ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีชี้แจงกรณีประกาศเก็บเงินค่ายานอกบัญชียาหลักผู้ป่วยบัตรทองและประกันสังคม เผยเพื่อให้เกิดความสมเหตุสมผลบริหารยาเป็นระบบมากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้ต้องแบกรับภาระปีละ 300-400 ล้านบาท ยันสิทธิผู้ป่วยไม่ได้ลดลง และถ้าผู้ป่วยไม่มีเงินจ่ายก็ยังมีช่องทางให้มูลนิธิรามาธิบดีเข้ามาช่วยสนับสนุน

นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงกรณีที่โรงพยาบาลได้ออกประกาศสำหรับผู้ป่วยสิทธิ 30 บาท และสิทธิประกันสังคมว่า ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป มีการปรับระบบการจ่ายเงินตามสิทธิพื้นฐาน โดยกรณีใช้ยานอกสิทธิพื้นฐานต้องชำระค่ายาเอง และกรณีไม่สามารถชำระค่ายาได้ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนยาตามสิทธิหรือเพื่อส่งต่อให้งานสังคมสงเคราะห์พิจารณา โดยระบุว่าสาเหตุที่ต้องออกประกาศนั้น เนื่องจากที่ผ่านมาโรงพยาบาลรามาธิบดีทำไม่เหมือนโรงพยาบาลอื่น โดยได้แบกรับค่ายานอกบัญชียาหลักมาโดยตลอดประมาณปีละ 300-400 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี เมื่อทีมคณะผู้บริหารพิจารณาในประเด็นนี้แล้วเห็นว่าคงต้องกลับสู่โลกความเป็นจริง ประกอบกับระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลได้พัฒนาจนเต็มรูปแบบแล้ว ดังนั้นจึงต้องกำกับการใช้ยาให้เป็นไปตามกติกา เมื่อแพทย์สั่งยาทางคอมพิวเตอร์ก็จะมีข้อมูลที่แยกแยะให้เห็นความชัดเจนมากขึ้น มีความสมเหตุสมผล โรงพยาบาลสามารถบริหารจัดการการใช้ยาได้เป็นระบบยิ่งขึ้น

นพ.สุรศักดิ์ ยืนยันว่า สิทธิของผู้ป่วยบัตรทองและประกันสังคมยังคงเท่าเดิม ไม่มีอะไรลดลง และในส่วนของผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชียาหลักจริงๆ ก็จะมีช่องทางเปิดให้มูลนิธิรามาธิบดีเข้ามาช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ตราบใดที่ผู้ป่วยยังจำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชีนั้นๆ

"สิทธิคนไข้ไม่ได้ลดลงและไม่ได้ตัดความช่วยเหลือ เพียงแต่ขอให้มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น ถ้าคนไข้จำเป็นต้องใช้ยานอกบัญชีก็มีมูลนิธิฯเป็นคนคัดกรอง บางคนอาจจ่ายได้บางส่วน ส่วนที่เหลือมูลนิธิก็ช่วยรับผิดชอบผ่านการสังคมสงเคราะห์ และคำว่าสังคมสงเคราะห์นี้อย่าคิดว่าเป็นเรื่องอนาถา เพียงแต่ต้องมีใครสักคนเข้ามาแบกรับภาระนี้เพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงยา" นพ.สุรศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ หลังจากโรงพยาบาลรามาธิบดีได้เผยแพร่ประกาศดังกล่าวออกไป ได้เกิดเสียงวิพากษ์ในเฟสบุ๊กของโรงพยาบาลอย่างมาก จนวันที่ 5 เม.ย.62 ทางโรงพยาบาลจึงได้โพสต์เฟสบุ๊กอีกครั้งว่า "ขออภัย สำหรับการประกาศที่มีข้อความสั้นและไม่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนหรือเข้าใจผิดเกี่ยวกับสิทธิการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลรามาธิบดี" พร้อมโพสต์ประกาศชี้แจงฉบับใหม่ โดยระบุว่าตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป โรงพยาบาลรามาธิบดีได้นำระบบการจ่ายยาด้วยคอมพิวเตอร์ระบบใหม่มาใช้งาน ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยได้รับยาที่เหมาะสมตามสิทธิการรักษาของตนอย่างสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ลดความไม่สะดวกในการย้อนกลับไปปรึกษาแพทย์ โดยผู้ป่วยจะได้รับยาอย่างสาเหตุสมผลตามมาตรฐานการรักษาและความจำเป็นของผู้ป่วย

หากผู้ป่วยต้องการได้รับยานอกสิทธิการรักษาของตนเอง โรงพยาบาลจะคิดค่ายาในส่วนดังกล่าว หากไม่สามารถชำระได้ ผู้ป่วยสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาเปลี่ยนยาได้ นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังคงไว้ซึ่งแนวทางช่วยเหลือค่ายาโดยมูลนิธิรามาฯเหมือนเดิม โรงพยาบาลรามาธิบดีมุ่งมั่นพัฒนาระบบเพื่อความสะดวกคล่องตัวของผู้ป่วยและให้การรักษาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เหมาะสมและเป็นธรรม จึงขอแจ้งมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประกันสังคมแจงผู้ประกันตนไม่ต้องจ่ายเพิ่ม หากแพทย์สั่งยานอกบัญชียาหลัก

สปสช.แจงผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม กรณี รพ.รามาออกประกาศปรับระบบจ่ายยา