ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“พี่หนุ่ย” สุรีรัตน์ สูงสว่าง ทันตแพทย์โรงพยาบาลน่าน  เล่าถึงบทบาทที่ได้รับผิดชอบ  ไม่ใช่แค่ทำฟัน! เราพร้อมเป็นกระบอกเสียงและสร้างพลังใจให้ทุกคน ผ่านช่วงสถานการณ์โควิดครั้งนี้ไปด้วยกัน

ทพญ.สุรีรัตน์ สูงสว่าง ทันตแพทย์และผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ โรงพยาบาลน่าน เล่าว่า  ได้มีบทบาทหน้าที่ในการช่วยประสานหรือติดต่อในเรื่องของการจัดหาวัสดุครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่หน่วยงานรัฐฯ ได้จัดสรรให้มานั้นไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากในพื้นที่เกิดการระบาดมากขึ้นหลายเท่า ทำให้โรงพยาบาลขาดแคลน รวมถึงไม่ใช่แค่เครื่องมือทางการแพทย์เท่านั้นที่ไม่พอ แต่ยังมี หน้ากากอนามัย อาหาร ชุด PPE  เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของวัคซีน ที่เราต้องช่วยเป็นกระบอกเสียง หรือ ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้มีความรู้และเกิดความเข้าใจ ว่าทำไมต้องฉีดวัคซีน ทำไมถึงต้องเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ได้รับวัคซีนก่อน และมีความจำเป็นมากแค่ไหนที่เราต้องช่วยกันให้ผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้  

สำหรับอุปสรรคในการทำงาน อาจมีคนบางกลุ่มที่ยังไม่เข้าใจในกระบวนการทำงานของเรา ว่าทำไมเราต้องทำงานหนักมากขนาดนี้ แต่เราต้องขอบคุณประชาชนทุกภาคส่วนที่ให้การตอบรับและสนับสนุนมาโดยตลอด และเรายังโชคดีที่มีผู้บริหารมองเห็นความสำคัญ และให้การสนับสนุนในทุกด้านมาโดยตลอดเป็นอย่างดี

ทพญ.สุรีรัตน์  เล่าว่า ในช่วงโควิดรอบแรก เราเคยได้ระดมทุนขอข้าวขอน้ำ ให้โรงพยาบาลสนามมาแล้ว นึกย้อนไปวันนั้น คิดว่าไม่มีทาง ที่จะมาถึงโควิดในวันนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเรียกว่ารอบที่เท่าไหร่  รอบที่ต้องขอสนับสนุนจากประชาชนอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องน้ำเรื่องข้าวทั้งเรื่องวัสดุครุภัณฑ์ ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง สื่อ social ช่วยให้เราผ่านวิกฤตไปได้ทุกรอบ เพราะเวลาที่เราได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ของที่โรงพยาบาลสนามต้องการจะมีมาเรื่อย ๆ

ทั้งนี้ ผู้บริหารที่ให้ความสำคัญกับงานทันตกรรม มีการปรับปรุงห้องเพื่อให้รองรับการรักษาทางทันตกรรมแม้โควิดระบาด ส่วนงานวัคซีนถึงแม้เราไม่ต้องไปฉีดวัคซีน เพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีเพียงพอ แต่ส่วนงานเอกสาร
มีน้องผู้ช่วยไปช่วยในทุกวันที่มีการฉีดวัคซีน  ทันตแพทย์ช่วยลงข้อมูลทางคอมฯให้คนไข้โรงพยาบาลสนาม เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระแพทย์ และพยาบาลให้เอกสารเสร็จทันในเวลาที่กำหนด

 หลายครั้งที่เราพยายามหางาน ว่า จะไปช่วยตรงไหนได้อีกบ้าง และมีหลายครั้งที่เสียงรอบข้างว่า ไม่ต้องทำอะไร ให้นั่งนิ่งๆ บ้าง กลัวจะเหนื่อยเกิน  จากที่ไปทำงานนอกห้องฟัน ช่วงนี้ ทุกฝ่าย ทุกทีม ทำงานหนักเพื่อให้ผ่านวิกฤตนี้ ไปให้ได้  

“เอาจริงๆ ทันตแพทย์อาจจะไม่ได้ไปช่วยงานโควิดโดยตรง เพียงแต่แค่เห็นว่าเราพยายามไปช่วย ก็ดีต่อใจมากมายแล้ว เหมือนเป็นการเสริมสร้างพลังใจไปด้วยกัน  ด้วยสถานการณ์วิกฤตครั้งนี้ ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะอีกยาวนานแค่ไหน ถ้าผ่านไปได้ และมองกลับมา เราจะมีความภูมิใจว่า เราเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านไปได้”  ทพญ.สุรีรัตน์ กล่าว

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org