ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“เครือข่ายกัญชา” บุกกระทรวงยุติธรรม จี้ “ทวี สอดส่อง” ตอบ 4 คำถาม ทำไมตั้งแง่กับกัญชา แต่ปล่อย ยาบ้า สุรา เสพ ขายได้อย่างเสรี ขีดเส้น 7 วัน ต้องชี้แจงประชาชน

 

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดย นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายฯ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อให้นำข้อเท็จจริงมากำหนดสถานะของกัญชา โดยมีนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง 

 

สำหรับเนื้อหาในหนังสือ ระบุว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้มีความพยายามมาตลอดเวลาในการนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติด ความพยายามนี้ดำเนินการมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วในนาม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชาติ จนกระทั่งได้เป็นรัฐมนตรีความพยายามนั้นดูเหมือนจะมีความศักดิ์สิทธิมากขึ้นด้วยการเชิญนักวิชาการและหมอที่เกลียดกัญชามาทำการเสวนาเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเองในการเสนอให้นำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติด

 

ประเด็นสำคัญที่ พ.ต.อ.ทวี ต้องตระหนักไว้ให้ดีคือการกำหนดนโยบายไม่ใช่การเอาชนะคู่แข่งในทางการเมือง ท่านยังติดนิสัยเดิมเมื่อคราวเลือกตั้งที่ใช้ประเด็นกัญชาโจมตีพรรคที่ทำนโยบายเรื่องกัญชาเพื่อเอาชนะทางการเมือง ท่านต้องมีสติว่าตอนนี้เป็นรัฐมนตรีแล้ว การกำหนดนโยบายต้องกระทำตามข้อเท็จจริงไม่ใช่ยังใช้นิสัยของนักการเมืองมาทำนโยบาย 

ประเด็นที่เป็นที่สงสัยมากที่สุดสำหรับ รมว.ยุติธรรมคนนี้คือ ไม่คัดค้านการให้เสพยาบ้าได้ 5 เม็ด ไม่คัดค้านการขายเหล้าในสถานบันเทิงจนถึงตี 2 ทั้งที่ยาบ้าเป็นปัญหาหลักในพื้นที่สามจังหวัดและสุราเป็นข้อห้ามที่ชัดเจนในหลักการของพี่น้องมุสลิมซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาชาชาติ แต่กลับผลักดันให้กัญชากลับสู่ยาเสพติดทั้งที่พี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดจำนวนไม่น้อยที่รักษาอาการเจ็บป่วยด้วยกัญชา คนที่เป็นโรคร้ายแต่ไม่มีเงินรักษามีอยู่จำนวนมาก ทำไมพรรคประชาชาติจึงไม่สนใจเรื่องนี้ กัญชาไปทำอะไรให้ท่าน เจ็บช้ำน้ำใจจึงได้ติดตามจองเวรกับกัญชาจนเกินเลยจากข้อเท็จจริง เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยมีคำถามที่ ทวี สอดส่อง ต้องตอบ 4ประการ

 

1.เหตุใด พ.ต.อ.ทวี  ไม่คัดค้านการอนุญาตให้ใช้ยาเสพติดอย่างเสรีคือนโยบายยาบ้า 5 เม็ด ทั้งที่เรื่องนี้เป็นปัญหาสำคัญในสามจังหวัดชายแดนใต้และเป็นปัญหาสำคัญทั่วประเทศ โดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคประชาชาติเรื่องยาบ้ายังเป็นปัญหาสำคัญ คำถามคือใครเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่ในสามจังหวัดชายแดนใต้ และมีพรรคการเมืองใดนำเงินที่ได้จากการขายยาบ้ามาทำกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่

 

2. ขอให้ พ.ต.อ.ทวี  ชี้แจงข้อมูลที่ระบุในการสัมมนาเมื่อวันที่ 9 ก.พ.2567 ที่ผ่านมาว่า เด็กและเยาวชนใช้กัญชาเพิ่มขึ้น 10 เท่า ข้อมูลนี้มีที่มาอย่างไร และขอรายละเอียดข้อมูลทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาเด็กและเยาวชนถูกนำมาอ้างเรื่องกัญชามากที่สุดเพื่อนำกัญชากลับสู่ยาเสพติด หากทวี สอดส่อง อ้างข้อมูลที่เลื่อนลอยหรือข้อมูลไม่ครบถ้วนต้องรับผิดชอบเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหวของสังคม อย่าเอาเด็กมาอ้างเพื่อบรรลุเป้าหมายของตัวเอง อย่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประชาชนห่างไกลจากข้อเท็จจริงเรื่องกัญชา

 

3.ตอนนำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติดในปี 2522 กัญชาก่อความวิบัติอะไรให้กับสังคมไทย ขอให้รัฐมนตรีนำหลักฐานและข้อเท็จจริงในสมัยนั้นมาแสดงให้คนไทยทั้งประเทศเห็นว่าที่รัฐบาลไทยนำกัญชาไปสู่บัญชียาเสพติดกัญชาก่อผลร้ายอะไรในขณะนั้น ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีการใช้กัญชาในฐานะพืชสมุนไพรในวิถีของประชาชนกันมานับ100ปีในวิถีของประชาชน

 

4.ขอให้จัดทำข้อมูลวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบระหว่าง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ กัญชา โดยหัวข้อการเปรียบเทียบประกอบด้วย ประโยชน์ โทษ คุณสมบัติที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เมื่อจัดทำข้อมูลทั้งสามหัวข้อแล้วจะต้องนำมาสังเคราะห์ว่าสิ่งไหนควรกลับเข้าสู่บัญชียาเสพติด เน้นย้ำว่าเป็นข้อมูลวิทยาศาสตร์ที่มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน อย่าใช้การมโนเอาเองเหมือนที่ผ่านมา เพราะในฐานะรัฐมนตรีต้องใช้ข้อเท็จจริงในการกำหนดนโยบาย

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวว่า จากคำถามทั้ง 4 ประการดังกล่าวข้างต้น นอกจากจะต้องตอบต่อเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยแล้วกระทรวงยุติธรรมต้องนำเสนอข้อมูลเหล่านี้ต่อสาธารณะอย่างเป็นทางการ ขอย้ำว่ารัฐมนตรียุติธรรมต้องกล้าหาญที่จะนำเสนอข้อมูลให้สาธารณะรับทราบ เพราะก่อนหน้านี้ได้แสดงความกล้าหาญด้วยการกระทำการหลายประการในการนำกัญชาสู่ยาเสพติด เมื่อกล้าหาญในการกระทำก็ต้องกล้าหาญที่จะประกาศให้ประชาชนทราบว่า ที่กระทำลงไปนั้นเป็นเพราะความอยากส่วนตัวหรือกระทำไปตามข้อเท็จจริง” 

 

“กระบวนการกำหนดนโยบายของประเทศนี้ห่างไกลจากเส้นความถูกต้องมากขึ้นทุกที นักการเมืองซื้อเสียงมาแล้วได้ตำแหน่งใหญ่โต นำตำแหน่งนั้นมากำหนดนโยบายเอาใจกลุ่มผลประโยชน์เพื่อทำเงินใช้ซื้อเสียงในการเลือกตั้งครั้งหน้า พฤติกรรมอันน่ารังเกียจนี้วนเวียนอยู่หลายทศวรรษในประเทศไทย จนในปัจจุบันนี้สังคมไทยต้องเผชิญปัญหามากมายจากการกำหนดนโยบายที่ผิดพลาดนี้” เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าว 

 

นายประสิทธิ์ชัย กล่าวอีกว่า เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจึงมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้อนาคตของกัญชาไทยถูกกำหนดตำแหน่งแห่งที่ตามข้อเท็จจริงไม่ถูกใส่ร้ายจากคนที่เป็นรัฐมนตรีและคนที่อยู่ในอำนาจรัฐ จึงจำเป็นต้องทำให้รัฐมนตรีทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดกฎหมายกัญชากระทำการบนข้อเท็จจริง ประชาชนจึงออกมายื่นหนังสือเรียกร้องเพราะรัฐมนตรีทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกัญชายืนอยู่บนข้อเท็จจริงเดียวกันและข้อเท็จจริงนี้ประชาชนจะได้ร่วมรับทราบพร้อมกันไปด้วย เพื่อจะทำให้ทุกฝ่ายต้องใช้ข้อเท็จจริงนี้ในการกำหนดนโยบายกัญชา จึงเรียนมายัง รมว.ยุติธรรม ได้ตอบคำถามทั้ง 4 ข้อโดยเมื่อ 7 วันผ่านไปนับตั้งแต่วันยื่นหนังสือเราจะทวงคำตอบและหากยังไม่ได้คำตอบเราจะทวงคำตอบทุก 3 วันและหากยังไม่ได้คำตอบเราจะมาทวงที่กระทรวงยุติธรรม โดยหลังจากนี้เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทยจะติดตามการตอบคำถามของ รมว.ยุติธรรม และนำข้อมูลนั้นมาเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบและใช้สำหรับการกำหนดกฎหมายกัญชาต่อไป