ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

การใช้กัญชาทางการแพทย์ (Medical cannabis) กำลังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้หลายประเทศลดระดับสถานะของกัญชาลงจากที่เคยถูกกำหนดให้เป็นสารเสพติดผิดกฎหมายอย่างเต็มที่ มาตอนนี้บางประเทศเปิดทางให้มีการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ และประเทศไทยก็ถูกจับตาในฐานะประเทศในเอเชียเพียงไม่กี่แห่ง (ไทย เลบานอน และศรีลังกา) ที่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้

แต่ระบบนิเวศของสตาร์ทอัพธุรกิจกัญชาเพื่อการแพทย์ไทยยังต้องใช้เวลาในการแหวกตัวเองออกจากธุรกิจแนวเดิมๆ แล้วสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ดังนั้นเราจะมาสำรวจกันว่าประเทศอื่นๆ สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ จากกัญชาเพื่อการแพทย์กันอย่างไรบ้าง

1. แผนที่ชี้ทาง

หนึ่งในธุรกิจที่ทำมารุ่นแรกๆ ก่อนที่กัญชาจะได้รับการอมุมัติให้ใช้อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐคือบริการแจ้งสถานที่ซื้อกัญชาเพื่อใช้ทางการแพทย์

รายแรกคือ Weedmaps เป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการอุตสาหกรรมกัญชา ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเออร์ไวน์ รัฐแคลิฟอร์เนีย บริการหลักของพวกเขาคือ Weedmaps.com ซึ่งให้บริการแจ้งสถานที่จำหน่ายกัญชาทางการแพทย์และการใช้เพื่อสันทนาการ รวมถึงแจ้งสำนักงานแพทย์ที่บริการกัญชา แบรนด์ผู้ผลิตกัญชา และบริการจัดส่งทั่วสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

เป้าหมายของ Weedmaps คือ "การขับเคลื่อนเศรษฐกิจกัญชาทั่วโลกที่โปร่งใสและครอบคลุม" กลุ่มเป้าหมายหลักของพวกเขาคือผู้ใช้กัญชาที่บรรลุนิติภาวะแล้วและการอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชาแบบทั่วถึง และยังเน้นไปที่ผู้ที่ได้รับความไม่เป็นธรรมจากสงครามต่อต้านยาเสพติดของสหรัฐอเมริกาที่ทำให้มีประชาชนมากมายถูกจับและถูกลงโทษตามกฎหมายจากการใช้กัญชาในยุคก่อนๆ เป้าหมายของพวกเขาคือการผลักดันให้มีการใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายที่มีมาตรฐานเดียวกันในระดับท้องถิ่นและระดับมลรัฐ (1)

พวกเขายังให้บริการ WM Learn ด้วยความร่วมมือกับแพทย์ นักวิจัย และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกัญชาสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับกัญชาทุกด้านผ่านทางออนไลน์ที่ครอบคลุมและแม่นยำ พวกเขายังจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านการศึกษาและพัฒนาโปรแกรมสำหรับอุตสาหกรรมเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับกัญชาอย่างลึกซึ้งในแง่ของพืชและวิธีการทำงานของกัญชาต่อร่างกายของเรา

Leafly ให้บริการคล้ายๆ กันโดยเน้นที่การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์พร้อมกับเสนอบทวิจารณ์ผลิตภัณฑ์เฉพาะและสายพันธุ์ของกัญชา ซึ่ง Weedmaps ก็มีบทรีวิวและเน้นการอธิบายสายพันธุ์กัญชาเช่นกัน) เว็บไซต์ของ Leafly ยังบอกสถานที่ตั้งสำนักงานแพทย์ที่บริการกัญชาและห้องแล็บที่เป็นหุ้นส่วนของบริษัท เว็บไซต์ Leafly อธิบายว่า "ในแต่ละปีมีผู้เยี่ยมชมมากกว่า 100 ล้านคนเนื่องจากความมุ่งมั่นของเราในด้านการศึกษาและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์" นี่อาจเป็นจุดแข็งของพวกเขาที่เน้นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ (2)

Leafly ยังให้น้ำหนักกับการรายงานข่าววงการกัญชาที่ถูกต้องแบบมืออาชีพ (cannabis journalism) เช่น การแจ้งเตือนความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ จัดทำรายงานเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ เช่น สถานะของเศรษฐกิจกัญชา และการหาข้อมูลมาหักล้างความเชื่อผิดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการการทำให้กัญชาเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกา

2. ผู้ช่วยส่วนตัว

Veriheal ถือเป็นหนึ่งในบริษัทกัญชาทางการแพทย์ชั้นนำของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษาและทรัพยากรกัญชาทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ บริการของพวกเขาเป็นแบบ Personalized นั่นคือลูกค้าสามารถเลือกบริการแบบที่ตัวเองต้องการได้และผู้ป่วยที่ต้องใช้กัญชาทางการแพทย์สามารถเชื่อมต่อกับแพทย์ที่ผ่านการรับรองในมลรัฐของตนได้อย่างง่ายดายเพื่อขอรับการอนุมัติสำหรับบัตรกัญชาทางการแพทย์ (Medical marijuana ID card หรือ Medical cannabis card)

บัตรกัญชาทางการแพทย์เป็นบัตรอนุญาตให้ผู้ป่วยสามารถใช้กัญชาได้เพื่อจุดประสงค์ทางการแพทย์ โดยมลรัฐนั้นๆ จะเปิดให้มีการลงทะเบียนสำหรับผู้ป่วยโรคที่มีความต้องการใช้กัญชา บางรัฐเช่นรัฐเพนซิลเวเนียจะมีรายชื่อของโรคที่สามารถขอบัตรอนุญาตได้และบัตรชนิดนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากแพทย์เสียก่อน และมีบางรัฐในสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ผ่านกฎหมายให้ใช้กัญชาอย่างถูกกฎหมายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการแพทย์หรือเพื่อการสันทนาการ ดังนั้นบัตรนี้ไม่ได้ออกได้ในทุกรัฐจากข้อมูลปี 2563 มีรัฐที่ออกบัตรอนุญาตนี้ได้ 33 รัฐ

Veriheal จับเอาจุดนี้เพราะบัตร Medical cannabis card จะต้องผ่านการประสานงานระหว่างผู้ถือบัตรและผู้รับรองบัตรอย่าวงใกล้ชิดและบัตรมีอายุแค่ 12 เดือนและต้องมีการพิจารณาโดยแพทย์ ค่าบริการของพวกเขาไม่สูงมาก ลูกค้าส่วนใหญ่เสียค่าใช้จ่ายที่ 199 ดอลลาร์ต่อปี และผู้ที่ไม่ได้รับอนุมัติให้ใช้บัตรกัญชาทางการแพทย์สามารถขอคืนเงินได้ ส่วนผู้ที่สามารถรับบริการได้ก็จะมีฝ่ายบริการลูกค้าที่พร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

เป็นที่น่าสังเกตว่าบริษัทเหล่านี้ในสหรัฐอเมริกาเน้นให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้กัญชาในชีวิตประจำวันอย่างมาก ไม่เพียงแต่อุทิศพื้นที่แพลตฟอร์มของพวกเข้าให้กับการให้ข้อมูลจริงและและทำลายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชา พวกเขายังส่งเสริมคนรุ่นใหม่ให้เป็นกำลังหลักของธุรกิจกัญชาด้วย Veriheal ก็เช่นกัน พวกเขาใช้วิธีมอบทุนการศึกษาให้นักเรียนมัธยมปลายและนักศึกษาวิทยาลัยที่ขัดสนเรื่องเงิน โดยให้เงิน 1,000 ดอลลาร์ต่อคนต่อปี โดยที่ผู้ขอทุนต้องเขียนเรียงความแสดงวิสัยทัศนว่าอุตสาหกรรมกัญชาสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้อย่างไร (3)

3. พัฒนาแกตเจ็ต

Syqe Medical บริษัทในอิสราเอลพัฒนาอุปกรณ์แบบพ่นสูด (Inhaler) สำหรับใช้กับกัญชา ช่วยให้ผู้ใช้กัญชาเพื่อการแพทย์สามารถรับปริมาณกัญชาในระดับแม่นยำและอยู่ในระดับที่ปลอดภัยเพื่อใช้เป็นยารักษาหรือบรรเทาอาการของโรค (4) บริษัทสัญชาติอิสราเอลรายนี้ยังพบว่าปริมาณสารบรรเทาปวดในกัญชา คือ tetrahydrocannabinol (THC) ที่ต่ำมากสามารถบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ช่วยให้ผู้ใช้หลีกเลี่ยงการใช้สารจากกัญชาในระดับที่สูงจนอาจมีผลข้างเคียงอื่นๆ เกิดขึ้นได้ เช่น อาการมึนเมา (5)

Syqe Medical ได้ทำการทดลองทางคลินิกที่โรงพยาบาลรัมบัม ในเมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล และตีพิมพ์ใน European Journal of Pain ผลการทดลองแสดงให้เห็นว่าขนาด THC ที่เหมาะสมที่สุดและมีสมดุลสำหรับการบรรเทาอาการปวดของผู้ป่วยโดยสามารถลดผลข้างเคียงและผลทางจิตเวชจะอยู่ที่เพียง 500 ไมโครกรัม อุปกรณ์ของบริษัทช่วยให้ผู้ป่วยรับกัญชาในปริมาณที่เหมาะกว่าวิธีอื่น เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งการสูบกัญชาเฉลี่ยวันละ 1 กรัมมีปริมาณสาร THC ถึง 150,000 ไมโครกรัมโดยประมาณ (4)

ข้อมูลจาการทดลองกับผู้ป่วยในอิสราเอลที่ใช้อุปกรณ์แบบพ่นสูดแสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้กัญชาลดลงประมาณ 90 % เมื่อเทียบกับวิธีการอื่นๆ ในการใช้กัญชา เช่น การใช้น้ำมัน การสูบไอหรือเวปปิ้ง และการสูบแบบมวนบุหรี่หรือพันลำ (4)

ตอนนี้อุปกรณ์แบบพ่นสูดของ Syqe Medical ได้รับการอนุมติให้ใช้ในสหภาพยุโรปแล้วและล่าสุดเพิ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ในแคนาดา

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีงานวิจัยที่สนับสนุนบริการกัญชาทางแพทย์ แต่การวิจัยโดยรวมเกี่ยวกับผลกระทบด้านสุขภาพของกัญชาทางการแพทย์นั้นมีคุณภาพต่ำ ตัวอย่างเช่น มีผู้เข้าร่วมการทดลองและวิจัยจำนวนน้อยหรือมีผู้ออกจากการร่วมการวิจัยกลางคันค่อนข้างสูงแต่งานวิจัยก็ยังดำเนินต่อไป ซึ่งนำไปสู่ปัญหาด้านความน่าเชื่อถือของข้อมูล นอกจากนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์จะเป็นการรักษาที่มีประโยชน์อย่างถาวรหรือไม่และยังไม่ชัดเจนว่าผลเสียของมันจะมีมากว่าคุณประโยชน์หรือไม่ (6)

 

อ้างอิง

1. https://weedmaps.com/corporate/mission

2. https://www.leafly.com/news/about

3. Taneia, Surles. (Febuary 4, 2021). "Veriheal: A CannaTech Company focused on Medical Marijuana Card Accessibility". Green Market Report.

4. Solomon, Shoshanna. (April 28, 2021). "Israeli medical cannabis inhaler gets Canada’s marketing nod". The Times of Israel.

5. Jeffey, Nathan. (July 10, 2020). "Medical marijuana best taken in ‘micro-doses’ with no high, Israeli firm says". The Times of Israel..

6. Pratt M, Stevens A, Thuku M, Butler C, Skidmore B, Wieland LS, Clemons M, Kanji S, Hutton B (December 2019). "Benefits and harms of medical cannabis: a scoping review of systematic reviews". Syst Rev (Systematic review). 8 (1): 320. doi:10.1186/s13643-019-1243-x

ภาพประกอบ © O'Dea at Wikimedia Commons, CC BY-SA 4.0