ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กลุ่มคนทำทาง สาวเคยทำแท้ง กรวดน้ำคว่ำขันไล่ “อนุทิน” พ้นรัฐมนตรีฯ เหตุตัดงบประมาณส่งเสริมสุขภาพ กระทบสิทธิหญิงท้องไม่พร้อมต้องการทำแท้ง หมดทางไป ต้องทำแท้งผิดวิธี  พร้อมเรียกร้อง สธ. ดำเนินการ 4 ข้อหลัก    

 

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 7 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กลุ่มทำทาง พร้อมผู้หญิงที่เคยทำแท้ง  เครือข่ายสนับสนุนทางเลือกของผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อขอให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งรัดการดำเนินการให้หน่วยงานภายใต้สังกัดปฏิบัติตามพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28 ) พ.ศ. 2564 พร้อมทำกิจกรรมกรวดน้ำทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้หญิงที่ต้องเสียชีวิตจากการเข้าไม่ถึงการทำแท้งที่ปลอดภัย จากนั้นได้ทำพิธีกรวดน้ำคว่ำขันตัดขาด สาบแช่งนายอนุทินให้ชดใช้กรรม จบการเมืองในสมัยนี้ ไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งสมัยหน้า 

 

น.ส.กรกนก คำตา เจ้าหน้าที่ฝ่ายรณรงค์ กลุ่มนำทาง กล่าวว่า  การกรวดน้ำวันนี้มี 2 วัตถุประสงค์ กรวดน้ำครั้งแรกเพื่อทำบุญให้กับผู้หญิงที่เสียชีวิตจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย ส่วนครั้งที่ 2 เป็นการกรวดน้ำคว่ำขันตัดเวร ตัดกรรมจากนายอนุทิน ที่ไม่ได้ดำเนินการอะไรเลยหลังจากที่กฎหมายมีการแก้ไข ทำให้คนควานหาที่ทำแท้งถูกกฎหมาย แต่ก็หาไม่เจอ ต้องเจ็บปวด เสียเงินจากการไปซื้อยาเถื่อน หรือทำแท้งเถื่อนจนเสียชีวิต ทั้งๆ ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) มีงบประมาณส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค สำหรับการท้องแท้งปลอดภัยในสถานพยาบาลรายละ 3 พันบาท แต่ล่าสุดนายอนุทินกลับเซ็นยกเลิกจัดงบฯ นี้ในกลุ่มข้าราชการ และกลุ่มผู้ประกันตน

 

“ดังนั้นนี่เป็นความเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของนายอนุทิน โดยต้องออกจากการเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใดเลย ยิ่งไม่เหมาะสมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ของประเทศนี้ เพราะตั้งแต่การบริหารโควิด-19 ที่ผิดพลาด การตัดงบส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค จึงขอสาปแช่งนายอนุทิน ไม่ให้ได้เป็นรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นสมัยไหน ต้องชดใช้กรรมที่ทำให้ผู้หญิงได้เดือดร้อน” น.ส.กรกนก กล่าว   

นางสุไลพร ชลวิไล นักวิชาการกลุ่มทำทาง กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำแท้งที่ปลอดภัยได้ แต่กลับพบว่ายังมีผู้หญิงจำนวนมากเข้าไม่ถึงบริการทำแท้งที่ปลอดภัยทำให้ต้องไปซื้อยาเถื่อนมาทำแท้งเอง ส่วนตัวเลขนั้นต้องขอบอกว่ามีการรายงานเพียงครั้งเดียวเมื่อปี 2542 จากนั้นเป็นเพียงการเฝ้าระวังในรพ.เพียง 1 แห่ง ต่อ 1 เขตสุขภาพ ดังนั้น จึงทำให้ข้อมูลคนเสียชีวิตจากการทำแท้งของผู้หญิงขาดหายไป หรือมีเพียงหลักหน่วย อย่างไรก็ตาม เนื่องในวาระที่กฎหมายทำแท้งฉบับแก้ไขใหม่มีผลบังคับใช้มาแล้ว 2 ปี จึงขอเรียกร้องให้สธ.ดำเนิน ดังนี้ 1.ประกาศรายชื่อสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย และรายชื่อหน่วยงานให้การปรึกษาทางเลือกทั่วประเทศให้ประชาชนรับทราบ 2.กำหนดให้สถานบริการสาธารณสุขภายใต้สังกัดสธ.ดำเนินการจัดให้มีบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย อย่างน้อยจังหวัดละ 1 สถานบริการ โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดระดับกระทรวงว่าจะต้องเพิ่มจำนวนสถานบริการให้ได้อย่างน้อยปีละ 5-10 สถานบริการ

 

3.กำหนดให้สถานบริการสาธารณสุขภายใต้สังกัดสธ.ที่ไม่ต้องการจัดตั้งหน่วยบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย มีหน้าที่ที่จะต้องส่งต่อผู้รับบริการไปยังสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยตามระบบ  และ 4.ดำเนินการสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับบุคลากรทางด้านสาธารณสุขเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย

 

(ข่าวเกี่ยวข้อง : สปสช.ยันหญิงท้องไม่พร้อมยุติตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยได้ทุกสิทธิ์ หากเกิดปัญหาโทร 1330 ตลอด 24 ชม.)