ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ถาม-ตอบ “สมศักดิ์” กรณีข้อสั่งการนายกฯ ประเด็นยาบ้า 1 เม็ด และโอกาสคืน “กัญชา” สู่ยาเสพติด

ภายหลังนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบให้กระทรวงสาธารณสุข ไปแก้ไขประกาศกระทรวง โดยดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 และเร่งออกกฎกระทรวงอนุญาตให้ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ด้านการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น ขณะที่ยาบ้า จำนวนการถือครองกำชับ 1 เม็ดอย่างไรก็ผิดกฎหมาย เว้นแต่เป็นผู้เสพและสมัครใจเข้าบำบัด โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ปัญหายาเสพติดให้เป็นรูปธรรมภายในสิ้นปีนี้

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง: นายกฯ สั่งสธ. รื้อกฎกระทรวงฯ ยาบ้า 1 เม็ด  ส่วนกัญชาตีกลับยาเสพติด เว้นทางการแพทย์)

ปรากฎว่าเกิดคำถามขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ชาวบ้านที่ใช้กัญชารักษาโรค หรือแม้แต่เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชา รวมไปถึงหน่วยงานวิจัยต่างๆ ที่กำลังดำเนินการว่า สุดท้ายแล้วนโยบายนี้จะชัดเจน ขีดเส้นว่า กัญชากลับเป็นยาเสพติด มีส่วนไหนอย่างไร หรือส่วนไหนใช้ในการวิจัยใช้ในทางการแพทย์และสุขภาพ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม  ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ถึงประเด็นกัญชา และยาบ้า 1 เม็ดตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี

 

คำถาม : ยาบ้า 1 เม็ดจะดำเนินการแล้วเสร็จ หรือมีขั้นตอนอย่างไร

นายสมศักดิ์ :   ประเด็นแรกในเรื่องของยาเสพติด คือเรื่องยาบ้า มอบหมายให้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดทำไทม์ไลน์ในการดำเนินงาน ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ซึ่งขอให้รอรายละเอียดก่อน แต่เบื้องต้นดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นเป็นอื่นใด

คำถาม : ทางออกกัญชาจะดำเนินการอย่างไร  

นายสมศักดิ์ : ตามที่รัฐบาลได้แถลงว่าจะดำเนินตามนโยบาย การใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจ  ซึ่งเป็นแนวทางที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน เรื่องของกัญชามีความละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะการทำประชาพิจารณ์ การรับฟังความเห็นของประชาชน ที่ตามหลักการแล้วก็ควรจะมีการทำอย่างน้อย 3 ครั้ง

เมื่อรับแนวนโยบายจากรัฐบาลมา ก็จะพยายามทำให้สอดคล้องในเรื่องกัญชานี้อาจจะต้องละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะเรื่องการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็น  และต้องมองดูความเสียหายที่เกิดขึ้นในส่วนของผู้ที่ลงทุนไปแล้ว ทั้งการปลูกหรือการทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในส่วนของการอนุญาตต่างๆต้องทำให้เกิดความคล่องตัว ยังต้องใช้เวลา ในการทำประชาพิจารณ์ การแสดงความคิดเห็น ส่วนจะทำกี่รอบกี่ครั้งยังตอบไม่ได้ แต่อย่างน้อยต้อง 3 ครั้ง

คำถาม : การรับฟังความคิดเห็น หรือการทำประชาพิจารณ์ เป็นเรื่องนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดใช่หรือไม่

นายสมศักดิ์ :  มีหลายประเด็นที่จะสอบถาม โดยจะเริ่มทำเมื่อมีการยกร่างระเบียบ กฎเกณฑ์ออกมาแล้ว  

 

คำถาม :  หากนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด จะนำส่วนใดกลับคืน

นายสมศักดิ์ :    ยังบอกไม่ได้ว่าจะนำกลับไปเป็นยาเสพติดทั้งหมดหรือไม่ เพราะต้องดูข้อมูลวิชาการ ข้อมูลจากองค์กรสากลว่าสามารถทำได้แค่ไหน เพื่อให้เกิดปัญหาน้อยที่สุด

“ขอให้ทุกฝ่ายมองเห็นประโยชน์ประเทศชาติส่วนรวม แล้วเดินไปให้เสร็จสิ้น ทั้งนี้ จะพยายามดำเนินการให้ทันภายในปี 2567 ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ เมื่อรัฐบาลมีสัญญาณออกมาเช่นนี้ ขอให้ดูกระแสสังคมว่าอย่างไร มาเป็นตัวช่วยกำหนดทิศทางในการเดินได้เร็ว ได้ช้า”

 

คำถาม :  มีแนวทางหรือไม่ว่าจะนำทุกส่วนของต้นกัญชา หรือบางส่วนกลับเป็นยาเสพติด

นายสมศักดิ์ :   มีเรื่องของวิชาการหรือข้อมูลทางองค์กรสากลต่างๆมาค้ำอยู่ว่าจะดำเนินการแค่ไหน อย่างไร   เพราะตอนนี้แค่คำว่ารัฐบาลจะดำเนินการนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ ยังมีการตีความไปต่างๆนานา จึงต้องให้ผู้รู้ ผู้เกี่ยวข้องมาช่วยทำให้ปัญหาหมดไป ถึงจะเดินต่อไปได้ อะไรที่เดินจากความขัดแย้งไปทั้งหมดก็จะไปไม่ได้ แต่ต้องยืนหยัดในสิ่งที่รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แถลงออกมา 

คำถาม :  กรณีหน่วยงานที่ทำวิจัยเรื่องกัญชาสามารถเดินหน้าต่อได้เลยหรือไม่

นายสมศักดิ์ :   ขณะนี้ยังไม่ได้ปรับแก้อะไรกระทันหันในช่วงระยะเวลานี้ ส่วนผู้ที่ได้รับใบอนุญาตให้ปลูกให้ทำอะไรไปก่อนหน้านี้ก็ทำ อย่างที่ปลูกไปแล้วก็ปลูกไป ส่วนที่ยังไม่ปลูกก็อย่า เพราะกำลังดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล

 

คำถาม : นิยามการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพหมายรวมถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพ เช่น อาหาร เครื่องสำอางด้วยหรือไม่

นายสมศักดิ์ : ยังตอบไม่ได้ เพราะความเข้าใจของผู้คนอาจจะไม่เหมือนกัน  ทำให้ดีที่สุด ขอให้มาร่วมกัน เป็นประโยชน์กับส่วนรวม ซึ่งก็พร้อมเปิดให้ทุกฝ่ายเข้าพบ แสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะเสมอ

คำถาม : หากจะนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดจะกระทบต่อผู้ประกอบหรือไม่

นายสมศักดิ์ :  เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปุ๊บปั๊บแล้วจะเป็นยาเสพติดได้เลย ซึ่งต้องดูผลกระทบและทำให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด ขณะที่ เราก็ต้องดำเนินตามนโยบายของรัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรี และตนเชื่อว่าสามารถทำได้โกยไม่กระทบต่อผู้ประกอบการ โดยถ้าผู้ประกอบการอยากหารือ ตนก็พร้อมรับฟังและอยากฟัง

คำถาม :  ต้องมีการเยียวยาให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือไม่

นายสมศักดิ์ :  ยังไม่ได้พูดคุยถึงขนาดนั้น แต่ในฐานะที่ตนเองมารับหน้าที่ตรงนี้ ก็ต้องดูและฟังทั้งหมด

“ผู้ประกอบการที่มีการลงทุนไปแล้ว ไม่ได้รับผลกระทบ แต่จะสะดวกขึ้น  ไม่ให้ใครมาเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการ และไม่ให้กระทบกับผู้ประกอบการธุรกิจ”

คำถาม : กรณีประชาชนที่ลงทะเบียนจดแจ้งปลูกกัญชาในระบบ ’ปลูกกัญ‘ ที่ดำเนินการโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จะต้องทำอย่างไร

นายสมศักดิ์ :  ที่ปลูกและก็ปลูกไป แต่ที่ยังไม่ปลูกก็อย่าเพิ่งปลูก ต้นกัญชามีอายุประมาณ 90 วัน ดังนั้นถ้าไปดูว่ากัญชาต้นไหนมีอายุน้อย ก็ถือว่าท่านไม่ระวังตัว เพราะช่วงนี้ก็มีนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ออกมาแล้ว

คำถาม :  การจะนำกลับคืนเป็นยาเสพติดนั้น จะรวมทั้งกัญชาและกัญชงหรือไม่

นายสมศักดิ์ : ตนยังมีความรู้เกี่ยวกับกัญชงน้อย ก็พยายามศึกษาพบว่า กัญชงไม่นิยมนำมาสูบเสพ ถ้าปลูกบนภูเขาก็จะมีค่า THC น้อยกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าปลูกบนที่ราบก็จะสูงกว่า 0.2 เปอร์เซ็นต์ แต่จะเชื่อเลยไม่ได้ ต้องขอดูด้วยตัวเองก่อน

คำถาม : ความแตกต่างของการนำกัญชากลับเป็นยาเสพติดกับสถานะกัญชาในปัจจุบัน

นายสมศักดิ์ : มีการระบุว่าการทำให้เสรีก็เพราะขออนุญาตยาก แต่จริงๆ เรื่องเหล่านี้แก้ได้ แต่ต้องคุมให้อยู่ ไม่ใช่ให้เด็กเล็กไปติดกัญชา ส่วนเรื่องการใช้เพื่อการแพทย์ ก็ต้องทำให้มีการขออนุญาตใช้อย่างสะดวกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแนวนโยบายของรัฐบาลที่จะใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ 

คำถาม : ได้มีการพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยหรือไม่

นายสมศักดิ์ :  ก็คุยกัน ได้คุยกัน แต่อาจไม่ได้เห็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด แต่มีแนวทางคุยกันอยู่ ไม่ได้ทะเลาะกัน

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : “อนุทิน” ยัน พ.ร.บ.กัญชา คือทางออก หวั่นผู้ประกอบการรับผลกระทบ หากดึงกลับเป็นยาเสพติด)

 

คำถาม : เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย จะขอเข้าพบเพื่อหารือกับ รมว.สธ.

นายสมศักดิ์ : ตนพร้อมให้เข้าพบหรือจะให้ไปหาก็ได้ เพราะตนก็อยากฟังข้อมูลจากทุกฝ่าย

     

คำถาม : ในส่วนของร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงที่มีการทำประชาพิจารณ์ผ่านไปแล้ว

นายสมศักดิ์ : อาจจะต้องชะลอไว้ก่อน 

 

(อ่านข่าวเกี่ยวข้อง “ประสิทธิชัย” จ่อพบ “สมศักดิ์” ปมดึงกัญชากลับเป็นยาเสพติด ชี้ยังไร้งานวิจัยเทียบเคียงเหล้าบุหรี่)