ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ครม. รับหลักการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.คุมน้ำเมา แต่มอบเลขานายกฯ ศึกษาความต้องการผ่อนปรน ชี้ความสำคัญกระตุ้นเศรษฐกิจ  คาดภายใน 1 สัปดาห์รู้เรื่อง!  ก่อนส่งกลับครม. เห็นชอบ จากนั้นส่งกฤษฎีกา ประมวลเนื้อหาร่างออกมาอย่างสมดุลทั้งสุขภาพ และศก.

 

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ที่ประชุมครม.มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากฉบับที่ใช้อยู่ปัจุบัน คือ ฉบับ พ.ศ. 2551 จนถึงตอนนี้ผ่านมา 16 ปี แล้ว ซึ่งตามหลักการกฎหมายทุกฉบับเมื่อบังคับใช้ผ่านไป 5 ปี แล้งต้องมาทบทวนว่า เมื่อเทียบกับสถานการณ์แล้วยังใช้ได้ดีอยู่หรือมไม่ ซึ่งเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่า ยังมีบางประเด็น บางแง่มุมที่ไม่มีความชัดเจน บทบัญญัติไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน จึงเสนอร่างฯ ใหม่เข้ามาโดยกำหนดนิยามคำว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮล์” นิยามคำว่า “ผู้มีปัญหาจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์”  รวมถึงนิยาม “สื่อสารการตลาด” เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอดีตกฎหมายไม่ได้ระบุว่า ปริมาณแอลกอฮอล์เท่าไหร่ ไม่เกินเท่าไหร่ ทำให้อยู่ที่การตีความ ดังนั้นในร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่จะระบุชัดว่า หากแอลกอฮอล์ไม่เกิน 0.5% ไม่ถือว่า เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

นอกจากนี้ ยังบัญญัติให้เพิ่มองค์ประกอบคณะกรรมการชุดต่างๆ เช่น เพิ่มผู้แทนจากกระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)  กระทรวงกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และให้อำนาจหน้าที่รัฐมตนตรีที่รักษาการตามพ.ร.บ. ในการกำหนดไม่ให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ขาย หรือสถานบริการ    รวมทั้งเพิ่มโทษ หากละเมิดดื่มในจุดที่ห้ามขายปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท

ทั้งนี้ ตามหลักการนี้ ครม.เห็นด้วยในหลักการว่า พ.ร.บ.ที่ใช้อยู่ในปัจุบัน จำป็นต้องมีการปรับปรุงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม มีความเห็นว่า สิ่งที่เป็นนโยบายของรัฐบาลนี้ ซึ่งนายกฯ ได้สั่งการไปก่อนหน้านี้ว่า ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยว  เนื่องจากเป็นเครื่องจักรสำคัญทางเศรษฐกิจ โดยนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเศรษฐกิจนั้น มีทิศทางของการที่จำเป็นต้องคำนึงถึงมิติทางด้านศรษฐกิจ ต้องมีการผ่อนปรนมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันที่ประชุมครม.เห็นความสำคัญทางด้านสุขภาพ เรื่องความปลอดภัยจากการดื่มแอลกอฮอล์

ดังนั้น ครม. จึงเห็นชอบว่า ร่างพ.ร.บ. ต้องยกร่างใหม่ แต่เนื้อหาสาระขอให้คณะกรรมการกฤษฎีกานำกลับไปทบทวนสาระให้เกิดสมดุลระหว่างมิติด้านสุขภาพ และมิติกระตุ้นทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยนายกฯ ให้เลขาธิการนายกฯ พร้อมคณะทำงานไปรีวิวว่า สิ่งที่การท่องเที่ยว การกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการการค้า การกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องการการผ่อนปรนด้านใดบ้าง และเสนอให้ครม. พิจารณาภายใน 1 สัปดาห์ หากครม.เห็นชอบก็ส่งให้กฤษฎีกา เพื่อนำไปประมวล ทำให้เนื้อหาร่างออกมามีความสมดุลทั้งสุขภาพ และเศรษฐกิจ

 

“สรุปร่างพ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เสนอมารอบนี้ ครม. เห็นชอบในหลักการ แต่เนื้อหา จะรอให้กฤษฎีกาได้รับข้อเสนอในมิติด้านเศรษฐกิจให้เรียบร้อยแล้วนำไปเขียนทบทวนใหม่  จึงเสนอกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง” นายชัย กล่าว

นายชัย กล่าวอีกว่า หลักๆ ที่เป็นคีย์แมสเซจที่ครม.ตัดสินใจ คือ 1. ต้องทำให้กฎหมายฉบับนี้มีความชัดเจนทุกมิติ เพื่อการบังคับใช้ให้มีความชัดเจน ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ไม่มีถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง 2.ต้องการให้กฎหมายมีความสมดุลทั้งด้านสุขภาพ กับเศษฐกิจ 3. การผ่อนปรนถ้าจะเกิดขึ้น ต้องเป็นการผ่อนปรนที่แม่นยำ เฉพาะจำจงตามวัตถุประสงค์การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการท่องเที่ยว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง