ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“ชลน่าน-อนุทิน” เผยข้อคิดเห็นหลัง นายกฯ “เศรษฐา” ให้สัมภาษณ์สื่อตปท.นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด ด้านรมว.สาธารณสุขปัจจุบันย้ำยังเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล “กัญชานำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข” ด้านรมว.มท. อดีตรัฐมนตรีสธ.หากเปลี่ยนแปลงก็ต้องแก้กฎหมาย

 

ตามที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศนโยบายการนำกัญชาให้กลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด จนทำให้เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าวนั้น

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อตั้งคำถามว่านายกฯ ระบุว่าจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด ทางฝั่ง สธ.ต้องเตรียมพร้อมดำเนินการอย่างไร ว่า ไม่ได้เตรียมพร้อมอะไร จริงๆกฎหมายที่ออกมาก็เป็นไปตามตามนโยบายของรัฐบาลที่แถลงโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กัญชาจะนำมาใช้กรณีทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น แต่ประเด็นที่สัมภาษณ์คือ กัญชาก็เป็นยาเสพติดอยู่แล้วตอนนี้กรณีมีสาร THC มากกว่า 0.2 ขึ้นไป ส่วนสารสกัดกัญชาที่มี THC น้อยกว่า 0.2 ก็ไม่ถือเป็นยาเสพติด

“ เมื่อกัญชาที่ไม่จัดอยู่ในยาเสพติดก็ต้องมีวิธีการดูแล ควบคุม การใช้ให้เสมือนเป็นยาเสพติด ซึ่งกฏหมายมีรองรับ อย่างข้อตกลงระหว่างประเทศ หากไม่ประกาศเป็นยาเสพติด แต่ต้องมีกฎหมายควบคุมเสมือนเป็นยาเสพติด” นพ.ชลน่าน กล่าว

วันเดียวกัน ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าว ว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายกัญชาเพื่อทางการแพทย์ เศรษฐกิจ และใช้เพื่อวิจัยพัฒนา และอยู่ในนโยบายที่นายกฯ ได้แถลงต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อตอนเข้ารับตำแหน่งใหม่ๆ ถือว่ามีความชัดเจน อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่ได้อ่านข้อความที่นายกฯ ได้ให้สัมภาษณ์ คงต้องมาตีความกัน

“เคยมีนโยบายเรื่องนี้มาก่อนตั้งแต่ในสมัยผมเป็น รมว.สาธารณสุข ในรัฐบาลที่ผ่านมา ก็เห็นด้วยทุกอย่างจึงออกมาเป็นนโยบายในรัฐบาลชุดนี้ได้ และเมื่อได้ชี้แจงต่อรัฐสภา ก็เท่ากับเป็นการชี้แจงให้กับประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ หากเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงในเรื่องของนโยบาย อาจต้องมีการแก้ไขกฎระเบียบต่างๆ ที่มีผลบังคับใช้ อาทิ กฎกระทรวงสาธารณสุข ประกาศจากกรมการแพทย์แผนไทย ที่ระบุถึงการใช้กัญชาอย่างถูกวิธี บัญชีการใช้ยาหลักแห่งชาติ ได้บรรจุยาที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชาอยู่ในบัญชียาหลักแล้ว มติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กฎหมายที่อนุญาตให้ปลูก ลงทุน และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตตามภายใต้การคุ้มครองของกฎหมายต่างๆ ฉะนั้นถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงของนโยบาย อาจจะต้องเริ่มจากการแก้ไขกฎหมายซึ่งจะมีอีกหลายขั้นตอน” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ในด้านของนโยบายตนก็ทำตามหัวหน้ารัฐบาล ตอนนี้ไม่ได้กำกับดูแลกระทรวงสาธารณสุข แต่ขอยืนยันว่ากัญชงกัญชา ถ้าใช้อย่างถูกวิธีมีประโยชน์ และเพิ่มค่าทางเศรษฐกิจได้ มีคนได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการสร้างผลิตภัณฑ์กัญชง กัญชามากมาย เช่น ประเทศเยอรมนี และอีกหลายประเทศที่มีความก้าวหน้าทางการแพทย์ และเขาก็ยอมรับในการใช้กัญชาเพื่อทางการแพทย์ ไม่ได้ใช้ในเชิงสันทนาการ

ขณะที่เพจ “เขียนอนาคตกัญชาไทย” โพสต์ข้อความและมีผู้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้   บ้างก็บอกว่า ถึงเวลานี้แล้วยังนายกฯ ยังไม่เข้าใจกฎหมาย และบทบาทของเครือข่ายฯที่เรียกร้องให้ ออก พ.ร.บ.กัญชา เพื่อควบคุมให้อยู่ในกรอบกติกา เพราะปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้ากัญชาจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถควบคุมได้ สร้างความเสียหายให้กับ กัญชา โดยเฉพาะกลุ่ม ครู หมอยา และชาวบ้านที่ใช้กัญชาในการรักษาโรค ที่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย