ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

กรมอนามัย ชวนประชาชนทำความสะอาดส้วมในวัด พร้อมรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ส้วมสาธารณะไทย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน”  ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการใช้ส้วมสาธารณะ

วันที่ 9 เมษายน 2567 นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังกิจกรรมรณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ส้วมสาธารณะไทย สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน” ณ วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายในการพัฒนาส้วมสาธารณะไทยให้ได้มาตรฐาน HAS คือ สะอาด (Health) เพียงพอ (Accessibility)และปลอดภัย (Safety) โดยในช่วงเดือน เมษายน 2567 หรือช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์พัฒนาส้วมสาธารณะเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ เชิญชวนผู้ประกอบการและและภาคีเครือข่ายส้วมสาธารณะ เพื่อพัฒนาส้วมสาธารณะให้ได้มาตรฐานความสะอาด เพียงพอ และปลอดภัย พร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุด เพื่อลดความเสี่ยงและการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากการใช้ส้วมสาธารณะ

ทางด้าน นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การขับเคลื่อนพัฒนาส้วมวัด ของกรมอนามัยที่ผ่านมาได้กำหนดเป้าหมายและแผนดำเนินงาน ดังนี้ 1) จัดทำระบบการประเมินและกำกับติดตามการพัฒนาส้วมวัด 2) สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายส้วมสาธารณะไทยเพื่อร่วมกันพัฒนาส้วมวัด ซึ่งขณะนี้ มีวัดที่ผ่านมาตรฐานส้วมสาธารณะไทย (HAS) ร้อยละ 58 3) ส่งเสริมให้มีนักบริบาลสุขาหรือจิตอาสาในการดูแลความสะอาดส้วมวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจัดอบรมนักบริบาลสุขา และ 4) ให้วัดทั่วประเทศมีการประเมินตนเองผ่านระบบการประเมิน และพัฒนา กำกับติดตามการพัฒนาส้วมวัด 

นายอาชวิน อยู่บำรุง Happy Toilet Ambassador 2024 กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขขอความร่วมมือให้ประชาชนที่ไปทำบุญที่วัด ต้องมีพฤติกรรมในการใช้ส้วมอย่างถูกต้อง โดยปิดฝาโถส้วมก่อนกดชักโครกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค เว้นระยะห่างในขณะรอใช้ส้วมสาธารณะ 
1-2 เมตร ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบ เช็ดฆ่าเชื้อก่อนนั่งลงบนโถส้วม ไม่ทิ้งวัสดุใด ๆ ลงในโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดอย่างน้อย 20 วินาที ทุกครั้งหลังใช้ส้วม เป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับตนเองและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค สำหรับผู้ปฏิบัติงานจิตอาสาทำความสะอาดส้วมวัดต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง สวมถุงมือยางและผ้ายางกันเปื้อน สวมรองเท้าพื้นยางหุ้มแข้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็น และหลังจากปฏิบัติงานเสร็จต้องล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทันที