ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมควบคุมโรคเผยสวมหน้ากากอนามัยนอกจากป้องกันโควิด ยังช่วยกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5   ชี้สถานการณ์ฝุ่นปีนี้ถือว่าดีเมื่อเทียบปีอื่นๆ แต่ช่วง 2-3 วันนี้อากาศปิด ไม่ถ่ายเท ทำเกิดปัญหาสุขภาพได้ ขอทุกคนหลีกเลี่ยงพื้นที่ค่าฝุ่นสูง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว                                            

 

เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีค่าฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นในช่วงนี้ ว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาเผยแพร่ข้อมูลว่าช่วง 2-3 วันนี้อากาศจะปิด ไม่ถ่ายเท แต่จริงๆ ในเรื่องของปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมากกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 หากเทียบปีอื่นๆ พบว่าปีนี้สถานการณ์ดี แต่จะมีช่วงนี้ที่อากาศไม่ถ่ายเท ร่วมกับการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ทั้งนี้ การสวมหน้ากากอนามัยของประชาชน ก็จะช่วยป้องกันฝุ่นในระบบทางเดินหายใจได้ส่วนหนึ่ง

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลค่าฝุ่นละอองที่จะก่อปัญหาต่อสุขภาพจากแอปพลิเคชั่น Air4 Thai และการรายงานวิเคราะห์ข้อมูลจากกรมอุตุฯ เป็นระยะ โดยให้หลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงๆ เป็นสีม่วง สีแดง สีส้ม โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ไม่ควรออกนอกบ้าน ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่าฝุ่นจะอยู่ในอีก 2-3 วันนี้ ดังนั้นเป็นช่วงสั้นๆ ผลกระทบก็จะไม่เยอะ แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพยากรณ์สภาวะอากาศและผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 โดยกรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 12-18 เม.ย.65 สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆน้อยบางส่วน อุณหภูมิสูงสุด 37 องศา ต่ำสุด 28 องศา ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ สลับกับทิศเหนือ ด้วยความเร็วลมเฉลี่ย 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเขียว ที่เป็นเกณฑ์น้อย

 

ภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา น่านและแพร่ มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ย 10% อุณหภูมิสูงสุด 40 องศา ต่ำสุด 20 องศา ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วลม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลือง ที่เป็นเกณฑ์ปานกลาง

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน  ได้แก่ บึงกาฬ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม กาฬสินธุ์ ขอนแก่ มหาสารคาม สกลนคร และชัยภูมิ มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ย 10% อุณหภูมิสูงสุด 38 องศา ต่ำสุด 25 องศา ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันตก ด้วยความเร็วลม 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลืองเข้ม ที่เป็นเกณฑ์ค่อนข้างมาก

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง  ได้แก่ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี  มีโอกาสเกิดฝนเฉลี่ย 10% อุณหภูมิสูงสุด 36 องศา ต่ำสุด 25 องศา ขณะที่ ทิศทางลมพัดไปทางตะวันตก ด้วยความเร็วลม 8-10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลกระทบต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 อยู่ในระดับสีเหลืองเข้ม ที่เป็นเกณฑ์ค่อนข้างมาก