ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายลดอุบัติเหตุ ชี้ขยายเวลาเปิดถึงตี 4 เท่ากับขยายเวลาดื่ม เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุสูง  ชนคนตาย 1 คน  อาจกระทบกับคนทั้งครอบครัว  ได้ไม่คุ้มเสีย  ขอช่วยหยุดความสูญเสียจากดื่มแล้วขับอย่างจริงจัง เชื่อว่ามีช่องทางส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวอีกมาก            

วันที่  29 พ.ย.65 - จากกรณีข่าวที่ จะมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงจากเดิม 02.00 น. ถึงเวลา 04.00 น. ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  โดยสามารถเปิดได้ในบางพื้นที่ ได้แก่ ถนนบางลาในภูเก็ต กระบี่ พังงา สมุย เมืองพัทยา และ 3 พื้นที่ในกรุงเทพฯ คือ ถนนข้าวสาร ซอยคาวบอย และซอยพัฒน์พงษ์ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น   

นายพรหมมินทร์ กัณธิยะ ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ  (สคอ.)  กล่าวว่า  เรื่องดังกล่าว ได้มีหลายหน่วยงานออกมาแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย เกี่ยวกับผลกระทบหากมีการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4  ซึ่ง สคอ.เองเป็นหน่วยงานด้านการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุมายาวนาน  เห็นภาพความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากคนเมา คนดื่มแล้วขับไปชนคนอื่นเสียชีวิต  ภาพการกอดคนรัก คนในครอบครัวที่จากไปในเวลาที่ไม่สมควร ภาพเหล่านั้นวนเกิดซ้ำไปมาไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกต่อไป  หากเราสามารถที่จะปกป้องชีวิตลูกหลานหรือคนที่รักได้   และการอนุญาตให้เปิดได้ถึงตี 4  กลไกทางสังคมอาจได้รับผลกระทบหนักขึ้น

เริ่มตั้งแต่มีบางครอบครัวขาดเสาหลักของบ้าน  ลูกขาดพ่อแม่  ปัญหาครอบครัว  คนพิการเพิ่มขึ้น  ความทุกข์เพิ่มขึ้น  การเกิดเหตุหลัง  4 ทุ่มมีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าเรื่องรถที่ขับเร็ว  ถนนโล่ง  แสงสว่างไม่เพียงพอ และคนที่มีสภาพไม่พร้อม  เพราะถนนเมืองไทย ยังมีคนที่ดื่มแล้วขับและเมาขับรถอยู่ตลอดทั้งวันแต่จะมากขึ้นในช่วงกลางคืน ข้อมูลผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินชี้ชัดว่าผู้ป่วยอุบัติเหตุที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล มากกว่า 50% มีแอลกอฮอล์เกี่ยวข้องด้วย  และมีมากในช่วงกลางคืน  หากเปิดให้มีกิจกรรมหลัง 4 ทุ่ม เชื่อว่าสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนจะเพิ่มขึ้นสูง 5-10 เท่า  ทุกวันนี้กลไกการรับมืออุบัติเหตุทางถนนบ้านเรายังไม่พร้อมโดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืน  เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีน้อย  เครื่องมือไม่เพียงพอ  การตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ยังไม่ทั่วถึง  

ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลที่แพทย์ พยาบาล เข้าเวรทำงานน้อยกว่าช่วงเวลาปกติ หากเกิดเหตุพร้อมๆกัน ก็จะทำให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง  หน่วยฉุกเฉินหรือกู้ชีพ กู้ภัย ที่รอรับเหตุ  บางหน่วยอาจไม่พร้อมออกปฏิบัติงานช่วยเหลือ ณ จุดเกิดเหตุได้ทันท่วงทีหากมีอุบัติเหตุมาก  ดังนั้นการที่ออกเที่ยวหลัง 4  ทุ่ม มีความเสี่ยงสูงและอาจเสียชีวิตจากคนที่ดื่มแล้วขับหรือเมาแล้วขับชนได้  และหากยิ่งชอบขับรถเร็วและดื่มแล้วขับ ยิ่งทำให้โอกาสรอดลดน้อยลง  นอกจากนี้ผลกระทบที่จะตามมาทั้งฝ่ายคนขับและคนโดนชน รุนแรงกว่าสถานการณ์ทั่วไป  มีผลกระทบต่อทรัพย์สิน และการชดใช้ค่าเสียหาย  


 

นายพรหมมินทร์  กล่าวต่อว่า  ช่วงเวลาเลิกจากสถานบันเทิงตี 4 ของนักเที่ยวน่าจะมีโอกาสสูงที่จะเมาแล้วขับ และเป็นต้นเหตุที่อาจทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต   อีกด้านกลับเป็นช่วงเริ่มต้นการทำงานของหลายคน  เช่น พนักงานทำความสะอาดถนน  ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานช่วงเช้า  คนออกกำลังกาย  เด็กนักเรียนไปโรงเรียน หรือแม้กระทั่งแม่บ้านไปจ่ายตลาดเช้า  ซึ่งหากต้องเจอกับคนเมาแล้วขับที่เพิ่งเลิกจากสถานบันเทิง  ที่ไม่สามารถควบคุมหรือมีสติในการขับรถ  เกิดอุบัติเหตุชนคนบาดเจ็บและเสียชีวิต  ผลกระทบที่เกิดขึ้น  ไม่ใช่แค่ผู้เสียชีวิตเท่านั้น  เขายังมีครอบครัว มีคนที่รักคอยอยู่  

มีตัวอย่างให้เห็นอยู่มากที่บางคนถึงกับเสียอนาคต  เสียแขนขากลายเป็นผู้พิการจากอุบัติเหตุจากการดื่มแล้วขับ  บางครอบครัวผู้เสียชีวิตคือเสาหลัก  คือคนหารายได้เข้าบ้าน  เมื่อเกิดเหตุขึ้นผู้คนเหล่านี้จะอยู่ต่อกันเช่นไร  การสูญเสียเสาหลักของครอบครัวส่งผลกระทบในระยะยาว ทั้งรายได้ และจิตใจที่ต้องรักษา และใช้เวลาเยียวยาฟื้นฟูเพื่อให้กลับมาเหมือนเดิม  

“ท้ายสุดนี้ ทุกอย่างต้องมองอย่างรอบด้าน คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา เพราะการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุสูง การที่อนุญาตให้เปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 นั้น ควรต้องพิจารณาให้ดีว่าจะเกิดผลกระทบในด้านใดบ้างทั้งบวกและลบ สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่อาจต้องแลกมากับความเสียหายและผลกระทบต่างๆ” นายพรหมมินทร์ กล่าว