ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ณ อาคารศูนย์มะเร็งเฉลิมพระเกียรติจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงฯ ไปจนถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปร่วมประชุมวิชาการวันมะเร็งโลก เขตสุขภาพที่ 7

โดยกิจกรรมภายในประกอบไปด้วย งานบรรยายทางวิชาการเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง, พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง ราชวิทยาลัยสูตินารี แห่งประเทศไทย และปลัดกระทรวงสาธารณสุข, การมอบชุดคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่บ้านด้วยตนเอง(Self HPV Test), การมอบกล้องส่องปากมดลูกพร้อมระบบจัดเก็บภาพทางการแพทย์ไป และการตรวจเยี่ยมงานให้บริการรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยเครื่องฉายรังสี(LINAC)

ระหว่างปฏิบัติภารกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบันนี้จังหวัดร้อยเอ็ด มีเครื่องฉายรังสีแล้ว 2 เครื่อง โดย เครื่องใหม่ เพิ่งได้รับมอบมาไม่นานและเป็นหนึ่งในเจ็ดเครื่องที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติจัดหาเข้ามา เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ด้วยการลดการเดินทางของประชาชน จะได้ลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งยังเป็นส่วนที่ช่วยป้องกันโควิด-19 ด้วย

นอกจากนั้น ยังเป็นการส่งเสริมนโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ ซึ่งอันที่จริง ต้องการให้เป็น Cancel Cancer มากกว่า ไม่อยากเห็นประชาชนต้องเจ็บป่วย แต่เมื่อป่วยกันมาแล้ว ก็พร้อมรักษา

สำหรับเครื่องฉายรังสี LINAC เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญกับผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ก็ร่วมอยู่ด้วย ยินกับพี่น้องในจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดใกล้เคียง การที่มีเครื่องฉายรังสีในพื้นที่เพิ่มเข้ามาอีก 1 เครื่อง โดยมีเป้าหมายในการให้บริการนั้น วางไว้สูงที่วันละ 80 คน แต่ในอนาคต ถ้ามีความต้องการเพิ่มขึ้น เชื่อว่าภาครัฐ ก็ต้องจัดหามาดูแลประชาชน

ทั้งนี้ ตนพอใจมาก กับการบริหารการจัดการที่ดี การดูแลคนไข้ที่ดี ตั้งแต่การป้องกัน บำบัดรักษา ไปจนถึงการดูแลประคับประคอง เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากที่สุด 

“ขอขอบคุณบุคลากรการแพทย์ทุกท่าน กับการยกระดับระบบสาธารณสุขไทย และสร้างความมั่นคงแข็งแรงแก่สุขภาพ แก่ประชาชน ที่ทราบมา คือ นโยบายมะเร็งรักทุกที่ เพิ่มความสะดวก กับผู้ป่วย เมื่อสักครู่ได้พบผู้ป่วยมะเร็งที่มารักษาที่นี่ ทางผู้ป่วยทราบว่าที่นี่มีเครื่องไม้ เครื่องมือที่ทันสมัย และขอบคุณบุคลากรทางการแพท์ ที่ดูแลกัน

เพราะได้รับความสะดวก บรรดาทีมแพทย์ พยาบาลที่ใหการดูแล จากข้อมูลที่ ส่งเข้ามา ท่านพอใจกับนโยบายนี้ เพราะได้กระจายการให้บริการด้วย เรื่องการรักษา เราทำเต็มที่ แต่มันก็ต้องดูเรื่องการป้องกันด้วย ได้กำชับกรมอนามัยแล้ว เพราะเอาเข้าจริง ไม่ต้องการเห็นใครป่วยทั้งนั้น”