ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

 

“นพ.ยง ภู่วรวรรณ” เผยโควิดพบมากฤดูฝน ช่วงเด็กเปิดเทอม แม้ป่วยขาขึ้น แต่อาการน้อย ดูแลตัวเองได้  ขณะนี้วัคซีนโควิดไม่ได้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ของสปสช.แล้ว  คนแข็งแรงไม่มีโรคประจำตัว ไม่จำเป็นต้องรับวัคซีน เหตุฉีดตอนนี้เสียค่าใช้จ่าย  เว้นกลุ่มเปราะบาง ผู้สูงอายุกว่า 70 ปี ผู้มีโรคประจำตัว

 

ส่วนใหญ่เคยติดโควิด 90% ที่เหลือไม่เคย

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ขณะนี้โรคโควิด-19 เป็นโรคหนึ่งที่เหมือนกับโรคในระบบทางเดินหายใจแล้ว โดยตัวโรคเองได้ลดความรุนแรงลดมาโดยตลอด ขณะที่ร่างกายของคนเรามีภูมิต้านทานมากขึ้น ทั้งจากการได้รับวัคซีนป้องกัน และการติดเชื้อตามธรรมชาติ จากข้อมูลล่าสุด พบว่าประชากรส่วนใหญ่มีการติดเชื้อแล้วเกือบร้อยละ 90 ส่วนอีกร้อยละ 10 ที่ยังไม่เคยติดเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่ไม่ได้ออกจากบ้าน ทำให้มีโอกาสจะรอดจากการติดเชื้อได้ ฉะนั้น เมื่อโควิด-19 เป็นโรคในระบบทางเดินหายใจแล้ว ก็จะมี “ฤดูกาลระบาด” เหมือนๆ กับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ในประเทศไทยมักจะพบการระบาดมากในฤดูฝน อาจจะต่างจากประเทศทางซีกโลกเหนือหรือซีกโลกใต้ที่มีฤดูหนาวยาวนาน โรคก็จะระบาดในช่วงฤดูหนาวมากกว่า

โควิดพบมากฤดูฝน ช่วงเด็กเปิดเทอม  

“การระบาดของโรคโควิดในไทยจะพบมากในฤดูฝน หรือช่วงที่เด็กนักเรียนเปิดเทอม ฉะนั้น ตอนนี้อยู่ในช่วงขาขึ้น แต่ต้องย้ำว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการน้อย ดูแลตัวเองได้ จะเห็นได้จากจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรักษาในโรงพยาบาล เมื่อเทียบในช่วงเวลาเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว จะพบว่าปีนี้มีผู้ป่วยน้อยกว่ากันมาก รวมถึงผู้เสียชีวิตด้วย โดยมีการคาดการณ์ว่าตลอดทั้งปี 2567 จะมีผู้เสียชีวิตสะสมไม่เกิน 300 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้เคียงกับโรคไข้หวัดใหญ่ และปีต่อๆ ไปความรุนแรงของโรคจะลดลงอีก และผู้ป่วยที่ต้องเข้า รพ. ก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นต้องยอมรับว่า ติดเชื้อได้ แต่โอกาสน้อย รพ. จะน้อยลง เหมือนกับโรคทางเดินหายใจอื่นๆ” ศ.นพ.ยง กล่าว

ศ.นพ.ยง กล่าวว่า แต่ทั้งนี้ เราก็ไม่อยากให้เกิดการระบาดหรือติดเชื้อ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน เพราะจำเป็นต้องหยุดเรียน หรือในกลุ่มผู้สูงอายุที่สุขภาพไม่แข็งแรง เชื้อไวรัสอาจลงปอดได้ แต่สำหรับผู้ที่มีอายุไม่มาก หรือผู้ที่มีอายุมากแต่ร่างกายยังแข็งแรงอยู่ โอกาสที่เชื้อไวรัสจะลงปอด น้อยมากแล้ว

วัคซีนโควิด19 ไม่ได้อยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ ของสปสช.แล้ว   

เมื่อถามถึงความจำเป็นในการรับวัคซีนโควิด-19 ศ.นพ.ยง กล่าวว่า สำหรับเรื่องวัคซีนขณะนี้ นั้น ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 แล้ว จึงไม่มีวัคซีนโควิดในชุดสิทธิประโยชน์ ประกอบกับสถานการณ์ของโรคที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับปีแรกๆ ที่เชื้อไวรัสลงปอด และโรคมีความรุนแรง

ดังนั้น ขณะนี้ความจำเป็นของวัคซีนต่ำลง คนที่แข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องรับวัคซีน เพราะ ถ้าจะฉีดตอนนี้ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งวัคซีนมีราคาแพง เนื่องจากความจำเป็นวัคซีนน้อยลง ทำให้บริษัทผู้ผลิตบางรายก็ลดกำลังผลิตลงด้วย ซึ่งตามกลไกตลาด เมื่อมีปริมาณวัคซีนที่น้อยลง ราคาที่ขายก็จะแพงขึ้น

“วัคซีนในสถานการณ์ปัจจุบันจะเหมาะสมกับกลุ่มเปราะบางจริงๆ ได้แก่ ผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปี ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง รวมถึงผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน เป็นกลุ่มที่ควรจะได้รับการกระตุ้นวัคซีน ซึ่งกรณีที่เคยรับเข็มล่าสุดมานานเกิน 1 ปีแล้ว ก็ขอให้มารับอีกเพียง 1 ครั้งก็เพียงพอ แล้วปีหน้าค่อยว่ากัน เพราะปีหน้าเรายังไม่รู้ว่าวัคซีนจะมีความจำเป็นแค่ไหน อาจจะไม่ต้องใช้คำว่า รับวัคซีนปีละครั้ง ต้องดูตามสถานการณ์ของโรค” ศ.นพ.ยง กล่าว

ถามย้ำว่ากรณีผู้สูงอายุ 60 ปี แต่ไม่มีโรคประจำตัว มีสุขภาพแข็งแรง และเคยได้รับวัคซีนแล้ว จำเป็นต้องรับวัคซีนทุกปีหรือไม่ ศ.นพ.ยง กล่าวว่า ถ้ากรณีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัว ก็สามารถทิ้งระยะการรับวัคซีนไปได้ เพราะคนอายุ 60 ปีในปัจจุบันยังสุขภาพแข็งแรง ฉะนั้นวัคซีนจะจำเป็นเฉพาะกลุ่มที่สุขภาพไม่แข็งแรง