ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

หลังทั่วโลกต้องเผชิญกับการล็อกดาวน์และข้อจำกัดการเดินทางนานถึง 2 ปี ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ลดความรุนแรงลงทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวในหลายประเทศเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง หนึ่งในนั้นคือ บาหลี เกาะยอดฮิตของอินโดนีเซียที่เคยต้อนรับผู้มาเยือนมากกว่า 6 ล้านคนต่อปีก่อนเกิดการแพร่ระบาด

ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อประมาณ 6.45 ล้านคนในอินโดนีเซียมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ในอาเซียนรองจากเวียดนาม และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพียง 51 คนในปี 2021 ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าการท่องเที่ยวในบาหลีเริ่มฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 10,000 คนต่อวันในสัปดาห์แรกของเดือนก.ย. คิดเป็น 50% ของอัตราปกติช่วงก่อนโควิด ซึ่งสูงกว่าแผนที่วางไว้ที่ 40% ภายในเดือนธ.ค.ปีนี้

ย้อนไปเมื่อต้นปีรัฐบาลอินโดนีเซียประกาศเป้าหมายจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.5 ล้านคนในการมาเยือนบาหลีภายในสิ้นปี 2022 สำหรับการเปิดประเทศอีกครั้งเมื่อเดือนก.พ. ปรากฏว่ารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวนับจากวันที่ 1 ม.ค. – 2 ก.ย. ของปีนี้มีนักเดินทางเข้ามาแล้ว 945,006 คน และคาดว่าจะทะลุเป้าได้ในช่วงเวลาที่เหลือหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นอกจากปรับตัวให้เข้ากับการท่องเที่ยวหมู่มากได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว การเปิดประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่มั่นคงก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของความสำเร็จที่ได้รับการชื่นชมจากเอกอัครราชทูตและผู้นำโลก และเป็นแนวทางฟื้นการท่องเที่ยวหลังโรคระบาดที่น่าสนใจ

 

** ผ่อนคลายข้อจำกัดทันสถานการณ์

แม้การเปิดเกาะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนก.พ.จะเริ่มต้นไม่ดีนักด้วยวิกฤตการแพร่ระบาดหนักที่เด้งกลับมาติดเชื้อหลักหลายหมื่นต่อวันในอินโดนีเซีย แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลายในเดือนถัดมา รัฐบาลก็ไม่รีรอที่จะผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เริ่มจากการประกาศกลับมาใช้ Visa on Arrival หรือวีซ่าที่ขอได้ ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง สำหรับบางประเทศ และยกเลิกเงื่อนไขการกักตัว

จากเดิมที่ผู้ฉีดวัคซีนครบโดสจะต้องกักตัว 5 วันและ 7 วันสำหรับคนที่ได้รับวัคซีนเข็มเดียว นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในโรงแรมอีกต่อไป นอกจากการกักตัวไม่กี่ชั่วโมงเพื่อรอผลตรวจ RT-PCR เมื่อเดินทางมาถึง แต่ยังคงมาตรการได้รับวัคซีนและผลตรวจเชื้อโควิด-19 ภายใน 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางเพื่อความปลอดภัย ซึ่งได้รับการตอบรับไปในทิศทางที่ดีจากจำนวนนักเดินทางที่เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามช่วงสำคัญที่กระตุ้นให้ฟื้นการท่องเที่ยวคือ การยกเลิกผลตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางมาถึงสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดสในเดือนพ.ค. และการเพิ่มจำนวนประเทศที่ใช้ Visa on Arrival ตามสถานการณ์ที่ค่อยๆ ดีขึ้น พร้อมกับผ่อนคลายไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่กลางแจ้ง

เมื่อบวกกับสถานการณ์โลกที่เริ่มมีการเดินทางมากขึ้นทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวแตะหลักแสนและพุ่งขึ้นต่อเนื่องจนมีตัวเลขเกือบ 3 แสนคนในเดือนส.ค.

ปัจจุบันบาหลีกลับมาใช้ Visa on Arrival ทั้งหมด 86 ประเทศ ขณะที่ 9 ประเทศในอาเซียนได้รับการยกเว้นวีซ่าเพื่อการท่องเที่ยว โดยยังคงข้อจำกัดไว้เรื่องผู้เดินทางระหว่างประเทศทีมีอายุ 18 ปีขึ้นไปยังต้องแสดงสถานะได้รับวัคซีนครบถ้วนก่อนเดินทาง 14 วัน ส่วนผู้เดินทางอายุ 0-17 ปีไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนแต่มีเงื่อนไขต้องเดินทางร่วมกับผู้ปกครอง และอาจต้องใส่หน้ากากสำหรับพื้นที่ปิดหรือมีผู้คนแออัด เช่น มินิมาร์ท ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น

 

** ฟื้นเศรษฐกิจแต่ไม่ลืมความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม การฟื้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของบาหลีถือเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มองข้ามเช่นกัน

จากข้อบังคับการเดินทางเข้าบาหลีล่าสุด ระบุว่า นักท่องเที่ยวขาเข้าระหว่างประเทศทั้งหมดจะต้องตรวจอุณหภูมิร่างกาย หากพบว่ามีอาการเกี่ยวข้องกับโควิด-19 หรือมีอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส จําเป็นต้องเข้ารับการตรวจ RT-PCR โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับพลเมืองอินโดนีเซีย ส่วนชาวต่างชาติต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

ในทางกลับกันหากไม่พบอาการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 นักเดินทางสามารถท่องเที่ยวได้ตามแผนภายใต้มาตรการที่กำหนด ขณะที่ผู้ที่มีภาวะสุขภาพพิเศษหรือโรคประจำตัวที่เป็นเหตุให้ไม่สามารถรับวัคซีนได้ก็สามารถเดินทางเข้าได้โดยต้องแนบใบรับรองแพทย์จากต้นทางว่าไม่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 และ/หรือไม่สามารถฉีดวัคซีนได้

**  การเข้าถึงข้อมูลที่ชัดเจน

นับตั้งแต่ประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” เมื่อปีที่แล้ว สิ่งหนึ่งที่เกิดปัญหาคือความไม่ชัดเจนในเงื่อนไขและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและมาตรการบ่อยครั้ง ทำให้เกิดความสับสนสำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งทางสมาคมโรงแรมบาหลี (BHA) เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ จึงมีความคิดริเริ่มในการจัดทำเว็บไซต์ WelcomeBacktoBali.com เพื่อการเข้าถึงข้อมูลการเดินทางที่ตรงไปตรงมาและชัดเจน

“เว็บไซต์ประสบความสำเร็จอย่างมาก” ฟรานซิสกา แฮนโดโก ประธาน BHA กล่าวและสะท้อนได้จากจำนวนการเข้าชมและการโต้ตอบมากกว่า 2 แสนครั้งบนเว็บไซต์ในเดือนมี.ค. โดยมีชาวออสเตรเลียนเป็นผู้ใช้ประจำมากที่สุด

นอกจากนี้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ยังคงมีการตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสาร (Information Center) เพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้มาเยือน กรณีติดโควิดหรือมีปัญหาข้อกังวลต่างๆ เพื่อให้คำแนะนำว่าควรไปที่ไหน ทำอย่างไรได้บ้าง เพื่อการเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว

“ผมเพิ่งทางไปบาหลีมา สถานที่ท่องเที่ยวไม่มีใครใส่แมสกันแล้ว ยกเว้นตอนเข้าห้างหรือมินิมาร์ท แต่ในที่โล่งไม่ต้องใส่กันแล้วเหมือนกับไทยตอนนี้ แต่ที่โน่นจะมี Information Center ตั้งอยู่ทั่วไปเลย ใครมีปัญหาสามารถเข้าไปสอบถามข้อมูลได้ง่าย ซึ่งเป็นวิธีตั้งรับและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ดี” ทวีโรจน์ เอี๋ยวพานิช อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าว

 

** ปรับตัวตามกระแส

นอกจากการกลับมาใช้ Visa on Arrival ที่ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว Digital Nomad Visa (วีซ่าสำหรับกลุ่มคนที่ใช้ชีวิตเดินทางท่องเที่ยวและทำงานไปพร้อมๆ กัน) ก็เป็นอีกหนึ่งมาตรการการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ได้รับการตอบสนองที่ดี

หลังจากโควิด-19 ทำให้เกิดกระแส work from home ไปทั่วโลก และจากการสำรวจพบว่า 95% ของกลุ่ม Digital Nomad บอกว่าบาหลีเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา รัฐบาลอินโดนีเซียหวังใช้เทรนด์นี้ช่วยฟื้นการเศรษฐกิจด้วยการเปลี่ยนบาหลีเป็นเมืองหลวงของกลุ่มที่ใช้ชีวิตเที่ยวไปด้วยทำงานไปด้วย

เดิมทีอินโดนีเซียมีแผนจะเปิดตัว Digital Nomad Visa ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่สุดท้ายถูกเลื่อนออกไปเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดสูงขึ้นในขณะนั้น แต่เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา พวกเขาได้อนุมัติวีซ่าประเภทนี้เรียบร้อยแล้วหลังทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย โดยเบื้องต้นชาวต่างชาติกลุ่มนี้จะได้รับอนุญาตให้ทำงานออนไลน์ได้นานถึง 6 เดือนโดยไม่ต้องจ่ายภาษีและใช้วีซ่า B211A ที่มีอยู่ พร้อมแผนระยะยาวอาจนานถึง 5 ปีในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ

ซานเดียกา อูโน รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชาวดิจิทัลโนแมดนี้จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของบาหลีและช่วยสร้างงานถึง 4.4 ล้านตำแหน่งในประเทศภายในปี 2567

“ผมเชื่อมั่นมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่สนใจจะพักในอินโดนีเซียจะเพิ่มขึ้น และจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยอัตโนมัติ” เขากล่าว

นับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีนี้ ชาวต่างชาติมากกว่า 3,000 คนใช้วีซ่า B211A เพื่อทำงานไปด้วยเที่ยวไปด้วย โดยมีรัสเซีย อังกฤษ และเยอรมนี เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด และยังมีแผนสำหรับวีซ่าเกษียณอายุด้วย

นี่ยังไม่รวมถึงการเล่าเรื่องใหม่ในการโปรโมทการท่องเที่ยว โดยเปลี่ยนจากการส่งเสริม “sun, sea, sand” เป็น 3S ใหม่ในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับ “serenity, spirituality, sustainability – ความสงบ จิตวิญญาณและความยั่งยืน” ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ที่มีผู้มาเยือนไม่มากนักก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงบาหลีเหนือและตะวันตก

 

ภาพ - tunjungboutiqueresort.com

ลิ้งค์วิดีโอ - https://www.tiktok.com/@ceezandanyatravels/video/7103870738675010862?embed_source=null_null_null&is_copy_url=1&is_from_webapp=v1&refer=embed&referer_url=thebalisun.com%2Fbali-is-back-mass-tourism-returns-to-the-island-of-the-gods%2F&referer_video_id=7103870738675010862

 

ที่มา

https://thebalisun.com/bali-is-back-mass-tourism-returns-to-the-island-of-the-gods/

https://www.welcomebacktobali.com/blog/latest-updates/about-the-information-on-this-site

https://www.abc.net.au/news/2022-09-15/bali-approves-digital-nomad-visas-to-reshape-indonesia-tourism/101437526

https://balimanagement.villas/blogs/bali-tourism-statistic/