ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ความเชื่อ! ดื่มมะระขี้นกชงกับน้ำร้อน ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเเละเนื้องอก ความจริงเป็นอย่างไร ประโยชน์ของมะระขี้นก

จากที่มีการแนะนำผู้ป่วยโรคมะเร็งให้ดื่มมะระขี้นกชงกับน้ำร้อน ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งเเละเนื้องอกนั้น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ พร้อมชี้แจงว่า แม้จะมีรายงานวิจัยระดับเซลล์ในห้องปฏิบัติการพบว่ามะระขี้นกมีสารต้านอนุมูลอิสระที่อาจมีส่วนช่วยต้านเซลล์มะเร็ง แต่อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาวิจัยทางคลินิกที่ยืนยันชัดเจนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามะระขี้นกชงกับน้ำร้อนสามารถรักษาโรคมะเร็งในมนุษย์ได้ รวมทั้งอาหารในกลุ่มพืชผักสมุนไพรจะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายแต่หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษาควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์

ประโยชน์ของมะระขี้นก กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ยกให้เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน จากผลการศึกษาวิจัยพบว่า มะระขี้นกมีสาร charantin สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริง โดยช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอินซูลินจากตับอ่อน ลดการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์บริเวณผนังลำไส้เล็ก ลดการสร้างน้ำตาลจากตับ และเสริม การเผาผลาญน้ำตาลในเลือด เมนูแนะนำ ได้แก่ มะระขี้นกผัดไข่ หรือเป็นเมนูเครื่องดื่มอย่างน้ำมะระขี้นกปั่นผักรวม หากต้องการดูแลสุขภาพจึงควรรับประทานอย่างพอดี เลือกกินสมุนไพรด้วยการนำไปประกอบอาหารหรือทำเครื่องดื่มจะดีกว่า แต่ก็มีข้อควรระวัง ไม่ควรนำผลมะระขี้นกสุกมารับประทาน เพราะจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน และระบบประสาททำงานผิดปกติได้ 

สำหรับโรคมะเร็งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย หากพบโรคในระยะรุกลามแล้วการดูแลรักษาจะยุ่งยาก เกิดอาการแทรกซ้อนจากตัวโรคและผลข้างเคียงจากการรักษาได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมสูงวัย ยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งมีโอกาสเกิดมะเร็งมากขึ้น รวมถึงพฤติกรรมของคน และ สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดมะเร็งมากขึ้น      

โรคมะเร็งที่พบมาก 5 อันดับแรกในคนไทย ได้แก่ มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมะเร็งปากมดลูก

นายแพทย์สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวถึงสาเหตุการเกิดโรคมะเร็งว่า เกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกาย อย่างพันธุกรรมมีสัดส่วน 5-10% ปัจจัยภายนอกร่างกายประมาณ 90-95% ได้แก่ พฤติกรรมการดำเนินชีวิตและสิ่งแวดล้อม เช่น การสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า รับประทานอาหารที่ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง รวมไปถึงการได้รับสารก่อมะเร็งจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตโดยหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงจะทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งอาจลดลงได้ถึง 40%  ทั้งนี้ มะเร็งบางชนิดสามารถตรวจคัดกรองได้ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง โรคมะเร็งระยะแรกเป็นระยะที่เซลล์เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะเป็นเซลล์มะเร็งแต่ยังไม่มีการลุกลามเข้าไปยังเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้เคียง ถ้าตรวจพบในระยะเริ่มแรกเช่นนี้การรักษามักจะไม่ยุ่งยากซับซ้อน ผลข้างเคียงจากตัวโรคและการรักษาน้อย และโอกาสหายขาดสูง 

ปัจจุบันการรักษามะเร็งนั้นมีอยู่ 3 แบบ ได้แก่ การผ่าตัด การฉายรังสี และการรักษาด้วยเคมีบำบัด (คีโม) การป้องกันโรคมะเร็ง หรือการตรวจคัดกรองมะเร็ง จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะรู้ก่อนรักษาหายได้ไวกว่า อีกทั้งควรเลือกการรักษาโดยแพทย์แผนปัจจุบันก่อนจะดีที่สุด

 

 

*สามารถกดติดตาม และแชร์ข่าวสำนักข่าว Hfocus ที่ https://www.facebook.com/Hfocus.org