นที่กรุงเทพฯ ใช้หลักเกณฑ์ครอบคลุมกระเช้าของขวัญทั้งหมด 5 ประเภท ได้แก่

1.กระเช้าของขวัญประเภทอาหารบรรจุภัณฑ์ โดยสินค้าต้องมีวันหมดอายุหลังวันที่ 31 พ.ค. 2562 ผู้บริโภคสามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้หากไม่พึงพอใจในคุณภาพสินค้า ภายในวันที่ 28 ก.พ. 2562

2.กระเช้าของขวัญประเภทผัก ผลไม้สด ต้องตั้งวางกระเช้ารอจำหน่ายไม่เกิน 3 วัน

3.กระเช้าสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น ต้องแสดงวัน/เดือน/ปี ที่ผู้บริโภคสามารถนำมาแลกเปลี่ยนหรือคืนได้หากไม่พึงพอใจในคุณภาพสินค้าบนฉลาก ก่อนวันหมดอายุของสินค้าที่มีอายุสั้นที่สุดในกระเช้าและกระเช้าสินค้าทางเลือกอื่นๆ

4.กระเช้าทุกประเภทต้องแสดงวัน/เดือน/ปีที่หมดอายุของอาหารทุกชนิดในกระเช้า แสดงตราสัญลักษณ์หรือชื่อห้างบนกระเช้าของขวัญทุกประเภท ฉลากกระเช้าของขวัญต้องเป็นข้อความภาษาไทยเห็นได้ชัดเจน ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522

5.กระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วยห้ามวางจำหน่ายหรือแสดง มิฉะนั้นจะเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะที่เป็นการบังคับซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยทางตรงหรือทางอ้อม ตามมาตรา 30 (5) มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551

นอกจากนี้ หากใครไม่อยากซื้อกระเช้าปีใหม่ตามที่ทางร้านค้าจัดไว้ให้ อยากที่จะเลือกผลิตภัณฑ์สุขภาพตามใจฉัน ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแนะนำการเลือกซื้อกระเช้าหรือจัดกระเช้าด้วยตนเอง ดังนี้

1. ขอให้เลือกกระเช้าที่บรรจุผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการ “ทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice)” บนฉลากผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้รับหรือคนที่ท่านรักได้บริโภคผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมต่อสุขภาพ ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภาวะไตวายเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ฯลฯ

2. ควรเลือกกระเช้าที่มีลักษณะห่อหุ้มอยู่ในสภาพดีและมีการแสดงฉลากรวม โดยเป็นฉลากที่แสดงรายการผลิตภัณฑ์อาหารที่จัดรวมในภาชนะ และข้อความต้องแสดงรายละเอียด ได้แก่ ชื่อหรือประเภทหรือชนิดของอาหาร, วันเดือนปีที่หมดอายุหรือควรบริโภคก่อนของอาหารแต่ละรายการที่บรรจุในกระเช้า ทั้งนี้ เมื่อนำกระเช้าไปมอบให้แก่ผู้รับ ไม่ควรแกะฉลากรวมออก เนื่องจากผู้รับสามารถตรวจสอบรายการผลิตภัณฑ์อาหารและวันหมดอายุว่าตรงกับฉลากหรือไม่

3. หากเลือกอาหารกระป๋องจัดในกระเช้า ควรดูลักษณะกระป๋อง ต้องไม่บุบ หรือโป่งพอง หรือมีรอยรั่ว ดูตะเข็บหรือรอยต่อต้องเรียบร้อยแน่นหนา และกระป๋องไม่เป็นสนิม ที่สำคัญ ควรสังเกตฉลาก ต้องแสดงข้อความรายละเอียดครบถ้วน เช่น เลข อย. , ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิต/ผู้นำเข้า , วัน เดือน ปี ที่หมดอายุ และส่วนประกอบ เป็นต้น

4. หากต้องการจัดกระเช้าด้วยตนเอง ควรเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่แสดงสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ และ/หรือเลือกผลิตภัณฑ์อาหารที่มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการต่อผู้รับ ซึ่งมีหลากหลายประเภทผลิตภัณฑ์วางจำหน่าย และควรสังเกตวันเดือนปีที่หมดอายุด้วย

เชิญชวนทุกคนมาร่วมรณรงค์ ให้เหล้า = แช่ง ให้อะไรก็ได้ ที่ไม่ใช่เหล้า เพื่อช่วยกันสกัดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นทั้ง สุขภาพ อุบัติเหตุ ความรุนแรง และสุขภาวะที่ดีในสังคมไทย หากใครที่ยังคิดว่าจะให้เหล้าอยู่ ลองเปลี่ยนจากการแช่งเป็นการสนับสนุนและอวยพรให้สุขภาพดี ด้วยผลิตภัณฑ์สุขภาพประเภทต่างๆ แทนเหล้า น่าจะดีต่อใจและดีต่อสุขภาพมากกว่าเยอะเลยค่ะ