ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ที่ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 24 มีนาคม รัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 เพื่อชี้แจงความคืบหน้ารายงานสถานการณ์และการปฏิบัติงานกรณีการปนเปื้อนวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ในโรงงานหลอมโลหะ จังหวัดปราจีนบุรี

 

แถลงความเชื่อมั่นกรณีซีเซียม137

นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เปิดเผยว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาสิ่งที่ห่วงใยอันดับแรกคือสุขภาพอนามัยของประชาชน โดยเฉพาะพนักงานในโรงงานทั้ง 71 คน ได้มีการตรวจร่างกายทั้งภายนอก และภายในโดยตรวขเลือดแฃะตรวจปัสสาวะไม่พบการปนเปื้อน ส่วนประชาชนบริเวณใกล้เคียงเจ้าหน้าที่ได้ออกตระเวนตรวจทั้ง  ดิ นน้ำ อากาศ สภาพแวดล้อมในวงรอบรัศมี 5 กิโลเมตรตามหลักการปฏิบัติและเพิ่มพื้นที่การตรวจเป็นรัศมี 10 กิโลเมตร มีการตรวจสอบหลายรอบ หลายครั้ง ก็ไม่พบการปนเปื้อนของรังสี

“วานนี้(23 มีนาคม) ได้ประชุมตัวแทนชุมชนข้างเคียงโรงงานชี้แจงถึงการดูแลกัน การป้องกัน โดบติดแถบวัดปริมาณรังสีให้อาสาสมัครซึ่งเป็นตัวแทนแต่ละหมู่บ้านติดไว้หมู่บ้านละ 3-5 คน โดยจะมีการตรวจสอบแถบวัดรังสีนี้ทุก 15 หรือ 30 วัน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ”นายรณรงค์กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีกล่าวอีกว่า อีกส่วนหนึ่งคือสร้างความเชื่อมั่นว่าพื้นที่แถบนั้นไม่มีผลกระทบโดยเฉพาะผลผลิตการเกษตรน้ำอากาศดิน โดยเชิญเจ้าหน้าที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติเข้าพื้นที่หมู่บ้านพร้อมอุปกรณ์เครื่องมือการตรวจ อธิบายให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของเครื่องมือและวิธีการตรวจ จากนั้นเข้าไปในสวนเชอรี มะม่วง มะยง ส้มโอ ก็ไม่พบการปนเปื้อน จึงได้ชิมผลไม้เหล่านั้นด้วยตัวเองเพื่อให้เกิดความมั่นใจ

นายรณรงค์กล่าวอีกว่า หากประชาชนยังมีความกังวลถึงผลกระทบ หรือไม่สบายใจก็สามารถเข้ารับการตรวจร่างกายได้ที่โรงพยาบาล และขอยืนยันว่าทุกพื้นที่ในจังหวัดปราจีนบุรีมีความปลอดภัยเชื่อมั่นได้ว่าไม่มีผลกระทบแต่อย่างใด

 

ตรวจกลุ่มเสี่ยงสูงในโรงงาน 71 คน ไม่พบปนเปื้อนรังสีซีเซียม137

ด้าน นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) กล่าวว่า ก่อนที่จะมาแถลงข่าวครั้งนี้ได้มีการประชุมร่วมกับฝ่ายต่างๆ ทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ และภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ข้อมูลที่ทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ประมวลการปฏิบัติที่ผ่านมาโดยกลุ่มเสี่ยงสูงคือพนักงานในโรงงานทั้ง 71 คน มีการตรวจ 3 ลักษณะ คือ ตรวจวัดการสัมผัสที่ผิวหนังเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วไม่พบการปนเปื้อนรังสีพนักงานทุกราย การตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ซึ่งต้องใช้เวลาเพราะเป็นการตรวจอย่างละเอียด ได้ผลการตรวจแล้วครึ่งหนึ่งเป็นปกติ ส่วนผลตรวจพนักงานอีกครึ่งหนึ่งกำลังจะออกมา ส่วนการตรวจสอบดิน น้ำ อากาศ ระดับปริมาณรังสีในโรงงานและพื้นที่โดยรอบรัศมี 3-5 กิโลเมตรเป็นปกติทุกจุด ซึ่งจะมีการตรวจสอบทุกวัน ส่วนการขยายพื้นที่การตรวจสอบออกไปในรัศมี 10-15 กิโลเมตรขณะนี้การตรวจทุกด้านไม่พบการปนเปื้อนของสารรังสี

ปลัดกระทรวงอว.กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีทีมปฏิบัติการในพื้นที่เพื่อตรวจพืชผักผลไม้อาหาร ทั้งการตรวจสัมผัสโดยตรง และวิธีการขูดผิว เปลือก ผลผลิตออกมาวิเคราะห์ทั้งพืชผักผลไม้ เนื้อสัตว์ทุกอย่างซึ่งได้ผลเป็นลบไม่พบการปนเปื้อน และอีกวิธีหนึ่งคือการตรวจในห้องปฏิบัติการจะใช้เวลาอีก 2-3 วัน ซึ่งจะดำเนินการเช่นนี้ไปอย่างต่อเนื่อง

“ข้อมูลทุกด้านตรงกันว่าไม่มีการปนเปื้อนรังสีในพื้นที่ สุขภาพอนามัยประชาชนในพื้นที่โดยรอบก็เป็นปกติ กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งให้โรงพยาบาลในพื้นที่เฝ้าติดตามผู้ที่สงสัยหรือไม่สบายใจว่าได้รับสารรังสีสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทันทีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งจากการวิเคราะห์ข้อมูลโดยสร้างแบบจำลองโดยภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้แบบจำลองทางคณิตศาสคำนวณว่ากรณีแย่ที่สุดที่เกิดขึ้นการกระจายตัวจะกระจายอย่างไร  โดยสูงสุดจะเกิดขึ้นเฉพาะในพื้นที่โรงงานเท่านั้นซึ่งตรงกับข้อมูลทั้งหมดที่ได้แจ้งเอาไว้ ด้านคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลก็คาดง่าผลกระทบทางสุขภาพสูงสุดที่จะเกิดชขึ้นคือปริมาณรังสีจากการสัมผัสโดยตรงจะเท่ากับการเอ็กเรย์ปอด 1 ครั้ง ซึ่งสรุปได้ว่าปริมาณรังสีที่ตรวจพบยังมีรังสีอยู่แต่ปริมาณที่มีอยู่ไม่มากนัก”ปลัดกระทรวงอว.กล่าว

นพ.สิริฤกษ์กล่าวอีกว่า จากการตรวจวัดรังสีในพื้นที่อื่นๆ จากจุดตรงขวัด 18 จุดทั่วทุกภาคของประเทศ พบว่ายังอยู่ในระดับปกติ และจากการประสานไปยังจุดตรวจวัดต่างๆ ในต่างประเทศรอบๆ ประเทศไทย ก็มีปริมาณรังสีปกติตลอดช่วงสองเดือนที่ผ่านมาและจะติดตามต่อไปอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ติดตั้งจุดตรวจเพิ่มเติมภายในจังหวัดปราจีนบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มขึ้นอีกเก้าจุดผลตรวจสอบก็เป็นปกติทั้งหมด

ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พงษ์แพทย์ เพ่งวาณิชย์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมนิวเคลียร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ได้ใช้หลักวิชาการในการคำนวณประเมินโดยใช้โปรแกรมทางคอมพิวเตอร์ในการจำลองการกระจายตัว ซึ่งในเคสที่แย่ที่สุดปริมาณรังสีที่อยู่ในบริเวณโรงงานและบริเวณที่ห่างออกมาจากจุดเก็บก็ยังไม่สูงกว่าปริมาณรังสีที่อยู่ในธรรมชาติ รวมทั้งได้มีการเข้าไปตรวจโดยใช้เครื่องมือวัดรังสีแบบเบื้องต้นก็พบว่าปริมาณรังสีที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่เก็บก็อยู่ในปริมาณเดียวกันกับที่สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติได้มีการแจ้ง และระยะที่ห่างออกมาไม่กี่เมตรปริมาณรังสีก็จะลดลงไปในระดับเดียวกันกับธรรมชาติ

 

นายกฯสั่งสอบสวนปม ซีเซียม137 ทุกมิติ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้สืบสวนสอบสวนในกรณีนี้ทุกมิติ โดยเฉพาะในประเด็นของวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ได้สูญหายไปอย่างไร มีใครลักลอบนำไปหรือไม่ รวมถึงเรื่องของแหล่งรับซื้อ หรือการที่มีผลกระทบต่อประชาชน จะต้องมีใครร่วมรับผิดชอบด้วยหรือไม่ โดยให้พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)เร่งดำเนินการ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับประชาชนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นต้องมีมาตรการป้องกัน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลข่าวสารจากแหล่งข่าวและหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนจากการรับข้อมูลที่หลากหลายและมีจำนวนมาก โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามนำข้อมูลทั้งในเรื่องผลการประชุมที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง