ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

บางประเทศเพิ่งจะเห็นความสำคัญของการตรวจเชื้อ ตัวอย่างเช่นสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ต่อประเทศเมื่อวันที่ 9 กันยายนว่า “ส่วนที่สี่ของแผนของผมคือการเพิ่มการทดสอบและการสวมหน้ากาก ตั้งแต่เริ่มต้น อเมริกายังทำการทดสอบโควิด-19 ไม่เพียงพอ เพื่อตรวจจับและควบคุมสายพันธุ์เดลต้าได้ดียิ่งขึ้น ผมกำลังดำเนินการในคืนนี้เพื่อให้อุปกรณ์ทดสอบพร้อมใช้งานมากขึ้น ราคาไม่แพง และสะดวกยิ่งผมจะใช้พระราชบัญญัติการผลิตการป้องกันประเทศเพื่อเพิ่มการผลิตอุปกรณ์ทดสอบอย่างรวดเร็ว รวมถึงการทดสอบที่คุณสามารถใช้ที่บ้านได้" (1)

จะเห็นได้ว่าไบเดนเน้นความสำคัญของการแจกอุปกรณ์ตรวจการติดเชื้อเพราะการระบาดของเดลต้าแสดงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในกรณีนี้เทียบกับเสียงวิจารณ์ความบกพร่องของรัฐบาลสหรัฐที่ไม่ได้ทำการตรวจเชื้อในวงกว้างตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว

ความพยายามที่จะแจก Self-test kits ให้ประชาชนคราวนี้เร่งด่วนมากจนต้องอาศัยเส้นทางแบบ Fast track ถึงกับต้องงัดเอาพระราชบัญญัติการผลิตการป้องกันประเทศ (Defense Production Act) มาใช้ ซึ่งกฎหมายตัวนี้ให้อำนาจรัฐบาลอย่างมากเหนือกว่าสิทธิของภาคธุรกิจโดยอาศัยความจำเป็นเร่งด่วนด้านความมั่นคง

กฎหมายตัวผ่านขึ้นในสมัยสงครามเกาหลีประกอบด้วยสามส่วนที่สำคัญ ส่วนแรกอนุญาตให้ประธานาธิบดีมีอำนาจสั่งให้ภาคธุรกิจยอมรับและจัดลำดับความสำคัญของวัสดุที่ถือว่าจำเป็นสำหรับการป้องกันประเทศ โดยไม่คำนึงถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นในธุรกิจ กฎหมายยังอนุญาตให้ประธานาธิบดีกำหนดวัสดุที่จะห้ามไม่ให้กักตุนหรือปั่นราคา ส่วนที่สองอนุญาตให้ประธานาธิบดีสร้างกลไก (เช่น ข้อบังคับ คำสั่ง หรือหน่วยงาน) เพื่อจัดสรรวัสดุ บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อส่งเสริมการป้องกันประเทศ ส่วนที่สามอนุญาตให้ประธานาธิบดีควบคุมเศรษฐกิจพลเรือนเพื่อให้ได้มาซึ่งวัสดุที่หายากและจำเป็นต่อความพยายามในการป้องกันประเทศสำหรับความต้องการด้านการป้องกัน

ในสมัยสงคราม กฎหมายตัวนี้ช่วยรักษาอุปทานของวัสดุสำคัญที่ใช้งานด้านความมั่นคง แต่ในตอนนี้การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าถือเป็นภัยความมั่นคงอย่างหนึ่ง และ Self-test kits ถือเป็น "ยุทโธปกรณ์" ในสงครามกับโควิด-19 ดังนั้นไบเดนจึงต้องงัดกฎหมายตัวนี้เพื่อทำให้มันเข้าถึง "ทหาร" ทุกคนซึ่งก็คือประชาชนชาวอเมริกันทุกคนที่กำลังต่อสู้กับการระบาดใหญ่

ดังนั้น ไบเดนจึงกล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังทำงานร่วมกับผู้ค้าปลีกชั้นนำ เช่น Walmart, Amazon และ Kroger's และผู้ค้าปลีกที่มีเชนร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศหล่านี้จะเริ่มขายอุปกรณ์การทดสอบด่วน (rapid test kits ) ที่ดำเนินการด้วยตัวเองที่บ้านได้โดยตรึงราคาไว้ 3 เดือนนับจากนี้โดยลดลงสูงสุด 35%

ผลจากความร่วมมือกับภาคธุรกิจจะทำให้ให้อุปกรณ์ตรวจเชื้อที่มากพอ ไบเดนจึงกล่าวว่า "นอกจากนี้เรายังจะเพิ่ม— การแจกจ่ายอุปกรณ์ทดสอบฟรีที่ร้านขายยา 10,000 แห่งทั่วประเทศ และเราจะให้คำมั่น—เรามอบเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้ออุปกรณ์ทดสอบอย่างรวดเร็วเกือบ 300 ล้านชุดเพื่อแจกจ่ายให้กับศูนย์สุขภาพชุมชน ธนาคารอาหาร โรงเรียน เพื่อให้ชาวอเมริกันทุกคนไม่ว่าจะมีรายได้เท่าใด สามารถเข้าถึงการทดสอบที่สะดวกและฟรีได้ สิ่งนี้สำคัญสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองหรือเด็ก โดยที่เด็กยังไม่โตพอที่จะรับการฉีดวัคซีน คุณจะสามารถทดสอบได้ที่บ้านและทดสอบบุคคลใกล้ตัว" (1)

เป็นที่ทราบกันว่าเทคโนโลยีหลายๆ อย่างของสหรัฐอเมริกามีจุดเริ่มต้นมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหาร และความร่วมมือด้านการทหารกับภาคเอกชนทำให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มากมาย แม้แต่พระราชบัญญัติการผลิตการป้องกันประเทศที่ไบเดนนำมาใช้เพื่อรวบรวม Self-test kits จากภาคธุรกิจก็เป็นผลพลอยได้จากการทำสงครามที่มีต่อชีวิตของพลเรือนในยุคสันติ

นอกจากเหนือจากความกระตือรือร้นของภาครัฐแล้ว บริษัทในภาคธุรกิจของสหรัฐอเมริกายังลงมือแจก Self-test kits ให้กับพนักงานมาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว เช่น ในเดือนเมษายน Google เริ่มส่งชุดตรวจโควิด-19 ที่บ้านให้กับพนักงานของตนในสหรัฐฯ แต่พวกเขาไม่ได้แจกแบบธรรมดา เพราะวางแผนกระบวนการแจกผ่านบริษัทสตาร์ทอัพที่ที่ชื่อว่า Cue Health

ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับ Google ธุรกิจส่วนใหญ่ของ Cue Health เกี่ยวข้องกับการทำงานกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ โดยเป็นผู้กระจายอุปกรณ์การทดสอบด่วนให้แก่รัฐบาลกลาง เมื่อจับมือกับ Google แล้ว Google กลายเป็นลูกค้าภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดของบริษัท Cue Health (3)

อุปกรณ์ตรวจเชื้อของ Cue Health ประกอบด้วยไม้สว็อบ ตลับทดสอบ และเครื่องอ่านที่ใช้แบตเตอรี่ซ้ำได้ขนาดเท่ากับสมาร์ทโฟน จะส่งผลการทดสอบในเวลาประมาณ 20 นาทีและอัปโหลดไปยังแอปบนอุปกรณ์เคลื่อนที่โดยอัตโนมัติ โดยในเดือนมิถุนายน 2563 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้ Self-test kits ของบริษัทนี้นำใช้ในกรณีฉุกเฉินครั้งแรก

ในขณะที่ Self-test kits ที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่จะเป็นแบบใช้แอนติเจน ซึ่งเป็นการตรวจหาโปรตีนจากไวรัสอุปกรณ์ของ Cue Health นั้นเป็นแบบโมเลกุล โดยจะทดสอบการมีอยู่ RNA ของไวรัสจึงสามารถตรวจจับไวรัสในปริมาณที่น้อยกว่าได้และให้ผลการทดสอบที่แม่นยำยิ่งขึ้น (4)

ความสำเร็จของ Cue Health สะท้อนความต้องการของอุปกรณ์การตรวจเชื้อที่จำเป็นมากขึ้นทุกวัน เพราะผลลัพธ์ก็คือบริษัทนี้สามารถผลักดันตัวเองจนเข้าตลาดหุ้นได้ และในวันแรกของการซื้อขายหุ้นก็มีมูลค่าเกือบ 2,300 ล้านดอลลาร์ หุ้นเปิดเหนือราคา 16 ดอลลาร์ที่ตั้งไว้เมื่อคืนก่อนเปิดขายจริงและปิดที่ 20 ดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 25% ในวันแรกของการซื้อขาย ราคาหุ้นของบริษัทที่ขาย Self-test kits พุ่งขึ้นขนาดนี้ไม่ใช่การปั่น แต่เป็นเพราะสถานการณ์พาไป นั่นคืออุปกรณ์แบบนี้จะมีความจำเป็นมากขึ้น

ด้วยความจำเป็นที่มากขึ้นนี่เองที่ทำให้มันเริ่มขาดตลาดและเกิดการตุนหนักขึ้นในช่วงที่สหรัฐอเมริกาเผชิญกับการระบาดของเดลต้าที่รุนแรงมาก มากจนกระทั่งแม้ว่าโจ ไบเดนจะให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดหาชุดตรวจให้ประชาชนโดยร่วมมือกับภาคเอกชน แต่มันก็ยังขาดตลาดจนกระทั่งสื่อบางแห่งเรียกมันว่าเป็น "สินค้าโภคภัณฑ์ที่หาได้ยาก (rare commodities)

เนื่องจากความต้องการสูง CVS บริษัทค้าปลีกสินค้าเวชภัณฑ์ของสหรัฐฯ ซึ่งมีสาขาเกือบหนึ่งหมื่นแห่งจึงจำกัดจำนวนลูกค้าแต่ละรายที่สามารถซื้อชุดตรวจได้ในแต่ละครั้ง ไม่เกิน 6 ชุดสำหรับการสั่งซื้อออนไลน์ และไม่เกิน 4 ชุดสำหรับการสั่งซื้อด้วยตนเอง แต่ถึงจะซื้อได้แต่มันก็ไม่ได้มีราคาถูกเลย ด้วยราคาที่สูงจึงเป็นข้อกังวลอีกประการหนึ่งสำหรับการเข้าถึงอุปกรณ์การทดสอบ ราคาถูกที่สุดที่ขายที่ CVS คือ 24 ดอลลาร์สำหรับแพ็ค 2 ชิ้น บางแห่งขายกันในราคาสูงเกือบ 40 ดอลลาร์ ในแถลงการณ์ของไบเดนนั้นบอกแค่เพียงว่า Amazon, Kroger และ Walmart จะลดราคาลง 35% ชั่วคราว (6)

แม้จนถึงขณะนี้ สื่อบางรายยังโจมตีรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าดำเนินนโยบายผิดพลาดโดยเน้นที่วัคซีนมากกว่าการตรวจเชื้อแบบเร่งด่วน เมรา แอสปอนอลล์ (Mara Aspinall) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวินิจฉัยโรคและศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยรัฐแอริโซนากล่าวกับ The Hill ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จำเป็นต้องตระหนักว่า นอกเหนือจากการฉีดวัคซีนแล้วการตรวจเชื้อคือหนทางที่จะยุติการแพร่ระบาดนี้ เพราะแม้จะมีวัคซีนที่ดี แต่ก็ยังมีเคสที่เชื้อแหกด่านการป้องกันของวัคซีนได้หลายเคส (5)

สื่ออเมริกันยังชี้ว่า Self-test kits ซึ่งสามารถให้ผลลัพธ์ได้ในเวลาเพียง 15 นาที ถือเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเปิดประเทศและคลายมาตรการเว้นระยะทางสังคม ทำให้โรงเรียน สถานที่ทำงาน และกิจกรรมขนาดใหญ่ เช่น การประชุม คอนเสิร์ต และงานแต่งงานสามารถทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น (5)

โดยเฉพาะการเปิดการเรียนการสอน เริ่มมีเสียงสนับสนุนให้ผ่อนปรนการปิดโรงเรียนและหันมาใช้วิธีตรวจที่รู้ผลด่วนแทน เช่น โรงเรียนในรัฐยูทาห์ แมสซาชูเซตส์ และที่อื่นๆ ได้เริ่มใช้วิธีที่เรียกว่า "การทดสอบเพื่ออยู่ต่อ" (test to stay) ซึ่งก็คือนักเรียนที่ติดต่อใกล้ชิดกับนักเรียนที่ผลตรวจเป็นบวกยังคงสามารถอยู่ในโรงเรียนได้ ตราบใดที่พวกเขาทำการตรวจทุกวันและมีผลเป็นลบ แนวทางนี้งานวิจัยในอังกฤษสนับสนุนโดยชี้่ว่าการทำ test to stay ให้ผลในการควบคุมการระบาดเท่าๆ กับการกักตัว (7)

 

อ้างอิง

1. "Remarks by President Biden on Fighting the COVID-⁠19 Pandemic". (September 9, 2021). White House.

2. Wikipedia contributors. "Defense Production Act of 1950." Wikipedia, The Free Encyclopedia. Wikipedia, The Free Encyclopedia, 15 Sep. 2021. Web. 26 Sep. 2021.

3. Elias, Jennifer. (September 24, 2021). "Google’s provider of at-home Covid-19 tests is now a $3 billion company traded on Nasdaq". CNBC

4. Jennings, Katie. (September 24, 2021). "Covid Test Maker Cue Health Goes Public At $2.3 Billion Valuation As Demand Surges". Forbes.

5. Weixel, Nathaniel. (September 23, 2021). "Biden under pressure to expand rapid COVID-19 testing". The Hill

6. Kast, Brett. (September 22, 2021). "At home COVID test kits in high demand".WXYZ.

7. North, Anna. (September 23, 2021). "A simple solution to endless school quarantines". Vox.

ภาพ Safe Corona Rapid Test Diagnostic