รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ ประกาศความสำเร็จ! ภายหลังโชว์ศักยภาพการรักษาผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย ด้วยวิธี ‘ปลูกถ่ายหัวใจ’ ได้เป็นรายแรก โดยขณะนี้ผู้ป่วยอาการโดยรวมดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2566 รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้ผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจแก่ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายได้สำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาล โดยโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ถือเป็นโรงพยาบาลลำดับที่ 6 ของประเทศไทย ที่มีศักยภาพในการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจได้ สำหรับความสำเร็จที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการทำงานร่วมกันของทีมสหวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการบริการผู้ป่วยโรคหัวใจ คณะกรรมการปลูกถ่ายหัวใจ และคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการผู้ป่วยศัลยกรรมโรคหัวใจและทรวงอก ซึ่งมีทีมพัฒนาคุณภาพการบริการผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ประกอบด้วย ศูนย์หัวใจธรรมศาสตร์ งานการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ งานการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก เป็นผู้เริ่มดำเนินการเตรียมรักษาผู้ป่วยภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายด้วยวิธีการปลูกถ่ายหัวใจ (heart transplantation) เนื่องจากผู้ป่วยไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยการใช้ยา
รศ.นพ.พฤหัส กล่าวอีกว่า เมื่อเดือน เม.ย. 2565 มีทีมพยาบาล ได้แก่ ทีมพยาบาลประสานงาน พยาบาลผู้จัดการรายกรณีกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ ทีมพยาบาลห้องผ่าตัด ทีมพยาบาลประจำหอผู้ป่วยต่างๆ และทีมนักปฏิบัติการเครื่องหัวใจและปอดเทียม (Perfusionist) ได้ไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ถัดจากนั้นศูนย์หัวใจธรรมศาสตร์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ก็ได้เริ่มดำเนินการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านภาวะหัวใจล้มเหลวและการปลูกถ่าย มีการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้สามารถดำเนินการรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้ายด้วยวิธีการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ ทั้งนี้ ศูนย์ดังกล่าวมีการนำผู้ป่วยเข้ากระบวนการประเมิน ตรวจทางห้องปฏิบัติการและตรวจหัตถการเพิ่มเติมเพื่อลงทะเบียนผู้ป่วยเป็นผู้รอรับบริจาคหัวใจกับทางศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย โดยผู้ป่วยรายแรกของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ลงทะเบียนในเดือน ธ.ค. 2565 เป็นผู้ป่วยเพศชาย อายุ 50 ปี ผลการวินิจฉัยโรค คือ มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย (End stage heart failure) เข้ารับการตรวจรักษาและติดตามอาการในคลินิกโรคหัวใจล้มเหลว (Heart failure clinic) โดย พญ.ธิดา ศรีรัตนา ทาบูกานอน และ ผศ.นพ.อดิศัย บัวคำศรี มาโดยตลอด
พญ.ธิดา ศรีรัตนา ทาบูกานอน อายุรแพทย์ผู้รักษา กล่าวว่า การจากตรวจรักษาผู้ป่วยรายนี้มีภาวะหัวใจล้มเหลวระยะสุดท้าย และได้รับการบริจาคหัวใจจากผู้บริจาคในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2566 โดยเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจได้สำเร็จเป็นรายแรกของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ จากทีมศัลยแพทย์ทรวงอก นำทีมโดย ผศ.นพ.บุลวัชร์ หอมวิเศษ ร่วมกับทีมอายุแพทย์โรคหัวใจ ซึ่งมีกระบวนการเตรียมความพร้อมผู้ป่วยก่อนเข้ารับการผ่าตัด และดูแลรักษาต่อเนื่องภายหลังการผ่าตัด มีทีมพยาบาลประจำหอผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ ทีมพยาบาลประจำหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก ทีมพยาบาลประสานงานปลูกถ่ายหัวใจ และพยาบาลผู้จัดการรายกรณีกลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจ ในการติดตามการรักษาพยาบาลอย่างใกล้ชิด
ผศ.นพ.บุลวัชร์ หอมวิเศษ ศัลยแพทย์หัวหน้าทีมผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ กล่าวว่า ผลการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจเป็นที่น่าพอใจของทีมแพทย์ ตอนนี้ผู้ป่วยปลอดภัยดี ไม่มีภาวะแทรกซ้อน อยู่ในระหว่างการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์และพยาบาลผู้ดูแล
รศ.นพ.ดิลก ภิยโยทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มธ. กล่าวว่า ในส่วนของคณะแพทยศาสตร์ มธ. ถือเป็นความสำเร็จน่าภาคภูมิใจที่แพทย์ธรรมศาสตร์สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัยเป็นรายแรกของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ และคณะแพทยศาสตร์ มธ. และทีมสหวิชาชีพที่ร่วมกันดูแลผู้ป่วยในครั้งนี้ โดยปัจจัยที่สำคัญในความสำเร็จครั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร โดยทางคณะแพทย์ได้สนับสนุนให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทั้งทางด้านศัลยกรรมทรวงอกและหัวใจ และอายุรแพทย์โรคหัวใจได้ศึกษาต่อทางด้านการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจและการดูแลผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวเรื้อรังเป็นการเฉพาะมาเป็นเวลาหลายปี เมื่อมาทำงานร่วมกับบุคลากรสหวิชาชีพจึงเกิดความสำเร็จในครั้งนี้ขึ้น ทางคณะมีความยินดีและพร้อมสนับสนุนเต็มที่ทั้งในด้านวิชาการเพื่อเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้แก่แพทย์ของเราเพื่อพัฒนาการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต
พว.ปริศนา ปทุมอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล กล่าวว่า ในส่วนของทีมพยาบาลดูแลผู้ป่วยมี พว.ดุษาร์กร เปียทิพย์ หัวหน้างานการพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก เป็นหัวหน้าทีมในการดูแลผู้ป่วย ซึ่งการเตรียมรับผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เตรียมความพร้อมด้านสถานที่ ทีมบุคลากร และแนวทางปฏิบัติในการพยาบาลทุกขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่เตรียมผู้ป่วยก่อนผ่าตัดที่หอผู้ป่วยวิกฤตโรคหัวใจ (CCU) หลังผ่าตัดในระยะแรกที่หอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก (ICU CVT) และในระยะฟื้นฟูสภาพเตรียมจำหน่ายที่หอผู้ป่วยศัลยกรรมพิเศษ 1
ทั้งนี้ ในระยะหลังผ่าตัดได้มีการควบคุมป้องกันการติดเชื้ออย่างเข้มงวด เช่น จัดให้ผู้ป่วยอยู่ในห้องแยก อุปกรณ์ เครื่องมือทุกชนิดจะผ่านการฆ่าเชื้อทำความสะอาดตามมาตรฐานก่อนนำไปใช้ มีการจำกัดการเข้าห้องผู้ป่วยเพียงบุคลากรที่มีหน้าที่ดูแลเท่านั้น เป็นต้น ในส่วนของทีมบุคลากรได้เตรียมความพร้อมในการจัดอบรมให้ความรู้แก่บุคลากรในโรงพยาบาล และให้ความรู้เฉพาะในหน่วยงานที่รับผู้ป่วยโดยตรง ส่งทีมพยาบาลศึกษาดูงานโรงพยาบาลที่เป็นต้นแบบ และจัดทำแนวทางปฏิบัติ หรือ TU heart transplantation protocol ตั้งแต่เตรียมรับผู้ป่วย การประสานงาน การดูแลผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังผ่าตัด การเตรียมผู้ป่วยจำหน่ายออกจากโรงพยาบาล (Discharge planning) รวมถึงการเตรียมผู้ป่วยเพื่อกลับไปใช้ชีวิตประจำวันที่บ้านกับครอบครัว
*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org
- 492 views