ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สภาการสาธารณสุขชุมชน ยื่นหนังสือกรรมาธิการสาธารณสุข ขอความเป็นธรรมการจัดสรรเงินค่าตอบแทนวิชาชีพ พร้อมขอบรรจุขรก.กรณีโควิดรอบเดียวกัน หวั่นหากอยู่ระยะ 3 กว่า 7 พันคนอาจไม่ได้

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผู้แทนสภาการสาธารณสุขชุมชน นำโดยนายอเนก ทิมทับ กรรมการและเลขาธิการสภาการสาธารณสุขชุมชน ยื่นหนังสือต่อกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีการจัดสรรเงินค่าตอบแทนวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน และการบรรจุบุคคลเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีนางนาที รัชกิจประการ รองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ

นายอเนก ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ายื่นหนังสือดังกล่าวต่อกรรมาธิการสาธารณสุขฯ ว่า วันนี้ตนและผู้แทนสภาฯประมาณ 8 คน ได้เดินทางมายังสภาฯ เพื่อขอความเห็นใจแก่กรรมาธิการสาธารณสุขถึง 2 ประเด็น คือ กรณีค่าตอบแทนวิชาชีพ และการติดตามเรื่องการบรรจุลูกจ้างสังกัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นข้าราชการตั้งใหม่จากกรณีการปฏิบัติงานโควิด-19 โดยเรื่องการบรรจุเป็นข้าราชการนั้น ในส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชุมชน ซึ่งเป็นหนึ่งในวิชาชีพด้านสาธารณสุข เรียกว่า วิชาชีพสาธารณสุขชุมชน ปัจจุบันกระจายทำงานกว่า 7-8 หมื่นคนทั่วประเทศ เป็นสมาชิกในสภาการสาธารณสุขฯ 4 หมื่นกว่าคน และสอบขึ้นทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพแล้วกว่า 21,000 คน โดยทำงานในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)ประมาณ 80-90% ที่ส่วนใหญ่จะเรียกกันว่า หมออนามัย ซึ่งหมออนามัยจะรวมกลุ่มนี้และกลุ่มหมอ พยาบาลที่ทำงานในชุมชนนั่นเอง

“ในเรื่องการบรรจุข้าราชการสำหรับคนกลุ่มนี้สำคัญมาก เพราะพวกเราทำงานร่วมกับพื้นที่มาตลอด ทั้งอสม. บุคลากรสาธารณสุข เคาะประตูบ้าน คอยตรวจคัดกรองผุ้เข้าข่ายสงสัยติดเชื้อโควิด19 แต่ปัจจุบันยังเป็นลูกจ้าง ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ แม้ล่าสุดมติครม.ได้ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ดำเนินการจัดสรรการบรรจุตามบริบทนั้น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขแบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยกลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขชุมชนจะอยู่ในระยะที่ 3 จำนวน 7,438 อัตรา ตั้งแต่เดือนพ.ย.2563เป็นต้นไป ซึ่งพวกเราอยากขอความเป็นธรรมให้การบรรจุพร้อมกันทั้งหมด เนื่องจากการรอถึงระยะ 3 ค่อนข้างมีความไม่แน่นอน เนื่องจากทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ขอให้บรรจุพร้อมกันตั้งแต่รอบแรก หรือหากไม่ทันรอบที่ 2 ให้บรรจุช่วงเดือนส.ค.ก็ยังดี” กรรมการสภาฯ กล่าว

นายอเนก กล่าวอีกว่า ส่วนจำนวนตัวเลขการบรรจุ 7,438 อัตรา ทางพวกตนไม่ก้าวล่วง ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข แต่ขอเพียงได้รับการบรรจุรอบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานขอเข้าพบเพื่อขอความเห็นใจกับทางกระทรวงสาธารณสุข แต่ไม่สามารถเข้าพบได้ จึงได้เดินทางมาขอความเห็นใจกับทางกรรมาธิการสาธารณสุข โดยทางกรรมาธิการฯ รับปากว่าจะหารือกับทางกระทรวงฯ และทางคุณนาที รัชกิจประการ รองประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข รับปากจะปรึกษาท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

นายอเนก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องค่าตอบแทนนั้น เป็นการขอความช่วยเหลือในเรื่องการจัดสรรเงินค่าตอบแทนประเภทค่าตอบแทนวิชาชีพการสาธารณสุขชุมชน เนื่องจากเป็นวิชาชีพที่ไม่เคยได้รับเงินส่วนนี้เช่นเดียวกับวิชาชีพอื่นๆ ซึ่งสภาการสาธารณสุขชุมชนได้เสนอเรื่องนี้ และติดตามสอบถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแล้วเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2562 และวันที่ 31 ม.ค.2563 จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับทราบข้อมูลใดๆ จึงขอความเห็นใจเรื่องนี้

“ทุกวันนี้ผู้ประกอบวิชาชีพสาธารณสุขชุมชนเงินเดือนที่ได้รับน้อยมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มลูกจ้าง ทั้งพนักงานกระทรวงสาธารณสุข(พกส.) และพนักงานราชการ และอีกกลุ่มลูกจ้างรายเดือน บ้างก็รายคาบ หรือการจ้างรายวัน ซึ่งกลุ่มหลังไม่ได้รับสิทธิ์สวัสดิการอะไรเลย อย่างเงินเดือนที่ได้รับก็จะตามตำแหน่งเจ้าพนักงาน ซึ่งใช้วุฒิต่ำกว่าป.ตรี แต่ความเป็นจริงจบป.ตรีกันหมดโดยได้รับเงินเดือนประมาณ 8 พันกว่าบาท แต่หากได้บรรจุตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขก็จะได้รับเป็น 1.2 หมื่นบาท น้อยกว่าค่าจ้างขั้นต่ำเสียอีก” กรรมการและเลขาฯสภาฯ กล่าว