เตรียมสแกนต่างชาติเข้าไทย ใครประกันสุขภาพไม่ครอบคลุมต้องซื้อเพิ่ม ณ  สนามบิน  

สธ.ถก คปภ.-ก.ท่องเที่ยว จัดแพคเกจประกันสุขภาพต่างชาติเข้าไทยให้ครอบคลุมค่ารักษาตามแนวทางที่กำหนด หากไม่ถึงต้องซื้อเพิ่ม ณ จุดสนามบิน  เพื่อคุ้มครองทันที  ไม่ต้องสำรองจ่าย  พร้อมเปิด Hotel Isolation รองรับนักท่องเที่ยวประกันไม่ครอบคลุม แต่ต้องจ่ายเอง   

เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2565 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงการเตรียมสถานพยาบาลและสถานที่สำหรับดูแลผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ว่า นโยบายกระทรวงสาธารณสุขขณะนี้เน้นการรักษาที่บ้าน (Home Isolation : HI ) และศูนย์กักตัวในชุมชน (Community Isolation :CI ) เป็นหลักเพราะคนติดเชื้อไม่มีอาการ ส่วนคนที่มีอาการน้อย อาจจะเข้าระบบฮอทพิเทลส่วนใหญ่อยู่ในกทม. และปริมณฑล 116 แห่ง รวมประมาณ 30,000 เตียง มีบางส่วนปิดตัว และบางส่วนขอเปิดเพิ่ม ซึ่งก็เป็นไปตามกลไก ส่วนการจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยโควิดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับอัตราการจ่ายให้มีความเหมาะสม โดยจะเสนอเข้าครม. เพื่อพิจารณาก่อนประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา อย่างไรก็ตาม การจัดให้ผู้ป่วยเข้ารับการดูแลผ่านระบบใดนั้นอยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์  

สำหรับกรณีคนต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทยซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหาว่าประกันสุขภาพที่ซื้อมาจากต่างประเทศ ไม่ครอบคลุมเรื่องการรักษาตามเกณฑ์ของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเน้นการรักษาที่ HI/CI ดังนั้น สบส.จึงได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในการปรับ และจัดหาบริษัทประกันสุขภาพที่ครอบคลุมการรักษาในประเทศไทยเพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อเพิ่ม เบื้องต้นมีบริษัทประกัน 10 แห่งที่พร้อมในเรื่องนี้ และจะชงเข้าไปยังกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อดำเนินการจัดรวมแพคเกจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาในประเทศไทย โดยจะมีการหารือกัน  

นอกจากนี้  จะมีการตั้งจุดตรวจสอบที่สนามบินด้วย หากใครที่มีประกันสุขภาพไม่ครอบคลุมการเข้ารักษาในประเทศไทยก็จะให้ซื้อเพิ่ม  ย้ำว่าประกันฯ ที่ซื้อต้องมีผลคุ้มครองทันที ไม่ใช่ให้นักท่องเที่ยวสำรองจ่ายแล้วไปเคลมทีหลัง เพราะจะเกิดความไม่สะดวกกับนักท่องเที่ยว

นพ.ธเรศ กล่าวอีกว่า ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้ว เกิดการติดเชื้อ แต่ประกันฯ ที่ซื้อมาไม่ครอบคลุมนั้น ทางสบส.ได้มีการเปิดกักตัวในโรงแรม (Hotel Isolation) ไว้ดูแล ซึ่งระบบดังกล่าวถือว่ามีความเหมาะสม ในการดำเนินการสำหรับการดูแลนักท่องเที่ยวจากนี้ อีกทั้ง ยังใช้โรงแรมระดับ 2 ดาว 3 ดาวได้ ไม่ต้องมีแพทย์ประจำ โดยนักท่องเที่ยวจ่ายค่าบริการเอง เน้นจังหวัดท่องเที่ยว นอกจากนี้ ระบบกักตัวรักษาในโรงแรมนั้นจะปรับเป็นอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับคนไทยที่ติดเชื้อแต่ไม่สะดวกในการรักษาตัวที่บ้าน แล้วทางสปสช. ก็จะไปตามจ่ายในอัตราเดียวกันกับการจ่ายค่าดูแลในระบบการรักษาตัวที่บ้าน ประมาณ 1,000 บาทต่อหัว รวมอาหาร 3 มื้อ มีแพทย์คอยติดตามอาการผ่านระบบออนไลน์ โดยให้ติดต่อที่ 1330 เข่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่สธ.มีนโยบายการรักษาที่ HI/CI แต่ประชาชนกังวลว่าจะไม่สามารถนำไปเคลมประกันสุขภาพได้ หากไม่ได้เข้ารับการรักษาในรพ. ดังนั้นจะหารือถึงความชัดเจนในเรื่องนี้กับคปภ.เพิ่มเติมหรือไม่ เพื่อไม่ให้คนแห่ไปแน่น รพ.อีก นพ. ธเรศ กล่าวว่า เรื่องนี้เพิ่งรับทราบจริงๆ ดังนั้นต้องมีการหารือกับทางคปภ.เพิ่มเติม

ทั้งนี้ความแตกต่างระหว่างฮอทพิเทล กับโฮเทลไอโซเลชั่น คือ ในส่วนของฮอทพิเทลมีลักษณะเป็นน้องๆ รพ. มีแพทย์ คอยดูแล มีการจับคู่รพ.คู่สัญญา ส่วน โฮเทลไอโซเลชั่นนั้นมีลักษณะคล้ายกับโฮมไอโซเลชั่น คือมีแพทย์ติดตามอาการผ่านระบบออนไลน์

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org