ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กองทุน กปท.เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย สนับสนุนงบโครงการ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่” แถมได้แรงเสริมจากเอกชนในพื้นที่ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชน “สปสช.” คาดปี 66 มีประชาชนสิทธิบัตรทองใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 53 ล้านชิ้น ย้ำผ้าอ้อมผู้ใหญ่ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ แต่ผู้ป่วยกลั้นปัสสาวะ-อุจาระไม่ได้ ได้สิทธิด้วย 

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ทพ.กวี วีระเศษฐกุล ผู้อำนวยการ สปสช.เขต 8 อุดรธานี ลงพื้นที่รับฟังการดำเนินงานโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย และผ้าอ้อมทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง และบุคคลที่มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ 

นายเฉลิม โยธามาศ นายกเทศมนตรีตำบลเอราวัณ เผยว่า เทศบาลตำบลเอราวัณ จ.เลย ร่วมกับ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ 3 แห่งในพื้นที่รับผิดชอบ คือ รพ.สต.หัวฝาย รพ.สต.พรประเสริฐ และ รพ.สต.โป่งศรีโทน ลงพื้นที่สำรวจบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงบุคคลมีค่าคะแนน ADL (ความสามารถในการดำเนินชีวิตประจำวัน) ระดับ 6 และมีภาวะกลั้นอุจาระ-ปัสสาวะไม่ได้ พบว่ามีจำนวน 36 คนที่กระจายอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลตำบลเอราวัณ และ รพ.สต.ทั้ง 3 แห่ง โดยทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบของโรค อีกทั้งยังมีปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัวที่ไม่สามารถซื้อสิ่งของที่จำเป็นสำหรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะผ้าอ้อมผู้ใหญ่ รถเข็น เป็นต้น ส่งผลให้ผู้ป่วยและครอบครัวที่ต้องดูแลมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.) ตำบลเอราวัณ จ.เลย ได้อนุมติงบประมาณโครงการผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับการขับถ่าย และผ้าอ้อมทางเลือกสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิง และบุคคลที่มีปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ จำนวน 15,722 บาท ซึ่งเป็นโครงการตามแนวทางการดำเนินงานของ สปสช. ขณะเดียวกัน ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชน (กลุ่มโรงโม่หิน) ในพื้นที่ ที่มีกองทุนเฝ้าระวังสุขภาพ ในโครงการคนเอราวัณ ไม่ทิ้งกัน ให้งบประมาณจัดซื้อผ้าอ้อม รถเข็น เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง และบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้ป่วย ซึ่งผลดำเนินการพบว่า ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง รวมถึงญาติของผู้ป่วยมีความพึงพอใจในโครงการ และสะท้อนว่าเป็นประโยชน์ต่อคนในชุมชนอย่างมาก 

 

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2565 มีมติเห็นชอบบรรจุ “ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองชับขับถ่าย” ให้เป็นสิทธิประโยชน์การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ครอบคลุมประชาชนสิทธิหลักประกันสุขภาพ โดยใช้งบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กองทุน กปท.) ผู้ที่ได้รับประโยชน์ (1) บุคคลที่มีภาวะติดบ้านติดเตียง และมีค่าคะแนนระดับความสามารถในการดำนินชีวิตประจำวันตามดัชนีบาร์เธลเอดีแอล (Barthel ADL index) เท่ากับหรือน้อยกว่า6 คะแนน ตามแผนการดูแลรายบุคคลระยะยาวต้านสาธารณสุข (Care Plan) ของหน่วยจัดบริการ

(2) บุคคลที่มีภาวะปัญหากั้นปัสสาวะอุจจาระ ไม่ได้ตามข้อบ่งขี้ทางการแพทย์และการประเมินของหน่วยจัดบริการ โดยให้รับผ้าอ้อมผู้ใหญ่ แผ่นรองซับขับถ่าย ฟรีไม่เกิน 3 ชิ้นต่อวัน ผ่านกองทุนสุขภาพตำบล หรือ กองทุน กปท. ตามการประเมินตามแผนการดูแลรายบุคคล (Care Plan) โครงการนี้ทำให้บุคคลที่มีภาวะปัญหากลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ ไม่ได้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขตามสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมากขึ้น

 

ขณะที่ นางศรากร  พรมตีด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวฝาย ต.เอราวัณ อ.เอราวัณ จ.เลย เผยว่า หลังจากมีโครงการและนโยบายมาในช่วงเดือนกันยายน 2565 เราได้นำหนังสือมาพิจารณาทำโครงการแจกผ้าอ้อมสำหรับผู้ป่วย ที่มีภาวะพึ่งพิง ติดบ้าน ติดเตียง(LTC) และต้องการผ้าอ้อม จากนั้นก็ได้เริ่มเขียนโครงการและทำการอนุมัติโครงการดังกล่าว โดยมีเป้าหมาย 30 กว่าคน ซึ่งเราได้เก็บข้อมูลว่าแต่ละคนจะต้องใช้ผ้าอ้อมขนาดไหน ต่อมาได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง โดยจะมีเลขาของกองทุน LTC ได้หาข้อมูลแหล่งการซื้อโดยให้โรงพยาบาลเอราวัณเป็นหน่วยประสานอีกครั้ง ซึ่งการทำโครงการแจกผ้าอ้อมนี้ ยังมีองค์กรต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ,อสม. ,อาสาบริบาลของตำบล  , ผู้นำชุมชน เป็นต้น 

ทั้งนี้ การมอบผ้าอ้อมสำหรับบุคคลที่มีภาวะพึ่งพิงหรือบุคคลที่มีภาวะปัญหาการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่ได้ เราได้จัดทีมคณะทำงานของเราเองเดินทางไปมอบให้กับผู้ป่วยพร้อมให้กำลังใจด้วย ซึ่งมี 3 รพ.สต. ที่รับผิดชอบช่วยกันคือ 1. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพรประเสริฐ 2. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโป่งสีโพน 3. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวฝาย นอกจากนี้เรายังได้งบประมาณจากโรงโม่หินที่เข้ามาช่วยสนับสนุนจัดซื้อผ้าอ้อมและรถเข็นผู้ป่วยอีกด้วย

สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับผ้าอ้อมหรือแผ่นรองนั้น มีความรู้สึกดีใจมากมีความสุขมาก ที่เราได้เข้าไปช่วยเหลือ เพราะทำให้ลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนด้วย 

ส่วนเรื่องการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ไป อบจ. ซึ่งตำบลของเรามี 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพรประเสริฐและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหัวฝาย ที่จะถ่ายโอนไปวันที่ 1 ตุลาคม 2566 (ปีงบประมาณ 67) นั้น การทำงานมั่นใจว่าไม่น่าเป็นห่วง เพราะท้องถิ่นหรือชุมชนของเราในตำบลเอราวัณ ดูแลกันอย่างดี ให้ความร่วมมือกันทุกฝ่าย รวมถึง "โรงโม่หิน" ที่คอยสนับสนุนและช่วยเหลือทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมต่างๆ หรือการทำโครงการต่างๆ องค์กรต่างๆให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีมาตลอด

จากนั้นคณะฯ ลงเยี่ยมบ้าน และมอบผ้าอ้อมให้ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง จำนวน 2 ราย โดยรายแรกเป็นผู้สูงอายุ 91 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และ รายที่สอง เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน รูมาตอยด์ และโรคไต อายุ 44 ปีในพื้นที่ เทศบาลอำเภอเอราวัณ จังหวัดเลย ซึ่งผู้ป่วยและผู้สูงอายุ และญาติ ดีใจเป็นอย่างมากและขอบคุณโครงการดีๆ ที่ช่วยให้ค่าใช้จ่ายในครัวเรือนลดน้อยลง และอยากให้ทำโครงการแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้ผู้ป่วยทุกรายจะได้มีแรงสู้ต่อไป 

ผู้สูงอายุ 91 ปี ป่วยเป็นมะเร็งเต้านม

ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง กระดูกพรุน รูมาตอยด์ และโรคไต อายุ 44 ปี