ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ในเว็บไซต์ Harvard Health Publishing ของวิทยาลัยแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Medical School) เผยแพร่บทความของ โรเบิร์ท เอช. ชเมอร์ลิง (Robert H. Shmerling, MD) บรรณาธิการอาวุโสของ Harvard Health Publishing เรื่อง "การระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลงหรือยัง?" ซึ่งผู้เขียนตั้งข้อสังเกตเรื่องคำนิยามของคำว่า "การระบาดใหญ่" (Pademic) ที่ทำให้การระบุการสิ้นสุดของการระบาดแตกต่างกันไปตามการตีความคำๆ นี้ของนักวิชาการรายต่างๆ แต่สุดท้ายแล้วเขาบอกว่า "ยังมีอีกมากที่ยังไม่แน่นอนเกี่ยวกับการระบาดใหญ่ของ COVID-19 น่าเสียดาย สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนชัดเจน ก็คือ เรายังไม่สามารถเรียกมันว่าจบได้อย่างสมบูรณ์" (1)

ดังนั้นจากคำถามของชื่อบทความว่า "การระบาดของ COVID-19 สิ้นสุดลงหรือยัง?" คำตอบก็มาจากตัวบทความนั่นเอง คือ "เรายังไม่สามารถเรียกมันว่าจบได้อย่างสมบูรณ์" นี่คือทัศนะของบรรณาธิการวารสารออนไลน์ด้านการแพทย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดรายหนึ่ง

ณ วันที่มีการเผยแพร่บทความนี้ (26 ตุลาคม 2565) ข่าวการระบาดในส่วนอื่นๆ ของโลกซาลงไปมากแล้ว จนแทบไม่มีใครสนใจอีกแล้วว่าจะมีคนป่วยกี่คน คนตายกี่คนจาก COVID-19 แต่สื่อก็ยังจับตาความเคลื่อนไหวของบางประเทศ เช่น จีน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาด แต่ก็ยังไม่เลิกมาตรการล็อคดาวน์ และ ณ เวลาที่บทความนี้ถูกเผยแพะร่ สื่อจับตาการล็อคดาวน์ที่เมืองอู่ฮั่นอีกครั้ง (เป็นบางส่วน) แต่ก็เป็นการชี้ให้เห็นว่าแม้การระบาดใหญ่จะล่วงเลยมานานถึง 3 ปีแล้ว แต่ "สมรภูมิอู่ฮั่น" ก็ยังไม่สงบจากการทำสงครามกับไวรัส อย่างน้อยก็ในทัศนะของรัฐบาลจีน

ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าอย่างไรบ้างกับเวลาที่ผ่านมาถึงกว่า 3 ปีแล้ว แต่เราจบหรือยังไม่จบกับการระบาดใหญ่?

 

1. 14 กันยายน 2565 ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า "เราไม่เคยอยู่ในฐานะที่ดีกว่านี้มาก่อนในการยุติการแพร่ระบาด แต่เรายังไม่ได้ไปถึงจุดนั้น แต่มองเห็นจุดจบอยู่ในสายตาแล้ว นักวิ่งมาราธอนไม่หยุดเมื่อเห็นเส้นชัย เธอจะวิ่งหนักขึ้นด้วยพลังงานทั้งหมดที่เธอมี เราก็ต้องทำเช่นกัน เราจะเห็นเส้นชัย เราอยู่ในตำแหน่งที่ชนะ แต่ตอนนี้เป็นเวลาที่แย่ที่สุดที่จะหยุดวิ่ง ตอนนี้เป็นเวลาที่จะวิ่งให้หนักขึ้นและทำให้แน่ใจว่าเราข้ามเส้นและเก็บเกี่ยวรางวัลจากการทำงานหนักทั้งหมดของเรา หากเราไม่ใช้โอกาสนี้ในตอนนี้ เราจะเสี่ยงกับเชื้อกลายพันธุ์ต่างๆ มากขึ้น การเสียชีวิตมากขึ้น การหยุดชะงักที่มากขึ้น และความไม่แน่นอนที่มากขึ้นเลยคว้าโอกาสนี้ไว้" (2)

2. 18 กันยายน 2565 ในการให้สัมภาษณ์กับรายการ 60 Minutes ของ CBS โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีการทำงานจำนวนมากเพื่อควบคุมไวรัส แต่เขาบอกว่า “เรายังคงทำงานกันอย่างหนัก แต่การระบาดใหญ่จบลงแล้ว” พร้อมกับชี้ไปที่ฝูงชนแล้วบอกวา

“ถ้าคุณสังเกต ไม่มีใครสวมหน้ากาก” เขากล่าว "ทุกคนดูสบายดี... ผมคิดว่ามันเปลี่ยนไปแล้ว" กระนั้นก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ บอกกับสื่อของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 19 กันยายน ว่าความคิดเห็นดังกล่าวของ ไบเดน ไม่ได้ส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบาย และไม่มีแผนที่จะยกเลิกภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของ COVID-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ (3)

3. 3 ตุลาคม 2565 ในรายงานของ Los Angeles Times ดร.โรเบิร์ต คิม-ฟาร์ลีย์ (Dr. Robert Kim-Farley) นักระบาดวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อของ UCLA Fielding School of Public Health กล่าวว่า "คำจำกัดความของการระบาดใหญ่คือการระบาดของโรคที่แพร่กระจายไปไกลกว่าประเทศใดประเทศหนึ่งหรือสองประเทศ" และการกำหนดจุดสิ้นสุดของการระบาดใหญ่คือการหาหรือกำหนดว่าเส้นฐานของผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 ที่ต่ำกว่าระดับการระบาดใหญ่อยู่ที่ไหน ปัญหาก็คือ “เราไม่มีเส้นฐานสำหรับ COVID เพราะเราไม่เคยมีมาก่อน” (4)

4. 22 ตุลาคม 2565 บาบาตุนเด โอโลโวกูเร (Babatunde Olowokure) ผู้อำนวยการด้านความมั่นคงด้านสุขภาพและเหตุฉุกเฉินของ WHO ในแปซิฟิกตะวันตกกล่าวว่า สิงคโปร์และนิวซีแลนด์กำลังประสบกับจำนวนผู้ป่วย COVID-19 เพิ่มขึ้น โดยการหมุนเวียนของตัวสายพันธุ์ย่อย COVID-19 Omicron XBB กำลังกระตุ้นการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในสิงคโปร์ ในขณะที่ BA.5 ยังคงเป็นตัวแปรหลักในนิวซีแลนด์

“สิงคโปร์กลับมาใช้มาตรการความปลอดภัยด้านสาธารณสุข เช่น การจำกัดผู้มาเยี่ยมโรงพยาบาลและบ้านพักคนชรา” เขากล่าวและย้ำว่า “การระบาดใหญ่ยังไม่จบ” (5)

จากตัวอย่างเหล่านี้ จะเห็นการนิยามว่าการระบาดใหญ่ยุติแล้วหรือไม่นั้นมีความสับสนมาก และขึ้นอยู่กับกรณีรายบุคคล/ประเทศมากกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนอกมาชัดเจนจากการเปรียบเทียบข้างต้นก็คือ ต่อให้บอกการระบาดยุติลงแล้วหรือชะลอตัวลงแล้ว การจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดก็ยังจำเป็นอยู่ และบางรายถึงกับยังกังวลว่าอาจจะมีความเสี่ยงจากเชื้อกลายพันธุ์ที่อัตนตรายที่อาจกลายเป็นภัยคุกคามได้อีกในอนาคต

ลิซา มิลเลอร์ (Lisa Miller) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา University of Colorado Anschutz Medical Campus กล่าวว่า "ฉันเข้าใจความต้องการที่ ไบเดน ต้องเผชิญในฐานะบุคคลสาธารณะเพื่อพยายามระบุให้ชัดว่าประเทศนี้อยู่ ณ จุดไหนและให้ความหวังและความมั่นใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าไวรัสจะกลายพันธุ์และมีวิวัฒนาการอย่างไร การกลายพันธุ์เหล่านี้อาจทำให้ไวรัสมีอันตรายน้อยลง แต่ก็เป็นไปได้ว่าตัวแปรถัดไปอาจเป็นอันตรายมากกว่า" (6)

บางทีการฟังทัศนะของผู้คนในวงการสาธารณสุขอาจจะให้ผลลัพธ์ที่สับสนเกินกว่าจะสรุปได้ หากฟังในแง่เศรษฐกิจ วิลเลียม ฮอก (William Hauk) รองศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ University of South Carolina กล่าวว่า  ระยะการระบาดใหญ่ของ COVID-19 อาจสิ้นสุดลงแล้วสำหรับในแง่เศรษฐกิจ แต่สถานการณ์ของมันยังไมปกติเหมือนก่อนการระบาดใหญ่เสียทีเดียว (6)

ในแง่นี้ เราคงยอมรับได้ว่ามันจบลงแล้วจริงๆ เพียงแต่แรงเฉื่อยหลายๆ ด้านยจากการระบาดใหญ่ยังคงดำเนินต่อไป และกว่าจะรู้สึกได้ถึงความปกติเดิม (ที่ไม่ใช่ความปกติใหม่) ก็อาจจะต้องใช้เวลาหลาสยปี

 

อ้างอิง

1. "Is the COVID-19 pandemic over, or not?". (October 26, 2022). Robert H. Shmerling. Harvard Health Publishing.

2. "WHO Director-General's opening remarks at the media briefing– 14 September 2022". (14 September 2022). WHO

3. "Covid-19 pandemic is over in the US - Joe Biden". (20 September 2022). BBC.

4. "‘The pandemic is over,’ some declare. It again misses larger point of COVID-19, experts say". (OCT. 3, 2022 ). LUKE MONEY, RONG-GONG LIN II. Los Angeles Times.

5. "WHO official warns COVID-19 pandemic "not yet over"" (2022-10-22). Xinhua.

6. "Is the pandemic over? We asked an economist, an education expert and a public health scholar their views" (September 21, 2022). William Hauk. Lisa Miller. Wayne Au.The Conversation

 

ภาพ https://en.wikipedia.org/wiki/COVID-19#/media/File:In_Rwanda_build_where_everyone_can_wash_hand_in_prevention_of_covid-19.jpg