ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สมาคมจิตแพทย์เผยผลสำรวจคนไทยใช้กัญชา 3 ปีล่าสุด (2563-2565) ใช้เชิงสันทนาการพุ่งแซงใช้ทางการแพทย์ ระบุ ปี 2565 กลุ่มอายุ 18-65 ปี ใช้กัญชาสูง 11 ล้านคน เพิ่มขึ้น 900% จากปี 2563 จี้รัฐยกเลิกประกาศปลดล็อคกัญชา เหตุเป็นนโยบายผิดพลาด สร้างสุญญากาศ ฝาก รมว.สธ.คนใหม่เดินหน้าใช้มติ ป.ป.ส.คว่ำประกาศปลดล็อค  

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทยได้จัดเสวนาวิชาการเรื่อง “ผลกระทบจากนโยบายกัญชา บทเรียนจากต่างประเทศและข้อห่วงใยจากประชาชน” ณ โรงแรมอมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ  ดร.สุริยันต์ บุญแท้ ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ กล่าวว่า ผลการศึกษาประมาณการกลุ่มผู้ใช้กัญชาระหว่างปี 2563- 2565 แบ่งเป็น ปี 2563 ศึกษากลุ่มอายุ 15-65 ปี จำนวน 47 ล้านคน พบว่าในรอบ 12 เดือน มีการใช้กัญชาทางการแพทย์ 400,000 คน ใช้เพื่อสันทนาการ 1.1 ล้านคน ปี 2564 ศึกษากลุ่มอายุ 18-65 ปี ประมาณ 44 ล้านคน พบใช้ทางการแพทย์ 200,000 คน ใช้เพื่อสันทนาการ 1.89 ล้านคน ซึ่งใน 2563-2564 เป็นปีที่สันทนาการผิดกฎหมาย ส่วนในปี 2565 ที่กัญชาถูกถอดออกจากยาเสพติดแล้ว จึงศึกษาในกลุ่มอายุ 18-65 ปี ประมาณ 44 ล้านคน พบใช้เพื่อสันทนาการ 11 ล้านกว่าคน เพิ่มจาก ปี 2563 ถึง 900% อย่างไรก็ตามในจำนวน 11 ล้านคน จะมีประมาณ 8 ล้านคน ใช้กัญชาที่ผสมในอาหารต่าง ๆ และมีคนอายุต่ำกว่า 20 ปี ประมาณ 300,000 คน ที่ใช้แบบพันลำและผ่านผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ  ขณะที่ใช้ทางการแพทย์เพิ่มเพียงแสนกว่าคนเท่านั้น สะท้อนว่าเมื่อเปิดเสรีคนต้องการใช้เชิงสันทนาการมากกว่าทางการแพทย์ ขณะที่กฎหมายดูแลมีเพียง พ.ร.บ.การสาธารณสุข ควบคุมการใช้ในที่สาธารณะเท่านั้น แต่ตัวอื่น ๆ ยังไม่เกิด จึงเป็นเรื่องที่น่าห่วง 

นายยศกร  ขุนภักดี ผู้ประสานงาน ผู้แทนกลุ่มเครือข่ายเยาวชน ไม่นะกัญชาและยาเสพติด (YNAC) กล่าวว่า ที่ผ่านมามักมีการสื่อสารถึงแต่ข้อดีของกัญชาเท่านั้น ไม่ค่อยพูดถึงผลกระทบ ทั้งนี้มีปัญหามากโดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน ซึ่งมีโรงเรียนหลายแห่งสุ่มตรวจสารกัญชาในนักเรียน บางแห่งพบถึง 40 คน  ดังนั้นตนจึงจัดโครงการร้อยผลกระทบจากกัญชาในกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งรณรงค์ให้เห็นผลกระทบ จนทำให้เกิดพื้นที่โรงเรียนปลอดกัญชา 100% หลายพื้นที่ ที่น่ากังวลคือตนมีโอกาสพูดคุยกับสารวัตรนักเรียนหลายคนถอดใจที่จะทำหน้าที่ต่อ เพราะเวลาเจอนักเรียนทำผิดไปบอกครูกลับถูกคุกคาม นอกจากนี้เวลาครูขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยภายในโรงเรียน แต่ตำรวจก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้นหากศาลปกครองหรือผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับทราบข้อมูลนี้ อยากให้คิดให้ดี ๆ ว่ากัญชาควรเสรีหรือไม่ ขอวิงวอนศาลปกครองอยากให้ศาลพิจาณายกเลิกประกาศปลดล็อคกัญชาไปก่อน เพราะหากปล่อยไป 3 ปี 10 ปี ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับสังคมและเยาวชน

ด้าน นพ.บัณฑิต ศรไพศาล นักวิทยาศาสตร์ จาก Centre for Addiction and Mental Health (CAMH) ประเทศแคนาดา กล่าวว่า จากการติดตามทางโซเชียลมีเดียหลังกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศปลดล็อคกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.-8 ก.ค. 2565 พบว่า มีคนโพสต์ขายกัญชาครั้งแรกเพิ่มขึ้น 5 เท่า ข้อความขายเพิ่มขึ้น 30 เท่า ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์ผลกระทบการแพร่ระบาดกัญชามีมาก ซึ่งปัญหาไม่ได้อยู่ที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ยังไม่ผ่านสภา เพราะต่อให้แก้ไขอย่างไรก็ยังเป็นกฎหมายเพื่อสันทนาการ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือการยกเลิกประกาศปลดกัญชาออกจากยาเสพติดก่อน แล้วมาคิดให้ดีว่าประเทศไทยจะเอากัญชาแบบใด แล้วออกแบบควบคุมให้เหมาะสม 
ทั้งนี้ เพราะที่ทำอยู่นั้นเป็นการดำเนินนโยบายที่ผิดมาตั้งแต่แรก เนื่องจากที่ประชุมบอร์ด ป.ป.ส.มีมติปลดฯ วันที่ 25 ม.ค. 2565 บอกชัดว่าต้องมีมาตรการควบคุมภายใน 120 วัน แต่วันที่ 26 ม.ค.2565 กลับยื่น พ.ร.บ.กัญชาฯ เลย และประกาศปลดฯ มีผลวันที่ 9 มิ.ย. 2565 กลายเป็นการปลดล็อคโดยไม่มีกฎหมายควบคุม เกิดเป็นภาวะสุญญากาศ และถือเป็นการฝ่าฝืนมติบอร์ด ป.ป.ส.ที่ให้มีการควบคุมใน 120 วัน แต่กว่า สธ.จะทำก็ล่าช้ามาถึงกว่า 5 เดือน ค่อยออกประกาศคุมดอกกัญชาหลังจากที่มีคนไปฟ้องศาลปกครอง ดังนั้น ขอส่งสารไปถึงนักการเมืองที่กำลังเดินเข้าสู่การเลือกตั้ง และหมายเหตุถึงรมว.สธ.ใหม่ ว่า รมว.สธ.โดยความเห็นชอบของ ป.ป.ส.สามารถยกเลิกประกาศปลดล็อคกัญชาได้ แล้วไปทำให้กัญชาทางการแพทย์ดีขึ้น

ขณะที่ ศ.ดร.เจอเกน เรห์ม (Prof.Dr.Jurgen Rehm) จาก CAMH  ประเทศแคนาดา กล่าวว่า กัญชาเสรีในแคนาดาจะค่อย ๆ ปลดล็อกเป็นขยัก เพราะต้องการแก้ปัญหาการใช้กัญชาใต้ดินที่มีจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหลังปลดล็อคก็ยังมีการควบคุมอย่างเข้มข้น เช่น จำกัดการปลูกในบ้านไม่เกิน 4 ต้น ร้านค้าต้องถูกควบคุมจากพาณิชย์ ปกปิดมิดชิด ห้ามขายผ่านตู้ ห้ามโฆษณา และมีการจัดเก็บภาษี  อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถือว่าสร้างผลกระทบ ทีมแพทย์จึงมองว่าการใช้ควรมีหลักฐานทางวิชาการ เพราะมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากการเมากัญชาขับรถปีละราว ๆ 250 คน รักษาความเจ็บป่วยที่เป็นผลกระทบจากกัญชาปีละเป็นแสนคน ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมพยายามบอกว่าจะช่วยแก้ปัญหาคนตกงานได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่ารัฐบาลแคนาดาจะตัดสินใจอย่างไร แต่ได้มีการตั้งทีมที่มีผู้เกี่ยวข้องว่าตกลงจะมีการกำกับดูแลอย่างไร 

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org