ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ชมรม ผอ.รพ.สต.ทำจดหมายเปิดผนึกถึง รมว.สธ. อนุทิน เสนอ 5 ข้อพัฒนา รพ.สต. ทั้งปรับการบริหาร จัดกรอบอัตรากำลัง ยกระดับคุณภาพบริการ ให้ อสม.เป็นผู้ช่วยผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุข พร้อมส่งเสริมความก้าวหน้าในสายงานคน รพ.สต.

นายสมศักดิ์ จึงตระกูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (ประเทศไทย) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562 ได้ทำจดหมายเปิดผนึก เรียน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เสนอ 5 ข้อเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ดังนี้

1.ด้านโครงสร้างการบริหารโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล นับตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายยกระดับสถานีอนามัย เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2552 จนถึงปัจจุบัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ยังไม่มีการเปลี่ยนชื่อตำแหน่ง หัวหน้าสถานีอนามัย ใน ก.พ.7 เป็น ผู้อำนวยการ รพ.สต. และยังไม่มีการอบอำนาจในฐานะผู้บังคับบัญชาตามคำสั่งกระทรวงสาธารณสุข ที่ 897/2559 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 แต่อย่างใด ดังนั้นเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ จึงเห็นสมควรออกคำสั่งมอบอำนาจให้ ผอ.รพ.สต. มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติ อนุญาต สั่งการ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการ

2.ด้านโครงสร้างกรอบอัตรากำลัง ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุข ยังไม่มีการจัดอัตรากำลังบุคลากรของ รพ.สต.ให้เป็นไปตามมติ อ.ก.พ.กระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560 และจากมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ลดการบรรจุกำลังคนภาครัฐของรัฐบาล ทำให้กลุ่มสายงานวิชาชีพของกระทรวงสาธารณสุขได้รับผลกระทบไปด้วย ก่อให้เกิดปัญหานักเรียนทุนที่กระทรวงสาธารณสุขผลิตจากสถาบันพระบรมราชชนก ไม่ได้รับการคัดเลือกบรรจุให้เป็นตามสัญญาบันทึกข้อตกลงที่กระทรวงสาธารณสุขได้เคยทำไว้กับนักเรียนทุน ขณะคัดเลือกก่อนไปส่งไปเรียน

เพื่อให้การจัดระบบบริการสาธารณสุข ของ รพ.สต. เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพได้มาตรฐานสาธารณสุข จึงเห็นสมควรให้กระทรวงสาธารณสุข จัดทำแผนอัตรากำลังข้าราชการตั้งใหม่ ตามโครงสร้างอัตรากำลังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไปที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) เพื่อนำเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ โดยขอยกเว้นมติ ครม. ที่เคยมีมติจำกัดอัตรากำลังข้าราชการ ทั้งนี้เพราะบุคลากรสุขภาพในกระทรวงสาธารณสุข เป็นบุคลากรวิชาชีพที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่ไม่อาจให้บุคคลใดทำแทนได้ หากปล่อยให้ปัญหา รพ.สต.ขาดแคลนกำลังคน จะก่อให้เกิดปัญหาการจัดระบบบริการสุขภาพ และจะส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตประชาชนในที่สุด

จึงเห็นสมควรที่ ครม.จะมีมติให้ลูกจ้าง พนักงานของรัฐ ทุกตำแหน่งสายงานที่กระทรวงสธารณสุขได้เคยทำสัญญาข้อตกลงไว้ให้ได้รับการคัดเลือกบรรจุ ตามกรอบโครงสร้างอัตรากำลังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อการจัดระบบสุขภาพปฐมภูมิของกระทรวงสาธารณสุขให้เข้มแข็ง ยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์กระทรวงสาธารณสุข "ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน"

3.ด้านมาตรฐานคุณภาพบริการ เพื่อให้การยกระดับคุณภาพบริการ ของ รพ.สต.เป็นไปอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน จึงเห็นควรสนับสนุนทรัพยากรบริหารระบบสุขภาพ คงหลักการ 'สร้างนำซ่อม' ให้ประชาชนสามารถดูแลสุขภาพตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้ (Selfcare & Primary Care) โดยการกำหนดยุทธศาสตร์นโยบาย "ทศวรรษ พัฒนา รพ.สต."

4.ด้านการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เห็นสมควรพัฒนาอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ให้เป็นผู้ช่วยผู้ประกอบวิชาชีพการสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.วิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน พ.ศ. 2556 มาตรา 27(5) ควบคู่กับแนวคิด อสม.หมอประจำบ้านบ้าน นโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นายอนุทิน ชาญวีรกูล)

5.ด้านการสร้างขวัญกำลังใจบุคลากร เห็นสมควรส่งเสริมสนับสนุนผลักดันให้ ผอ.รพ.สต. มีความก้าวหน้าในสายงานวิชาการ ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข ระดับชำนาญการพิเศษ และหรือสายงานทั่วไป ตำแหน่งเจ้าพนักงานสาธารณสุข ระดับอาวุโส ตามที่ชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้เคยยื่นเสนอต่อสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ไว้แล้ว ทั้งนี้โดยการยกเว้นการนำตำแหน่งว่างมายุบรวม และให้บุคลากรวิชาชีพในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สายงานปฏิบัติสามารถก้าวหน้าในตำแหน่งสายงานของตนเองระดับชำนาญการพิเศษ หรือระดับอาวุโส ทุกตำแหน่ง