ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“สมศักดิ์” พร้อมแจงงบประมาณ สธ.หลังรัฐบาลเพิ่มงบกว่า 2.1 ล้านบาท หรือกว่า 9% หวังขยายบริการสาธารณสุข รับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ฯ เล็งขยายบริการดูแลป้องกันโรคมะเร็ง ส่วนงบค่าเสี่ยงภัยโควิด19 เป็นงบกลาง อยู่ที่รัฐบาลพิจารณา  ขณะที่ “เศรษฐา” อาการดีขึ้นหลังป่วยโควิด19 พร้อมเข้าสภา 19 มิ.ย.นี้

เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วันแรก จากที่กำหนดไว้ระหว่างวันที่ 19-21 มิถุนายน 2567

โดยล่าสุดมีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สามารถเดินทางเข้าร่วมอภิปรายงบประมาณ ที่สภาฯ ได้ในวันพรุ่งนี้(19 มิ.ย.) หลังป่วยโควิด ว่าหายดีแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล

 

ล่าสุด นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมการอภิปรายงบประมาณ ว่า  กระทรวงสาธารณสุขเตรียมพร้อมในการอภิปรายงบประมาณในส่วนของกระทรวงฯ แล้ว ทั้งการชี้แจงประเด็นข้อเท็จจริงตามที่กระทรวงฯ ได้รับงบฯเพิ่มขึ้นเพื่อใช้ดำเนินการต่างๆ อย่างงบบัตรทอง ได้เพิ่มประมาณกว่า 9% เพื่อดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ในการดูแลสุขภาพประชาชน และการป้องกันโรคต่างๆ รวมไปถึงนโยบาย30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว  อย่างที่ผ่านมา ตนเดินทางตรวจเยี่ยมภาคต่างๆ ของประเทศ พบว่า โรคมะเร็งหากป้องกันได้จะช่วยเรื่องคุณภาพชีวิต  อย่างภาคเหนือพบสถานการณ์ทั้งโรคหัวใจและโรคมะเร็ง

“นอกจากนี้ เรื่องมะเร็งในผู้หญิง จะเป็นมะเร็งปากมดลูก หากป้องกันได้ตั้งแต่เด็กๆ ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี ขยายการบริการเพิ่มขึ้น หากไม่กระทบงบประมาณ ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องดำเนินการ นอกจากนี้ ในภาคเหนือจะพบปัญหามะเร็งปอด ที่ผ่านมาระบบสาธารณสุขมีการคัดกรองโรคเพื่อให้พบโรคก่อน ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ซึ่งผู้คัดกรองจะรับรังสีน้อยมากๆ ขณะนี้กำลังดำเนินการ หากผลเป็นไปด้วยดี ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ก็จะสนับสนุนเพิ่มเติม” นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ ต้องเตรียมเรื่องงบดูแลบุคลากร รวมถึงค่าเสี่ยงภัยโควิด19 ด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า งบค่าเสี่ยงภัยโควิด จะเป็นงบกลาง ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ว่าเหลืองบอย่างไร ก็จะพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

ด้านนายจิรพงษ์ ทร​งวัชราภรณ์​ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ร่าง​ พ.ร.บ.​ งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.​ 2568 จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในวาระแรกขั้นรับหลักการ ในวัน ที่ 19 มิถุนายน 2567 โดยงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข ในภาพรวม ครม.​ อนุมัติ​จัดสรรงบประมาณ 341,210 ล้านบาท​ เพิ่มขึ้น​ 21,966​ ล้านบาท​ จากงบประมาณปี 67​ ซึ่งในส่วนงบประมาณที่เพิ่มเติมมานั้น​  มาจากการเพิ่มงบประมาณ ไปที่กองทุนหลักประกัน​สุขภาพแห่งชาติ​ ภายในวงเงิน​ 235,842 ล้านบาท​ เพิ่มขึ้น​จากปีงบประมาณ​ 2567​ จำนวน​ 18,213​ ล้านบาท​ ประกอบไปด้วย 2 ส่วนที่สำคัญ คือ

1.ค่าบริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีสิทธิ์ในระบบหลักประกันสุขภาพ​ถ้วนหน้า​ เพิ่มขึ้น​จาก​ปีงบประมาณ​  2567​ จำนวน​ 15,014 ล้านบาท​ ค่าเหมาจ่าย​รายหัว​จาก​ 3,472​ บาท​ เป็น​ 3,844 บาทต่อหัว

2.ค่าบริการทางการแพทย์นอกเหมาจ่ายรายหัว เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ​ 2567​ จำนวน​ 2,441 ล้านบาท​ วงเงินรวม 54,545 ล้านบาท​ในปี​ 2568

ทั้งนี้ งบประมาณที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว​ นอกเหนือ​จากการเพิ่มงบประมาณค่ารักษาต่อหัวของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ​แล้ว​ นายสมศักดิ์​ เท​พสุ​ทิน​ รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​สาธารณสุข​ ยังจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมไปในหมวดดังต่อไปนี้ด้วย

1.ค่าบริการสุขภาพ ผู้ป่วยไตวายวายเรื้อรัง​ เพิ่มขึ้น​ 698 ล้านบาท​ เป็นวงเงินทั้งสิ้น​ 13,506 ล้านบาท

2.ค่าบริการสุขภาพผู้ติดเชื้อ HIV และผู้ป่วยเอดส์​ เพิ่มขึ้น 192 ล้านบาท เป็นวงเงินทั้งสิ้น 4,209 ล้านบาท

3.ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิ เพิ่มขึ้น 117 ล้านบาท เป็นวงเงินทั้งสิ้น 2,180 ล้านบาท

4.ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรังเช่น​ โรคเบาหวาน​ ความดันโลหิตสูง และผู้ป่วยโรคหืด เพิ่มขึ้น 101 ล้านบาท เป็นวงเงินทั้งสิ้น 1,298 ล้านบาท

5.ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาท เป็นวงเงินทั้งสิ้น 2,900 ล้านบาท

6.ค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพิ่มขึ้น 1,067 ล้านบาท เป็นวงเงินทั้งสิ้น 19,596 ล้านบาท ครอบคลุม 66.37 ล้านคน