วัคซีนซิโนแวคถึงไทยแล้วอีก 1 ล้านโดส ส่วนแอสตราฯ ขอเลื่อนส่งออก จากกำหนดเดิม 14 มิ.ย.

ปลัดสธ. เผยล่าสุดซิโนแวค ถึงไทยแล้วอีก 1 ล้านโดส พร้อมส่งกรมวิทย์ตรวจคุณภาพก่อนให้ อภ.กระจายทุกจังหวัด ขณะที่วัคซีนแอสตราเซเนกาขอเลื่อนส่งออกไปอีก 2 วัน จากเดิมวันที่ 14 มิ.ย. ยังไม่ทราบเหตุผล แต่คาดว่ามีวัคซีนทยอยเข้ามาต่อเนื่องตามกำหนด

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ในวันนี้ประเทศไทยได้รับวัคซีนโควิด19 ของซิโนแวค จากประเทศจีน จำนวน 1 ล้านโดส ซึ่งลงเครื่องบินมาแล้ว ส่วนล็อตต่อไปยังไม่ทราบวันที่ชัดเจน แต่ส่วนใหญ่ทางบริษัทผู้ผลิตจะบอกในวันที่ใกล้ๆ กับช่วงที่จะขนส่งมา ทั้งนี้ วัคซีนซิโนแวคที่ได้รับวันนี้ ก็จะเข้ากระบวนการตรวจสอบอย่างที่เคยดำเนินการมาในล็อตที่ผ่านๆ มา โดยจะส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจรับรองรุ่นการผลิต(Lot release)

“หากดำเนินการเสร็จ เราก็จะกระจายวัคซีนออกไปให้เร็วที่สุด ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ดูตามความจำเป็น ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็อยู่บนหลักของการกระจายวัคซีนเพื่อประชาชน” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการส่งวัคซีนแอสตราเซนเนกา ในวันที่ 14 มิ.ย. เป็นอย่างไรบ้าง นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า ล่าสุด ได้รับรายงานจากกรมควบคุมโรคว่าบริษัทแอสตราฯ ขอเลื่อนเวลาการส่งออกไปประมาณ 2 วัน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบเหตุผลของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะมีวัคซีนทยอยเข้ามาต่อเนื่องตามกำหนด ขอให้สอบถามรายละเอียดความชัดเจนของเรื่องนี้กับทางบริษัทฯ เพื่อข้อมูลที่ถูกกต้อง

ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า วัคซีนซิโนแวค 1 ล้านโดส เดินทางมาถึงประเทศไทย เวลา 05.00 น. เข้าเก็บในคลังขององค์การเภสัชกรรม(อภ.)แล้ว โดยคาดว่าจะมีการวัคซีนที่ต้องทำการตรวจคุณภาพ มายังกรมวิทยาศาสตร์ฯ ประมาณบ่ายโมงของวันนี้ ใช้เวลาตรวจประมาณ 1-2 วัน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการตรวจสอบคุณภาพวัคซีนแล้ว แต่การจะนำออกไปใช้ได้ จะต้องมีใบ Summary Production Protocol หรือ SPP ที่เป็นเอกสารแสดงกระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนขั้นตอนสุดท้าย ควบคู่กับรับรองรุ่นการผลิต(Lot release) ที่ออกโดยกรมวิทยาศาสตร์ฯ ซึ่งเราต้องรอบริษัทผู้ผลิตฯ ส่งใบ SPP มาให้กับเรา หากกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ทางกรมฯ ก็จะออกใบรับรองรุ่นการผลิตให้ ซึ่ง อภ. ก็สามารถกรจายวัคซีนออกไปใช้ได้

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org