ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 ศจย. สพท. ยื่นหนังสือถึง “ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข” เสนอข้อเท็จจริง วิเคราะห์ 2 ทางเลือกของประเทศไทย “แบนหรือไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า” ข้อมูลทั่วโลก พบช่วงอายุที่มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากคือ 15-24 ปี 

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2567 ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ (สพท.) สภาการศึกษาคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง ‘นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ประธานกรรมาธิการสาธารณสุข’ เสนอข้อเท็จจริง การวิเคราะห์ 2 ทางเลือกของประเทศไทย ในการแบนหรือไม่แบนบุหรี่ไฟฟ้า โดยขอให้นำข้อมูลนี้เข้าประชุมปรึกษาหารือกับ ‘คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย’ ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านในการพิจารณากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย เพื่อปกป้องเยาวชนไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า

ผศ.ดร.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการ ศจย. กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการแต่งตั้ง ‘คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษากฎหมายและมาตรการควบคุมกำกับบุหรี่ไฟฟ้าในประเทศไทย’ จึงขอให้กรรมาธิการวิสามัญฯ ขุดนี้ คำนึงถึงข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านในการพิจารณากฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศไทย เพื่อปกป้องเยาวชนไทยจากบุหรี่ไฟฟ้า เพราะข้อมูลทั่วโลก พบช่วงอายุที่มีการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามากคือ 15-24 ปี ซึ่งเป็นเยาวชนนักสูบหน้าใหม่ที่เพิ่งเริ่มลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งนี้มาตรการบุหรี่ไฟฟ้า แบน vs ควบคุม บทเรียนจากต่างประเทศ สรุปได้ดังนี้ 1) ปัจจุบันประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จาก 4 ประเทศในปี 2555 เป็น 37 ประเทศในปี 2566

2) ประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้าพบอัตราการสูบของเยาวชนต่ำกว่าประเทศที่ให้ขาย 3) ประเทศที่ให้ขายได้ แล้วออกกฎหมายควบคุม เช่น อังกฤษ อเมริกา แคนาดา นิวซีแลนด์ ปัจจุบันพบว่าคุมไม่ได้จริง อัตราสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนเพิ่มขึ้นมาก และบางประเทศยังพบอัตราสูบบุหรี่มวนเพิ่มอีกด้วย 4) ประเทศที่เคยแบน แล้วเปลี่ยนเป็นให้ขายได้ พบอัตราสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนเพิ่มเป็น 2-5 เท่าตัว เช่น แคนาดา นิวซีแลนด์ 5) องค์การอนามัยโลก สนับสนุนให้ประเทศรายได้น้อยและปานกลาง ใช้มาตรการแบนบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องเยาวชน และยังพบประเทศรายได้สูงหลายประเทศที่แบนบุหรี่ไฟฟ้าเพราะต้องการปกป้องเยาวชน เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย ไต้หวัน ฮ่องกง 

“ซึ่งทาง 2 แพร่ง ที่ไทยต้องเลือก จากการทบทวนรายงานสถานการณ์อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนในประเทศต่างๆ  ที่ห้ามสูบบุหรี่ไฟฟ้า และไม่ห้าม พบว่า ทางเลือกที่หนึ่ง หากยกเลิกกฎหมายห้ามนำเข้าห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้า แล้วเปิดเป็นบุหรี่ไฟฟ้าเสรี คาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเป็นเหมือนแคนาดาและนิวซีแลนด์ โดยอัตราสูบบุหรี่ไฟฟ้าในเยาวชนไทยจะเพิ่มขึ้น 2-5 เท่า ใน 3 ปี นั่นคือถ้าใช้ข้อมูล ปี 2564 คือ 8% จะเพิ่มสูงถึง 16-40%”