ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

การกินยาดักไข้ ความเชื่อที่ถ่ายทอดกันมาในหลายครอบครัว โดยเชื่อกันว่า หากตากฝนมาให้กินยาดักไข้เสียก่อนจะได้ไม่เป็นไข้ในภายหลัง กรณีนี้ นพ.พจน์ อินทลาภาพร หัวหน้างานโรคติดเชื้อกลุ่มงานอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลราชวิถี ให้ข้อมูลกับ Hfocus ว่า โดยหลักการไม่ควรทำ เพราะยาลดไข้เป็นการบรรเทาอาการเมื่อมีไข้แล้ว การกินยาดักไข้ไว้ก่อนโดยไม่รู้ว่าจะมีไข้จริงหรือไม่ ไม่ควรทำ ถ้าร่างกายไม่ได้มีไข้จริง อาจจะได้ผลข้างเคียง หรือมีโอกาสแพ้ยาได้ ทั้งนี้ หากรับประทานยาโดยไม่มีข้อบ่งชี้บ่อย ๆ ร่างกายจะได้รับยาซึ่งเป็นสารเคมีเข้าไปโดยไม่จำเป็น ถ้ารับประทานเกินขนาดหรือทานบ่อย ๆ จะได้ผลข้างเคียง เช่น ยาพาราเซตามอลจะมีผลต่อตับหรือมีปัญหาตับอักเสบได้ หากรับประทานยาชนิดนี้มากเกินไป

ส่วนความเชื่อที่ว่า หากเริ่มรู้สึกไม่สบายตัวให้เลือกรับประทานยาฟ้าทะลายโจรจะดีกว่ายาพาราเซตามอล เพื่อดักไข้ไว้ก่อนนั้น นพ.พจน์ ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง สรรพคุณของยาฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ลดไข้ บรรเทาอาการเจ็บคอ ปวดเมื่อยตัว ถ้ามีอาการคล้ายไข้หวัด เจ็บคอ มีไข้วัดได้เกิน 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไปก็ค่อยรับประทาน ไม่จำเป็นต้องรับประทานดักไว้ก่อน ถ้าสาเหตุของไข้ไม่ได้เกิดจากไข้หวัดหรือคออักเสบจากเชื้อไวรัส แต่เป็นไข้จากสาเหตุอื่น เช่น ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ข้อบ่งชี้ก็ไม่ได้ครบถ้วนที่ต้องรับประทานยาฟ้าทะลายโจร อย่างไรก็ตาม หากกินยาฟ้าทะลายโจรแล้วไข้ยังไม่ลด และต้องการกินยาพาราเซตามอลต่อ ต้องเว้นช่วงรอ 2-4 ชั่วโมงก่อนให้ฤทธิ์ของยาฟ้าทะลายโจรออกไปก่อน ไม่ควรจะทานพร้อมกัน เนื่องจากยาทั้ง 2 ชนิดนี้ขับออกที่ตับเหมือนกัน จะทำให้ตับอักเสบได้ถ้ารับประทานพร้อมกัน หากไม่มีอาการเจ็บคอให้ทานยาพาราเซตามอลตามข้อบ่งชี้ทุก 4-6 ชั่วโมง 

"ยาฟ้าทะลายโจรที่จำหน่ายในท้องตลาดยังมีหลายขนาดมาก ต้องดูตามฉลากด้วยว่าให้ทานปริมาณเท่าไหร่ เพราะยาฟ้าทะลายโจรที่รับประทานเพื่อรักษาเชื้อโควิด-19 จะเป็นสารสกัดจากตัวใบหรือต้น ไม่ได้เป็นผงป่นใส่แคปซูล จึงมีความเข้มข้นของสารเคมีที่ช่วยต้านไวรัสมากกว่า หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินข้อบ่งใช้อาจทำให้เกิดตับอักเสบได้ จึงควรอ่านฉลากให้ดี ปกติแล้วไม่ควรรับประทานเกินวันละ 4 ครั้ง ในช่วงเวลา 6-8 ชั่วโมง และหากรับประทานฟ้าทะลายโจรผ่านไป 1-2 วันแล้ว อาการไม่ดีขึ้น ยังเจ็บคอ ก็ควรรีบพบแพทย์" นพ.พจน์ กล่าว 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org

เรื่องที่เกี่ยวข้อง