ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ไอแคร์ เฮลท์” ฉลองปีที่ 21 เดินหน้าร้านยาที่มีเภสัชกรประจำ 24 ชม.แห่งแรกของไทย ผนึกกำลัง “องค์การเภสัชกรรม” ร่วมกันดูแลคนไทย จัดจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพขององค์การเภสัชกรรมผ่าน 4 ร้านยาในเครือ ตั้งเป้ายอดเติบโต 20% จากรายได้กว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี

ไอแคร์ เฮลท์ (ICARE Health) โดย บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด ก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ปี ของการเป็นร้านยาคู่ชุมชนและคนไทยมาอย่างยาวนาน จัดงาน “แถลงข่าวครบรอบ 21 ปี บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด และการผนึกกำลังร่วมกับ องค์การเภสัชกรรม” ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการขององค์การเภสัชกรรม (GPO Official Partner) ในการจัดจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพขององค์การเภสัชกรรมผ่าน 4 ร้านยาในเครือ ไอแคร์ เฮลท์ (ICARE Health) ได้แก่ ICARE (ไอแคร์), Pharmax (ฟาร์แมกซ์), Vitamin Club (ไวตามิน คลับ) และ Superdrug (ซุปเปอร์ ดรัก) กว่า 25 สาขาทั่วประเทศอย่างเป็นทางการ

ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล กรรมการบริหาร บริษัท ไอแคร์ เฮลท์ จำกัด กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยตลอด21ปีที่ผ่านมา จากความตั้งใจของท่านอาจารย์มัทยาผู้ก่อตั้งเครือไอแคร์ เฮลท์ ที่ต้องการให้ร้านยาเป็นที่พึ่งของประชาชน นำมาซึ่งการยอมรับของลูกค้าจนถึงทุกวันนี้ และในวาระครอบรอบ 21 ปี ไอแคร์ เฮลท์ เรามองว่าการทำให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สังคมไทยในปัจจุบันเริ่มเปลี่ยนจากครอบครัวใหญ่กลายเป็นครอบครัวที่เล็กลง ประกอบกับการที่ประเทศเรากำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เมื่อช่วงชีวิตของคนเรายาวขึ้น แต่มีคนที่ดูแลได้น้อยลง จึงนำมาซึ่งภารกิจของ ไอแคร์ เฮลท์ ที่ต้องการดูแลคนไทยให้มีสุขภาพดี เริ่มตั้งแต่ปรับร้าน Vitamin Club (ไวตามิน คลับ) ให้มีผลิตภัณฑ์สุขภาพที่เน้นการป้องกันมากกว่ารักษา ปรับพื้นที่ร้าน ICARE (ไอแคร์) และ Pharmax (ฟาร์แมกซ์) ให้มีพื้นที่สำหรับอุปกรณ์การแพทย์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุได้มากกว่า ซึ่งยอดขายรวมทั้ง 25 สาขาของ ไอแคร์ เฮลท์ อยู่ที่กว่า 1,000 ล้านบาท โดยครอบคลุมทั้ง ยา, อุปกรณ์การแพทย์, เวชสำอาง, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพกว่า 10,000 รายการ ในราคายุติธรรม

นอกจากนี้ในช่วงเดือนธันวาคม เราจะเปิดตัว “pharmax24” ร้านยาที่มีเภสัชกรตลอด 24 ชั่วโมงร้านแรกในประเทศไทย เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ผ่านเภสัชกรได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งตั้งเป้าผลประกอบการโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ต่ำกว่า 20% ของทุกปี และจะมีการขยายสาขาออกไปยังต่างจังหวัด รวมถึงเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ สำหรับสินค้าที่ไม่ใช่ยาด้วย”

และจากความสำเร็จของการเป็นร้านยาที่อยู่คู่ชุมชนและคนไทยมาอย่างยาวนาน จึงนำมาสู่การต่อยอดธุรกิจ จับมือ องค์การเภสัชกรรม ในการเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ “เป็นที่ทราบกันดีว่า องค์การเภสัชกรรมเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ทั้งในเรื่องของงานวิจัย และกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน นำมาซึ่งผลิตภัณฑ์คุณภาพหลากหลายรายการ รวมทั้งองค์การเภสัชกรรมยังมีผลิตภัณฑ์สมุนไพร และเวชสำอาง ที่ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย จึงเป็นที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้

โดยสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการร่วมมือกันในครั้งนี้คือ จุดจำหน่ายสินค้าขององค์การเภสัชกรรมจะเพิ่มขึ้นจากร้านยาGPO 8 สาขา ก็จะกลายเป็น 33 สาขา เมื่อรวมกับร้านยาทั้งหมดในเครือไอแคร์ เฮลท์ ที่มีอยู่25 สาขา ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมได้ง่ายขึ้น แต่หมายถึงสามารถเข้าถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมได้ง่ายขึ้นด้วย ผ่านเภสัชกรทั้ง 33 สาขา”

ในส่วนของกลุยทธ์การตลาดหลังจากการจับมือครั้งสำคัญองค์การเภสัชกรรมในครั้งนี้ ผู้บริหารไอแคร์ เฮลท์ เผยว่า จะมุ่งเน้นในเรื่องของการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับร้านค้าและผลิตภัณฑ์ “คนไทยส่วนใหญ่รู้จัก และเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมกันอยู่แล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ทางการตลาดในครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องของการสื่อสารให้ลูกค้ารู้ว่าสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ขององค์การเภสัชกรรมได้จากที่ไหนบ้าง และเพิ่มการรับรู้ของลูกค้าเกี่ยวกับรายละเอียดของผลิตภัณฑ์คุณภาพขององค์การเภสัชกรรม ผ่านเภสัชกรจากร้านยาขององค์การเภสัชกรรมและร้านยาในเครือ ICare Healthทั้ง 33 สาขา และผ่านสื่อความรู้อื่นๆ ทั้งวารสาร, นิตยสาร และช่องทางOnline ซึ่งเราคาดหวังว่าผู้บริโภคจะเชื่อมั่นใน ร้านยาในเครือไอแคร์ เฮลท์ และเพิ่มยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์จากองค์การเภสัชกรรมได้มากยิ่งขึ้น”

ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวถึงการจับมือกับ ไอแคร์ เฮลท์ ในครั้งนี้ว่า “องค์การเภสัชกรรมหวังว่านอกจากประชาชนจะได้เข้าถึงยาดีมีคุณภาพ ราคายุติธรรมขององค์การแล้ว ยังเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับนโยบายการลดเวลาเข้ารับบริการของผู้ป่วยที่โรงพยาบาล ด้วยการจัดบริการรับยาที่ร้านขายยาคุณภาพ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ป่วย ลดความแออัดในโรงพยาบาลที่จะขยายจำนวนร้านยาเพิ่มมากขึ้น โดยร้านยาขององค์การเภสัชกรรมและร้านขายยาในเครือไอแคร์ เฮลท์ จะเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วย อาทิ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง หอบหืด และโรคจิตเวช สามารถที่จะรับยาได้จากร้านขายยาคุณภาพใกล้บ้าน ซึ่งเป้าหมายทางธุรกิจและรายได้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้มากนัก แต่สิ่งสำคัญคือถ้าตัวเลขการเติบโตด้านยอดขายเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าองค์การฯได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมและประชาชนได้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง”

เรื่องที่เกี่ยวข้อง