ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สถาบันเวชศาสตร์ฯ กรมการแพทย์ เผยผู้สูงวัยป่วยซึมเศร้าค่อนข้างสูงกว่าวัยอื่น เผยวิธีสังเกตอาการแสดงออกทางกาย สามารถรักษาได้ ย้ำไม่ควรซื้อยากินเองแต่ควรปรึกษาแพทย์

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2562 นพ.ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคซึมเศร้าเป็นการเจ็บป่วยทางจิตใจ ทำให้รู้สึกไม่มีความสุข ซึมเศร้า จิตใจหม่นหมอง หมดความกระตือรือร้น เบื่อหน่าย แยกตัวเอง ชอบอยู่เงียบๆ คนเดียว ท้อแท้ บางครั้งมีความรู้สึก สิ้นหวัง มองชีวิตไม่มีคุณค่า เป็นภาระต่อคนอื่น ถ้ามีอาการมากจะมีความรู้สึกเบื่อชีวิต คิดอยากตายหรือคิดฆ่าตัวตาย ทั้งนี้ สาเหตุของโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุมักเกิดจากโรคทางกาย เช่น การเจ็บป่วยเรื้อรังจากโรคประจำตัว ทำให้ใช้ชีวิตไม่ได้ตามปกติและยากลำบากขึ้น จากยา เช่น ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจบางชนิด ยารักษามะเร็งบางชนิด ยารักษาโรคพาร์กินสันบางชนิด นอกจากนี้ยังพบสาเหตุทางจิตใจและสังคม ได้แก่ สูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รัก ไม่มีงานไม่มีรายได้ สูญเสียตำแหน่งหน้าที่การงาน ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคมเหมือนเช่นเดิม เป็นต้น

นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้ค่อนข้างสูงกว่าวัยอื่น นอกจากอาการด้านจิตใจ คือ ซึมเศร้า ไม่อยากทำอะไร ไม่ใส่ใจตนเอง รู้สึกตนเองไร้ค่า แล้วอาจมาด้วยอาการทางกาย ดังนี้ 1. นอนไม่หลับ หรือหลับมากกว่าปกติ 2. มีอาการปวดตามที่ต่างๆหลายๆ ที่พร้อมกัน เช่น ปวดหัว ปวดหลัง ปวดท้อง หรือ ไม่สบายตามร่างกาย 3. มีอาการอ่อนเพลียรู้สึกไม่มีแรง 4. มีอาการทางระบบทางเดินอาหารเช่น เบื่ออาหาร ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับถ่ายอุจจาระกระปริดกระปรอย แต่เมื่อไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพกลับไม่พบความผิดปกติใดๆ

สำหรับวิธีการรักษาโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ได้แก่ การรักษาด้วยยา ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป จึงจะเห็นผลการรักษา ซึ่งไม่ควรซื้อยากินเองแต่ควรปรึกษาแพทย์ เพราะยาแก้โรคซึมเศร้าอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายหากใช้ ไม่ถูกวิธี การทำจิตบำบัดแบบประคับประคองด้านจิตใจ พฤติกรรมบำบัด เพื่อแก้ไขความคิดในด้านลบต่อตนเอง การรักษาทาง ด้านจิตใจ เช่น ให้คำปรึกษา และการรักษาด้วยไฟฟ้าในผู้ป่วยเฉพาะรายที่อาการหนักไม่ตอบสนองต่อวิธีการรักษาอื่นๆ

นอกจากนี้ ลูกหลานที่ดูแลผู้สูงอายุควรเข้าใจภาวะโรคซึมเศร้าก่อน ยินดีรับฟังเรื่องราวที่ผู้สูงอายุเล่าให้ฟัง มีความอดทนในการดูแลอย่างเพียงพอ เพราะผู้สูงอายุบางรายอาจมีลักษณะอารมณ์กลับมาเป็นเด็กหรืออาจหงุดหงิด จึงควรพูดคุยด้วยท่าทีที่อ่อนโยน รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง ทั้งนี้สามารถเข้ารับการปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้