ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช.เยี่ยมดูงานแพทย์แผนไทย รพ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ชี้บริการเชิงรุกลงชุมชน มีทีมแพทย์แผนไทยดูแล "กลุ่มผู้สูงอายุ-ผู้ป่วยเรื้อรังติดบ้านติดเตียง -ผู้ป่วยระยะสุดท้าย" ร่วมกับสหวิชาชีพและทีมหมอครอบครัวอย่างต่อเนื่อง  ทั้งยังมีความโดดเด่นในการใช้การแพทย์แผนไทยดูแลผู้ป่วยควบคู่ไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน มีผู้ป่วยนอกรับบริการด้วยการแพทย์แผนไทยสูงถึง 25-33%
 
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.กวี วีระเศรษฐกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี และคณะสื่อมวลชน เดินทางไปเยี่ยมชมการดำเนินงานการบริการแพทย์แผนไทยโดยมี นายแพทย์ทวีรัชต์ ศรีกุลวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านผือ และคณะบรรยายสรุปการดำเนินงานการบริการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ณ โรงพยาบาลบ้านผือ จ.อุดรธานี
 


ทพ.อรรถพร กล่าวว่า การแพทย์แผนไทย เป็นอีกศาสตร์ที่ สปสช. ให้ความสำคัญและสนับสนุนให้หน่วยบริการใช้การแพทย์แผนไทยดูแลสุขภาพประชาชนร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน และโรงพยาบาลบ้านฝือ เป็นหนึ่งในหน่วยบริการที่มีความโดดเด่นในการให้บริการแพทย์แผนไทยร่วมกับเครือข่ายโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ โดยมีสัดส่วนผู้ป่วยนอกที่ได้รับการตรวจ วินิจฉัยรักษาโรค และฟื้นฟูสภาพด้วยศาสตร์การแพทย์แผนไทย ระหว่างปี 2562-2564 สูงถึง 25-33%
 
ทั้งนี้ โรงพยาบาลบ้านผือ มีการจัดบริการการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกคู่ขนานไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยคลินิกแพทย์แผนไทยจะให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยในกลุ่มอาการทางระบบกล้ามเนื้อและกระดูก, กลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ, กลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร, กลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิต(แก้ลม), กลุ่มอาการแก้ไข้ แก้ร้อนใน, กลุ่มอาการของระบบผิวหนัง, กลุ่มอาการทางระบบทางเดินปัสสาวะ, สูติศาสตร์นรีเวชวิทยา โดยเฉพาะบริการหัตการ นวด อบ ประคบ บริการทับหม้อเกลือสำหรับหญิงหลังคลอด ซึ่งมีจำนวนการเข้ารับบริการถึง 4,567 ครั้งระหว่างปี 2562-2564 และในปี 2565 มีคนไข้เข้าเข้ารับบริการอีก 174 ราย  


 
ด้านนางสาวกัลยรัตน์ พรหมพลจร แพทย์แผนไทย รพ.สต.กลางใหญ่ ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กล่าวว่า การทำงานตรงนี้ช่วยให้ลดเวลารอคอยในการให้บริการของประชาชนมากขึ้น ทำให้งานแพทย์แผนไทยเข้ามาช่วยในหลายๆเรื่อง และประชาชนให้การตอบรับอย่างดีมาตลอด ทั้งนี้เรายังมีการร่วมมือทำ "โครงการคลินิกเลิกบุหรี่" ซึ่งมีบุคลากรสหวิชาชีพที่เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องความจุของปอด พวกเราต้องทำให้คนไข้เห็นว่าการเลิกบุหรี่แล้วมันดียังไง ทำให้คนไข้เห็นความสำคัญว่าทำไมต้องเลิกบุหรี่  ในส่วนแพทย์แผนไทยเอง จะช่วยเสริมในเรื่องกิจกรรมการอบสมุนไพรซึ่งเราจะใช้น้ำมันหอมละเหย ที่ทำให้การเดินหายใจโล่งและความจุของปอดมีมากขึ้น ซึ่งเราได้ใช้เครื่องวัดและเห็นผลจริง

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการบริการหลังค]อดของรพ.สต. นั้น เราจะให้ความรู้ตั้งแต่ฝากครรภ์จนถึงคลอดเลย พยาบาลจะให้คำแนะนำหรือข้อดีของการรับบริการทำหม้อเกลือหลังคอด ซึ่งมีการนัดคนไข้เข้ามารับบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้งจะมีคุณไข้ที่ตกหายระหว่างทางบ้างคือฝากครรภ์กับ รพ.สต. แต่ไปคลอดที่อื่น ทำให้งานแพทย์แผนไทยจำเป็นต้องเข้าไปประสานงานด้วยตั้งแต่ต้น โดยการนัดให้มารับบริการหลังคลอดเลย เพราะคุณไข้มีวันกำหนดคลอดที่ชัดเจนอยู่แล้ว 

ส่วนเรื่องการส่งต่อข้อมูลนั้น เราจะมีกันทั้งสองกลุ่มคือ กลุ่มห้องคลอด ที่ทำหน้าที่ส่งคนไข้หลังคลอดให้กับแพทย์แผนไทยโดยตรงอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้คนไข้ตกหล่นและได้รับบริการอย่างครอบคลุม และ กลุ่มแพทย์แผนไทยที่คอยดูว่ามีประชาชนในพื้นที่มีการนัดหรือมาใช้บริการหรือไม่ซึ่งจะช่วยประสานงานได้อีกทางหนึ่ง สำหรับการเตรียมอุปกรณ์นั้น เรามีนโยบายว่า ทำยังไงจะลดต้นทุนในการบริการให้น้อยลงที่สุด เนื่องจากการใช้สมุนไพรเราจำเป็นต้องซื้อ ตนเล่าว่าเมื่อได้เข้ามาทำงานครั้งแรก ก็ทำการปลูกทุกอย่างที่ใช้ เพราะสมุนไพรเราสามารถปลูกเองได้ เรามีใช้ในท้องถิ่นอยู่แล้วไม่ต้องไปซื้อ นอกจากนี้เรายังมีการแปรรูปสมุนไพรเพื่อให้มีใช้ได้ทุกฤดูอีกด้วย 

สำหรับการบริการจะให้บริการตามมาตรฐานตามแพทย์แผนไทย คือ 5 กิจกรรม  แต่เราได้เพิ่มเติมมา เนื่องจากคุณแม่หลังคลอดแต่ละคนจะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน อาทิ คัดเต้านม น้ำนมไม่มา ท้องผูก ฯลฯ จึงได้เพิ่มกิจกรรมที่ 6 เข้ามา  ทั้งนี้รพ.สต. กลางใหญ่ ยังมีคลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย คือ น้ำมันกัญชา และ ขมิ้นทอง ซึ่งคนไข้ได้รับการตอบรับที่ดีมาก  นอกจากนี้เรายังมีการทำโครงการต่างๆ เช่น “โครงการแพทย์แผนไทยใส่ใจโควิด” ซึ่งเราจะนำยาสมุนไพรที่ช่วยบำรุงปอด แก้ไอ มาเผยแพร่ให้ชาวบ้านรู้และให้ฝึกปฏิบัติว่าจะนำไปกินอย่างไรให้ถูกวิธี  และ “โครงการนวดเท้าบรรเทาอาการชา” โดยเราให้แกนนำอสม. มาอบรมนวดเท้า เพื่อนำไปปฏิบัติกับคนที่บ้านหรือกับประชาชนที่ท่านได้ดูแล ซึ่งจะให้บริการทุกวันอังคาร ทำให้คนไข้ได้รับบริการอย่างเต็มที่และคุ้มค่าที่สุด