ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. จับมือ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก และโรงเรียนวัดปุรณาวาส จัดกิจกรรมสร้างการรับรู้สิทธิบัตรทองในกลุ่มนักเรียนชั้นประถมที่ 1-3 ผ่านสื่อ “นิทาน สายด่วน สปสช. 1330” ปูพื้นความรู้สิทธิสุขภาพ สิทธิของคนไทย พร้อมส่งมอบนิทานฯ สู่หน่วยงานที่ดำเนินงานด้านเด็กในวัยเรียน ขยายการรับรู้ให้กับเด็กๆทั่วประเทศ   

เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ร่วมกับ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กและโรงเรียนวัดปุรณาวาส เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ ร่วมจัด “กิจกรรมสร้างการรับรู้และจดจำสายด่วน สปสช. 1330 ในกลุ่มวัยประถมศึกษา” เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างความเข้าใจในสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ที่เป็นสิทธิของคนไทยทุกคนให้กับกลุ่มเด็กในวัยเรียน พร้อมมอบ “นิทานคำกลอน สายด่วน 1330” ให้กับผู้แทนหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านเด็กในวัยเรียน เพื่อเป็นสื่อในการส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ต่อไป อาทิ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศ ตัวแทนโรงพยาบาลสังกัดการแพทย์กรุงเทพมหานคร และตัวแทนเครือข่ายดำเนินงานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กใน 27 จังหวัด  

 

นายเรืองศักดิ์ ปิ่นประทีป กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก นักเขียนนิทาน นามปากกา “ตุ๊บปอง” กล่าวว่า วันนี้เป็นการจัดกิจกรรมที่ต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวหนังสือนิทานคำกลอน สายด่วน สปสช. 1330 ไปแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กิจกรรมวันนี้นับว่าเป็นประโยชน์กับเด็กๆ อย่างมาก เพราะนอกจากประโยชน์ที่ได้จากตัวของนิทานคำกลอนแล้ว ในวันนี้เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรมที่มีองค์ประกอบครบถ้วน ทั้งการอ่าน ท่อง ร้อง และเล่น ที่สนับสนุนพัฒนาการของเด็กๆ ครบทั้ง 7 ด้าน ประกอบด้วย การเคลื่อนไหวและสุขภาวะทางกาย การพัฒนาการทางสังคม อารมณ์ ภาษา จริยธรรม การคิดและสติปัญญา และการสร้างสรรค์ ขณะเดียวกันยังสร้างการจดจำสายด่วน สปสช. 1330 ที่เป็นช่องทางการรับข้อมูลและแก้ไขปัญหาการใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ให้ขึ้นใจ ไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์กับเด็กๆ เท่านั้น แต่ยังสื่อสารไปยังพ่อแม่และผู้ปกครองได้ หากมีเหตุการณ์ที่ต้องเข้ารักษาพยาบาล รวมถึงการใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ก็จะนึกถึงสายด่วน สปสช. 1330  

 วันนี้เด็กๆ 100 คนที่ร่วมกิจกรรม เชื่อว่าอย่างน้อย 1330 ก็จะติดปากเด็กๆ ไป เวลาที่เกิดเหตุเหมือนในนิทาน มีใครที่ต้องรักษาพยาบาลก็จะนึกถึง 1330 โดยต้องขอบคุณ สปสช. ไม่เพียงแต่กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่รวมถึงที่ให้เกียรติมาเป็นผู้เขียนนิทาน สายด่วน สปสช. 1330 ที่เป็นประโยชน์ให้กับเด็กๆ อย่างมาก   

 “นิทานสายด่วน สปสช. 1330 เป็นการแต่งโดยใช้คำกลอน ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย และย้ำสายด่วน สปสช. 1330 เพื่อให้เด็กจดจำ ใช้ภาพการ์ตูนสีสันสวยงานประกอบ นอกจากความสนุกที่อ่านแล้ว ก็ยังจดจำ 1330 ได้ ขณะที่ผู้ใหญ่เองก็ได้ประโยชน์เช่นกัน ในการอ่านหนังสือให้เด็กๆ ฟังก็จะรับรู้ข้อมูลไปด้วย” กรรมการผู้จัดการมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก กล่าว   

น.ส.จิราภรณ์ จ้อยเจริญ ผู้อำนวยการสถานศึกษาโรงเรียนวัดปุรณาวาส กล่าวว่า วันนี้มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 3 มาร่วมกิจกรรม 100 คน โดยเรามีนโยบายส่งเสริมพัฒนาการเด็กๆ ทุกด้าน รวมถึงการเล่านิทานก็เป็นหนึ่งในกิจกรรม นอกจากคุณครูเป็นผู้เล่าและอ่านนิทานให้เด็กๆ ฟังแล้ว ยังให้รุ่นพี่มาอ่านหนังสือให้รุ่นน้องฟัง รวมถึงมีกิจกรรมหนังสือเดินทางที่โรงเรียนจะส่งนิทานไปให้ผู้ปกครองอ่านให้นักเรียนฟังด้วย ซึ่งเป็นกิจกรรมของเด็กชั้นปฐมวัย 

สำหรับนิทานสายด่วน สปสช. 1330 ที่มีเนื้อหาสิทธิบัตรทองฯ นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นสิทธิสุขภาพอนามัยของคนไทย การที่เด็กๆ รู้จักสิทธินี้ รวมถึงจดจำสายด่วน สปสช. 1330 ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะเป็นสิทธิที่เด็กๆ ได้รับการดูแลตั้งแต่เกิด การที่รู้ว่าตนมีสิทธิอะไรก็จะเป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังนำความรู้ตรงนี้ไปถ่ายทอดให้กับพ่อแม่และเพื่อนๆ เพื่อจะได้รับรู้ไปด้วยกัน อย่างไรก็ตามขอฝากในเรื่องประชาสัมพันธ์ที่อยากให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และอยากให้มีกิจกรรมแบบนี้ตามโรงเรียนอีก เพื่อเป็นการปูพื้นฐานสิทธิด้านสุขภาพให้กับเด็กๆ ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ต่อไป

ดร.ณชนก หล่อสมบูรณ์ อนุกรรมการสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ กล่าวว่า หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นระบบที่ส่งเสริมให้กับคนไทยเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เป็นระบบที่ดีและควรเป็นความรู้พื้นฐานของคนไทยทุกคน และการที่ สปสช. ได้นำเรื่องสิทธิบัตรทองฯ และสายด่วน สปสช. 1330 มาจัดทำเป็นนิทานเผยแพร่ความรู้ลงไปสู่ครอบครัวถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะหนังสือนิทานเป็นสื่อที่ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้เป็นอย่างดี และในหนังสือนิทานเล่มนี้ยังมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ประกอบกับการสอดแทรกเกร็ดความรู้ สายด่วน สปสช. 1330 ที่นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตได้จริง 

ส่วนเนื้อหานิทานสายด่วน สปสช. 1330 มองว่า มีความเหมาะสมทั้งภาษา และคำสัมผัสที่แต่งด้วยผู้เขียนที่เชี่ยวชาญทางภาษา โดยเฉพาะการเล่านิทานที่ใช้ทำนองเพลงเข้ามา ทำให้เด็กๆ สามารถจดจำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฟังนำไปสู่การอ่านด้วยตนเองได้ อย่างไรก็ตามอยากให้มีการจัดอบรมให้กับคุณครู หรือไม่ก็จัดทำคลิปวีดีโอแนะนำการเล่านิทาน ทั้งในด้านการร้อง การให้จังหวะเพลง ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะจะทำให้การอ่านนิทานมีสีสัน และเด็กๆ มีชีวิตชีวาและรู้สึกสนุกสนานไปพร้อมกัน ทั้งนี้อยากให้มีการขยายผลในสถานศึกษาเพิ่มเติม   

“ขอบคุณสปสช.ที่จัดกิจกรรมครั้งนี้ ประโยชน์นอกจากจะเกิดกับเด็กๆ แล้ว คนในครอบครัวก็จะได้ความรู้นี้ไปด้วย เพราะเด็กๆ จะบอกข้อมูลที่ได้ให้กับผู้ปกครองที่บ้านที่อาจไม่เคยใส่ใจกับเรื่องนี้ แต่เมื่อรับทราบข้อมูลจากจุดเริ่มต้นตัวน้อย ก็อาจขยายการรับรู้ในสิทธิบัตรทองเพิ่มเติมได้” อนุกรรมการสมาคมอนุบาลศึกษาแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ กล่าว

   

เรื่องที่เกี่ยวข้อง