ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ตลาดฟันปลอมโตไม่หยุด "เอ็กซ่าซีแลม" ผนึกทุนญี่ปุ่นรุกตลาดเอเชีย/ยุโรป ลงทุนเพิ่มอีก 3 โรงงาน "พิษณุโลก-เชียงราย- กรุงเทพฯ" ชี้ปี'56 ตลาดโต 20% คาดยอดขายพุ่ง 300 ล้านบาท

นายอนุชา มีเกียรติชัยกุล กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท เอ็กซ่า ซีแลม จำกัด ผู้ผลิตฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางทันตกรรมรายใหญ่ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทเอ็กซ่า ซีแลม มีศูนย์กลางการผลิตใหญ่อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ล่าสุดได้ร่วมทุนกับกลุ่มทุนญี่ปุ่น เพื่อขยายตลาดให้ครอบคลุมทั้งในเอเชียและยุโรป

สำหรับตลาดในกลุ่มเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นความต้องการฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในทางทันตกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นตลาดที่ใหญ่มาก

ขณะเดียวกัน ตลาดฮ่องกงก็เป็นตลาดใหม่ที่มีออร์เดอร์สินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังได้ให้ความสนใจตลาดอาเซียนเป็นพิเศษ โดยเฉพาะ สปป.ลาว พม่า มาเลเซีย และสิงคโปร์  ซึ่งได้เตรียมแผนเปิดตลาดอย่างจริงจังตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป

ล่าสุด ได้ขยายฐานการผลิตไปยังจังหวัดเชียงราย ด้วยงบฯลงทุน 4 ล้านบาท เพื่อรองรับตลาดในพื้นที่เชียงรายและประเทศใกล้เคียงในลุ่มแม่น้ำโขงที่เดินทางมาใช้บริการทันตกรรมในจังหวัดเชียงราย ส่วนจังหวัดพิษณุโลกได้ลงทุนราว 10 ล้านบาท เป็นโรงงานขนาดใหญ่ ขณะที่ฐานการผลิตในกรุงเทพฯ เป็นการเทกโอเวอร์โรงงานเดิมด้านทันตกรรม ซึ่งทำให้ขณะนี้บริษัทมีโรงงานรวม 4 แห่ง สามารถรองรับตลาดในและต่างประเทศที่กำลังขยายตัว ซึ่งกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศจะมีอยู่ 2 ส่วนคือ คลินิกทันตกรรม และบริษัทแล็บทันตกรรมย่อย

นายอนุชากล่าวว่า สัดส่วนตลาดในประเทศและต่างประเทศ 50 : 50 โดยเฉพาะตลาดเชียงใหม่จังหวัดเดียวพบว่าคลินิกทันตกรรมของรัฐและเอกชนราว 90% เป็นฐานลูกค้าหลัก ส่วนตลาดหลักในต่างประเทศจะอยู่ในกลุ่มยุโรป อาทิ เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม นอร์เวย์ เดนมาร์ก สวีเดน และฝรั่งเศส

ทั้งนี้ บริษัทมีการผลิตฟันปลอมและผลิตภัณฑ์ทางทันตกรรมแบบครบวงจร ได้แก่ ฟันปลอมติดแน่นสัดส่วน 50% ฟันปลอมถอดได้ 40% และงานจัดฟันและเครื่องมือจัดฟันประเภทต่าง ๆ 10% โดยเป็นการผลิตตามออร์เดอร์แบบ Tailor-Made ที่ผลิตเป็นรายชิ้นของแต่ละบุคคล ปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 500-700 เคสต่อวัน

สำหรับคู่แข่งในเอเชียคือ จีน ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม มีข้อได้เปรียบในเรื่องราคาที่ต่ำกว่า แต่กระบวนการผลิต (ช่างฝีมือ) และคุณภาพของสินค้ายังด้อยกว่าไทยมาก ปัจจุบันบริษัทถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดในอาเซียน และมีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งภาพรวมของตลาดปี 2556 เติบโตในระดับที่ดีมากถึง 20% และคาดว่ายอดขายในปีนี้จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท

ที่มา: นสพ.ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 1 - 4 ส.ค. 2556

เรื่องที่เกี่ยวข้อง