ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สสส.ชู "น่าน" จังหวัดแรก ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ภายใต้นโยบายเมืองสุขภาพดี หรือ Blue Zone ของกระทรวงสาธารณสุข สานพลังเทศบาลเมืองน่าน UDC ม.แม้โจ้ พัฒนา "ชุมชนน้ำล้อม เทศบาลเมืองน่าน" ต้นแบบเมืองที่เป็นมิตรเพื่อผู้สูงอายุ จัดทีมช่างชุมชนออกแบบ ปรับปรุงบ้านคนสูงอายุ คนพิการ ที่อยู่เพียงลำพัง ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี   

ประเทศไทยในขณะนี้ได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) เปิดเผยถึงจำนวนผู้สูงอายุในสังคมไทยว่ามีมากกว่า 13 ล้านคน คิดเป็น 20% อีกทั้งพบว่า มีคนพิการมากกว่า 2.1 ล้านคน คิดเป็น 3% การดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีจึงเป็นเรื่องท้าทายในปัจจุบัน

เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2567 ที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน นพ.พงศ์เทพ วงศ์วัชรไพบูลย์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยนางภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ และผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้การออกแบบและปรับปรุงบ้านพักของผู้สูงอายุตามแนวคิดการออกแบบเพื่อทุกคน ในพื้นที่ที่เป็นมิตรกับผู้สูงอายุและทุกคน  

"น่าน" จังหวัดแรก ส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

นพ.พงศ์เทพ กล่าวว่า จ.น่าน เป็นจังหวัดแรกที่ดำเนินส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ ภายใต้นโยบาย “เมืองสุขภาพดี” (Healthy City Model) หรือ Blue Zone ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดย สสส. ร่วมกับศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในการขับเคลื่อนให้ จ.น่าน เป็น 1 ในจังหวัดต้นแบบเมืองที่เป็นมิตรกับทุกคน มุ่งพัฒนาพื้นที่สถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สาธารณะต้นแบบ รวมถึงที่พักอาศัยของผู้สูงอายุและคนพิการ ให้มีสภาพแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ และทุกคน ภายใต้แนวคิด “การออกแบบเพื่อทุกคน” หรือ Universal Design (UD) เอื้อให้คนกลุ่มนี้สามารถดำเนินชีวิต และออกจากบ้านมาใช้ชีวิต ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับคนในชุมชนได้อย่างอิสระ สะดวก ปลอดภัย ถือเป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่การมีสุขภาวะดี

นพ.พงศ์เทพ เสริมด้วยว่า สสส.จะหนุนเสริมให้ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ร่วมขับเคลื่อนเรื่องของปัญหาสุขภาวะ ซึ่งประชาชนทุกคนควรสามารถเข้าถึงสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สาธารณะต่าง ๆ อาคารของหน่วยราชการ รวมถึงใช้ชีวิตได้อย่างมีสุขภาวะที่ดี ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทำให้พื้นที่ต่าง ๆ มี Universal Design เพราะการให้ผู้สูงอายุได้ท่องเที่ยวและเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ จะช่วยลดภาวะซึมเศร้า เมื่อสถานที่พร้อมรองรับ การจะรวมกลุ่มผู้สูงวัยท่องเที่ยวก็ทำได้อย่างอิสระ สำคัญที่สถานที่นั้นต้องปลอดภัย ทุกคนเข้าถึงได้ 

ยก "ชุมชนน้ำล้อม" นำร่อง ต้นแบบที่อยู่อาศัยเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ  

"การขับเคลื่อนพื้นที่ต้นแบบเมืองที่เป็นมิตรใน จ.น่าน มีชุมชนน้ำล้อม เป็นพื้นที่นำร่อง 1 ใน 31 ชุมชนของเทศบาลเมืองน่าน โดดเด่นในการสร้างต้นแบบที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ และคนพิการ โดยในอนาคตมีแผนการสร้างที่อยู่อาศัยแบบหมุนเวียนสำหรับผู้สูงอายุและพิการยากไร้ด้วย เพราะมีสัดส่วนผู้สูงอายุอยู่คนเดียวจำนวนมาก ซึ่งการขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม มีส่วนช่วยให้เกิดการสร้างความเข้าใจและเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ เป็นส่วนหนึ่งของการรองรับสังคมสูงวัยและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทย และเตรียมขยายผลไปยังจังหวัดอื่น ๆ ต่อไป” นพ.พงศ์เทพ กล่าว

นพ.พงศ์เทพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา สสส. สนับสนุนและร่วมขับเคลื่อนให้เกิดการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ คนพิการ ตามแนวคิด UD ทั้งในส่วนของที่พักอาศัย สถานที่สาธารณะ และสถานที่ท่องเที่ยว โดยสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ Universal Design Center ในมหาวิทยาลัย 12 แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ความรู้เรื่องการออกแบบ Universal Design แก่หน่วยงาน ประชาชน ที่สนใจ และให้คำปรึกษาในการปรับสภาพบ้านไปแล้วกว่า 785 หลัง จัดอบรมช่างชุมชนให้มีความรู้ในประเด็น UD สามารถไปดำเนินการปรับสภาพแวดล้อมในส่วนบ้านพักและสถานที่สาธารณะ รวมทั้งสนับสนุนมูลนิธิอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล เพื่อพัฒนาทูตอารยสถาปัตย์กว่า 300 คน มีทั้งผู้สูงอายุ คนพิการ สามารถเป็นตัวแทนในการให้ข้อมูลและร่วมขับเคลื่อนประเด็นการปรับสภาพแวดล้อมและจัดสิ่งอำนวยความสะดวกตามแนวคิด UD ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ

ด้านนายณกรณ์ ศิริรัตน์พิริยะ รองนายกเทศบาลเมืองน่าน กล่าวว่า เทศบาลเมืองน่านได้ปรับปรุงสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการ ได้แก่ 

  • อาคารจามจุรี 
  • อาคารพญานาคของศูนย์ท่องเที่ยวเมืองน่าน 
  • อาคารสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน 

อีกทั้งยังบูรณาการทำงานกับหลายฝ่ายในการสำรวจชุมชนเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมตามความต้องการของประชาชน โดยเทศบาลเมืองน่านได้ส่งทีมประเมินบ้านของผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นประจำ และมีทีมอนุกรรมการลงพื้นที่สำรวจเยี่ยมบ้านทุกวันพุธ เพื่อนำข้อเสนอต่าง ๆ ของประชาชนนำไปวางแผนการพัฒนาให้เหมาะสม นอกจากนี้ ยังได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ได้แก่ โรงพยาบาลน่าน จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย สมาคมสถาปัตย์ภาคเหนือ และวิทยาลัยชุมชนในการดูแลผู้สูงอายุ เพื่อพัฒนาแนวทางการทำงาน UD ในจ.น่าน ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง 

ผู้สูงอายุ จ.น่าน มากถึง 32% ส่วนใหญ่อยู่เพียงลำพัง   

ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ปุระพรหม หัวหน้าศูนย์ออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อทุกคน (UDC) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า จ.น่าน เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ มีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 32% ของประชากรในพื้นที่ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่อาศัยอยู่เพียงลำพัง แต่สภาพแวดล้อมไม่เอื้อต่อการดำเนินชีวิต จึงเริ่มต้นลงพื้นที่และได้เห็นศักยภาพของคนในท้องถิ่น แต่ยังขาดที่ปรึกษา และช่างชุมชนที่มีความรู้ด้าน Universal จึงริเริ่มดำเนินการพัฒนาให้ จ.น่านเป็นต้นแบบเมืองที่เป็นมิตรของภาคเหนือ โดยความร่วมมือของศูนย์ UDC  จากสถาบันการศึกษา 5 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยพะเยา โดยร่วมกับโรงพยาบาลน่าน เทศบาลเมืองน่าน ชมรมผู้สูงอายุ ภาคเอกชน มีกระบวนการรับฟังความเห็นจากคนในพื้นที่ รวบรวมความเห็นส่งต่อให้กองช่างไปดำเนินงานตลอดการทำงาน 2 ปีจนเห็นผลลัพธ์เป็นรูปธรรม

ผศ.ดร.วุฒิกานต์  กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน จ.น่าน มีการปรับภูมิทัศน์ ได้แก่ 

1.ที่ชุมชนบ้านน้ำล้อม ต.ในเวียง อ.เมือง มีการจัดสภาพแวดล้อมบ้านผู้สูงอายุกลุ่มยากไร้และอยู่เพียงลำพัง โดยปรับปรุงห้องน้ำ บันได พื้นบ้าน จัดระเบียบของใช้ และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก 

2.ศาสนสถาน มีการปรับปรุงพื้นที่ และอาคารสาธารณะ เช่น แก้ไขพื้นผิวทาง เพิ่มราวจับ 

3.ตลาดชุมชนบ้านพระเนตร มีการปรับห้องน้ำสาธารณะ เพิ่มราวจับ 

4.เตรียมสร้างศูนย์ดูแลผู้สูงวัย แบบไปเช้า-เย็นกลับ (DAYCARE) ที่โรงพยาบาลน่าน มีเนื้อที่ใช้สอย 700 ตารางเมตร เพื่อลดความแออัดในในโรงพยาบาล โดยออกแบบให้เป็นสถานบริบาลให้ผู้สูงอายุมาตรวจเช็คร่างกาย ทำกายภาพบำบัด รับยา และจัดร่วมกิจกรรมที่เหมาะสมกับช่วงวัย เพื่อให้ผู้สูงอายุมีกิจกรรมทำนอกบ้าน ไม่ต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง ช่วยลดความกังวลของบุตรหลาน  

ปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุตามแนวคิด UD

ผศ.ดร.วุฒิกานต์ ยกตัวอย่างการปรับปรุงบ้าน 2 หลัง ภายในชุมชนน้ำล้อม เพื่อผู้สูงอายุและผู้พิการว่า งบประมาณในการปรับปรุงบ้านในชุมชนน้ำล้อม นอกจากงบประมาณที่ได้รับมาแล้ว ยังได้ความร่วมมือจากชาวบ้าน ชุมชน และเทศบาลเมืองน่าน ในการช่วยเหลือ ซึ่งการปรับปรุงจะทำภายใต้พฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเดิม เพราะวิถีชีวิตสำคัญ จำเป็นต้องทำตามบริบทเดิม อยู่แล้วต้องรู้สึกสบายใจ เช่น ไม่ควรปรับปรุงบันได เพราะผู้สูงวัยคุ้นเคยกับบันไดเดิม หากทำตามแนวคิด UD อาจทำให้ล้มได้ การทำงานต้องศึกษาเรียนรู้เจ้าของบ้านก่อน ปรับตามความคุ้นเคย ความเคยชิน และพฤติกรรมของผู้ใช้งาน จึงจะเป็นการออกแบบเพื่อผู้อยู่อาศัยอย่างแท้จริง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

"หมอชลน่าน" เปิดเมืองอารยสถาปัตย์ น่าน อำนวยความสะดวกผู้สูงวัย-คนพิการ

เรื่องที่เกี่ยวข้อง