ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สสส.-หมออนามัย ถอดบทเรียนแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในวิกฤตโควิด-19 สานพลังชุมชน แก้ไขจุดเสี่ยง-ลดเจ็บตายจากขับขี่รถจักรยานยนต์-ขยายองค์ความรู้สู่ท้องถิ่น ‘ร่วมสร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย’ ทั่วประเทศ เผยมาตรการ ล็อกดาวน์-งดขายเหล้า ช่วยลดคนเมา-เจ็บ-ตายบนถนนลดลง 10 %

นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในการเสวนา “ร่วมสร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย ไปกับหมออนามัยในสถานการณ์โควิด -19” เพื่อถอดบทเรียนการเฝ้าระวังอุบัติเหตุในระดับตำบลและชุมชนท้องถิ่นว่า สสส. ทำงานร่วมกับ สมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ ขับเคลื่อนเรื่องอุบัติเหตุมาตลอด โดยในไทยมีอำเภอเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 283 อำเภอ หรือ 32% ของอำเภอทั้งประเทศ จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค ปี 2562  โดยส่วนใหญ่เป็นอำเภอเมืองของแต่ละจังหวัด

ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ความเสี่ยงที่หลากหลายทั้งคน รถ ถนน จึงสนับสนุนความร่วมมือระดับตำบล ซึ่งมีเครือข่ายหมออนามัย ที่มีความใกล้ชิดกับคนในพื้นที่ รู้สภาพปัญหาของพื้นที่ และเป็นทีมสุขภาพที่จะหนุนเสริมการทำงานตำบลขับขี่ปลอดภัยได้ มีหลายตำบล/อปท. ที่เข้าร่วมและขยายการทำงานไปยังหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ได้มีการให้ความรู้เรื่องการลดอุบัติเหตุควบคู่การป้องกันเชื้อโควิด-19 ทำให้คนในชุมชนเกิดความตระหนักรู้และเฝ้าระวังดูแลกันในชุมชนมากขึ้น

“ข้อมูลจากระบบบูรณาการการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 3 ฐาน ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด และ ฐานข้อมูลมรณบัตรและหนังสือรับรองการเสียชีวิต ปี 2563 พบ มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17,831 รายลดลง 10% จากปี 2562 ส่วนปี 2564 ข้อมูลถึงเดือนสิงหาคม มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนแล้ว 8,862 ราย คิดเป็นอัตราผู้เสียชีวิตลดลงเฉลี่ย 49 รายต่อวัน จากเดิมเสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 60 ราย ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการโควิด-19 ในการจำกัดเวลาเดินทาง เพิ่มการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ร่วมกับด่านโควิด รวมถึงมาตรการล็อกดาวน์ จะเห็นได้ว่าจากมาตรการในช่วงโควิด 19 มีส่วนช่วยทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงได้ การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำร่วมกันทั้งประเทศไม่ใช่ทำแค่ส่วนกลางเท่านั้น” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว

นายบุญเรือง ขาวนวล นายกสมาคมเครือข่ายหมออนามัย และรองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง กล่าวว่า เครือข่ายหมออนามัยทำงานร่วมกับสสส. เพื่อสร้างเสริมสุขภาพมาตั้งแต่ปี 2546  ต่อมาพบปัญหาสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น การทำงานของเครือข่ายหมออนามัยจึงต้องมีการปรับตัว จึงเริ่มโครงการ ‘หมออนามัยอะคาเดมี’ (Mohanamai Academy) อบรมหมออนามัยรุ่นใหม่ ทำงานด้านการจัดการปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ มีแนวคิดว่าหมออนามัยไม่ใช่เพียงเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเดียว ต้องมีบทบาทเสริมระบบสุขภาพชุมชนให้เข้มแข็ง ให้ความรู้ในการลดอุบัติเหตุในชุมชน เร่งแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในกลุ่มผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ต้องปรับการทำงานให้เชื่อมโยงครอบคลุมการควบคุมป้องกันโรค และการลดอุบัติเหตุทางถนนควบคู่กัน เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน

นายธนาธิป บุญญาคม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสระพัฒนา จังหวัดนครปฐม กล่าวว่า การแก้ปัญหาสุขภาพหลาย ๆ เรื่องไม่สามารถสำเร็จได้ จากการตั้งรับที่โรงพยาบาลใหญ่ ต้องขับเคลื่อนงานส่งเสริมสุขภาพและงานป้องกันโรคในระดับชุมชน  ซึ่งหมออนามัยมีความใกล้ชิดและรู้จักพื้นที่ชุมชนของตัวเอง ทำให้สามารถขับเคลื่อนงานนโยบายกระทรวง ระดับประเทศ ระดับจังหวัด และระดับพื้นที่ ในการลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ทั้งโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง รวมถึงงานลดอุบัติเหตุทางท้องถนนด้วย การทำงานของเครือข่ายหมออนามัยจะเลือกจุดเสี่ยงแก้ปัญหาพื้นที่ จากเดิมที่ทำงานแบบจิตอาสา สสส.ก็เข้ามาผลักดันสนับสนุนและขยายการทำงาน ทำให้งานป้องกันอุบัติเหตุเติบโตขยายไปยังหน่วยงานท้องถิ่น สามารถรองรับกับภัยสุขภาพต่าง ๆ ในชุมชนได้

นางสาว ดวงสมร ดวงใจ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน สำนักงานสาธารณสุขอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว กล่าวว่า อำเภออรัญประเทศมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุกวัน และเป็น 1 ใน 3 ของอำเภอที่มีอุบัติเหตุและเสียชีวิตบนท้องถนนมากที่สุดในจังหวัดสระแก้ว จึงเข้าร่วมโครงการตำบลขับขี่ปลอดภัย ร่วมกับ อสม. อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบล คลองน้ำใส โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก เช่น แขวงการทาง ดูแลเรื่องถนนต่าง ๆ มีการนำยางรถยนต์เก่ามาทำแผงกั้นจราจรป้องกันอุบัติเหตุ ขณะนี้มีการขยายการทำงานไปยังพื้นที่อื่นๆ มากขึ้น ในส่วนการเฝ้าระวังโควิด-19มีการจัดตั้งวัดอุณหภูมิการเข้าออกพื้นที่ และให้ความรู้ในการป้องกันการติดเชื้อ แจกเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเพิ่มในพื้นที่

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org