ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เขตสุขภาพที่ 11 เผยเคล็ดลับดำเนินการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ชี้ผู้ตรวจราชการฯ ให้ความสำคัญ และกำหนดเป็นตัวชี้วัด นิเทศก์เฉพาะกิจเรื่อง RDU พร้อมมีนโยบายใช้ยาสมุนไพรก่อนยาปฏิชีวนะ

นพ.นรเทพ อัศวพัชระ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (RDU) เขตสุขภาพที่ 11 เปิดเผยว่า จากการสรุปผลการดำเนินงาน RDU ของกระทรวงสาธารณสุขในไตรมาสที่ 3 พบว่าเขตสุขภาพที่ 11 มีการดำเนินงานด้าน RDU เป็นอันดับ 1 ของประเทศต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั้ง 7 จังหวัดของเขต สามารถผ่านตัวชี้วัด RDU ขั้นที่ 1 ได้ 100% ส่วน RDU ขั้นที่ 2 มีโรงพยาบาลผ่านตัวชี้วัด 17 แห่งจากทั้งหมด 80 แห่ง หรือ 21.5% และ RDU ขั้นที่ 3 มี 4 แห่ง หรือประมาณ 5% ของโรงพยาบาลทั้งหมด

นพ.นรเทพ กล่าวถึงปัจจัยความสำเร็จในการผลักดันการใช้ยาอย่างสมเหตุผลว่า ปัจจัยแรกเกิดจากภาวะผู้นำของผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 11 ซึ่งให้น้ำหนักกับเรื่อง RDU เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ รวมทั้งมีการติดตามสถานการณ์ในที่ประชุมเขตเป็นประจำทุกเดือน

ปัจจัยต่อมาคือ ผู้ตรวจฯเขตสุขภาพที่ 11 ได้มอบหมายให้สาธารณสุขนิเทศก์ ทำการนิเทศก์เฉพาะกิจเรื่อง RDU ทั้ง 7 จังหวัด เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน

นอกจากนี้ เขตสุขภาพที่ 11 ยังมีนโยบายส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรมาทดแทนยาปฏิชีวนะ โดยหากเป็นไข้หวัดหรือท้องเสียที่ไม่รุนแรงหรือไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรีย ให้ใช้ยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและยาเหลืองปิดสมุทรก่อนจะใช้ยาปฏิชีวนะ

“ไข้หวัด 80% และอาการท้องเสีย 90% ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เราจะใช้ยาสมุนไพรแทน ประชาชนลดโอกาสเชื้อดื้อยา ลดการแพ้ยา ลดค่าใช้จ่ายด้านยาจนสามารถช่วยแก้วิกฤตการเงินของโรงพยาบาลบางแห่งได้ด้วย” นพ.นรเทพ กล่าว

ขณะเดียวกัน ผู้ตรวจราชการฯเขตสุขภาพที่ 11 ยังได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดในแต่ละจังหวัด กำหนดกลุ่มเป้าหมายโรงพยาบาลที่ต้องทำเรื่อง RDU ให้สำเร็จ ลักษณะเหมือนกับเป็น Small Success เริ่มจากโรงพยาบาลขนาดเล็ก 10-30 เตียง เมื่อสำเร็จแล้วจึงค่อยขยายไปยังโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อีกทั้งมี Role Model เช่น จ.ระนองมีโรงพยาบาล 2 แห่งที่ผ่าน RDU ขั้นที่ 2 และ 3 ก็มีการมอบเกียรติบัตรในนามของสำนักงานเขตสุขภาพที่ 11 ให้ทั้งโรงพยาบาล ผู้อำนวยการ แพทย์และเภสัชกรที่รับผิดชอบเรื่องนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติ

“ปัจจัยสุดท้ายคือเมื่อผู้ตรวจฯให้ความสำคัญ ผู้บริหารทุกระดับตั้งแต่สาธารณสุขนิเทศก์ สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล และสาธารณสุขอำเภอต้องมีการกำกับติดตามอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนด้วย” นพ.นรเทพ กล่าว

นพ.นรเทพ กล่าวอีกว่า ในส่วนของการดำเนินงานด้าน RDU ของเขตสุขภาพที่ 11 ในอนาคต โรงพยาบาลที่ผ่าน RDU ขั้นที่ 3 แล้วก็ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป ส่วนโรงพยาบาลที่ยังไม่ผ่าน ก็ต้องพัฒนาขึ้นมา และที่สำคัญคือการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างสมเหตุผล ที่ผ่านมาการดำเนินงานยังอยู่ในสถานพยาบาลเป็นหลัก แต่ปัจจุบันทางเขตได้รณรงค์ให้ความรู้ประชาชนลงไปถึงในชุมชน ทั้งร้านโชว์ห่วย โมเดิร์นเทรดต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีการหารือกันว่าในอนาคตจะขยายการดำเนินงานไปสู่ภาคเอกชน เช่น คลินิกและร้านยาต่างๆ โดยจะเป็นการขอความร่วมมือให้ใช้ยาสมุนไพรในกลุ่มผู้ป่วยไข้หวัดและท้องเสียแบบไม่รุนแรงก่อนใช้ยาปฏิชีวนะ

ทั้งนี้เขตสุขภาพที่ 11 ประกอบด้วย 7 จังหวัด ดังนี้ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ระนอง, ชุมพร, พังงา, ภูเก็ต และ กระบี่

เรื่องที่เกี่ยวข้อง