ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

ผลสำรวจเยาวชนไทย 92% พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในชีวิต เผยพฤติกรรมวัยรุ่นที่สวนทาง ถูกปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า กระแสบริโภคนิยม แนะบรรจุหลักสูตรปรัชญาพอเพียงในการเรียนการสอนทุกระดับ

วันนี้ (16 ธ.ค.59) ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ มูลนิธิเยาวชนพอเพียงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง จัดเสวนา“เยาวชนไทยในวิถีพอเพียง” โดยนายธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง เปิดเผยผลสำรวจความเข้าใจของเยาวชนไทยต่อปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จากนักเรียน นักศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษา อาชีวะศึกษาและอุดมศึกษากว่า20 สถาบัน อายุ15-26ปี จำนวน1,908 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่14-30 พ.ย.59 โดยกลุ่มตัวอย่าง 76.57% ระบุว่าในสถาบันมีการสอนหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อถามถึงความเข้าใจในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พบว่าเข้าใจดี 39.41 % เข้าใจบ้าง 50.79 %  ยังไม่เข้าใจ 9.80 % น่าดีใจที่กลุ่มตัวอย่างเกือบทั้งหมด หรือ 92.66% ระบุจะนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ใช้จ่ายแต่พอประมาณ ไม่ฟุ่มเฟือย ประหยัด อดออม ตั้งใจเรียน ไม่ประมาทในการใช้ชีวิต หมั่นช่วยเหลือผู้อื่น และทำตามคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9

“สำหรับ 6 พฤติกรรมสำคัญของวัยรุ่น ทีมองว่าสวนทางกับการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คือ 28.45%การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 21.84% กินของแพง หรูหราเกินจำเป็น 10.15% ดื่มเหล้าเมายา เที่ยวเตร่ เสเพล 8.73%เห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเหลือใคร 7.38%ติดเกม ติดสื่อออนไลน์  และ 6.42% ติดพนัน นอกจากนี้ 78.14% เห็นด้วยอย่างยิ่งหากจะมีการบรรจุปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน และกิจกรรมของนักเรียน นักศึกษาในทุกระดับขณะเดียวกัน มีเพียง 46.33% ที่รู้ว่ารัฐบาลปัจจุบันได้นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กำหนดเป็นแผนหรือนโยบายของประเทศด้วยแล้ว” นายธีรภัทร์  กล่าว

นางสาวณิชากร สายหยุด นักศึกษาชั้นปีที่4 มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นคนที่รักในงานจิตอาสา และเริ่มหันมาทำงานเพื่อสังคมตั้งแต่ยังเรียนปี 1 ได้ถ่ายทอดความรู้ตามแนวพระราชดำริของพ่อหลวง จัดทำโครงการรามรักป่า ชวนเยาวชนมาออกค่าย สร้างฝายปลูกป่า สร้างอาคารเรียนให้น้อง รวมถึงการช่วยสร้างอาชีพปลูกผักให้กับชาวบ้านได้อย่างยั่งยืน ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาได้เรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวง มาทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ สร้างความรักสามัคคี และถือเป็นความภูมิใจอย่างที่สุดที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเยาวชนดีเด่นอาสาสืบสานพระราชดำริ จากสำนักงาน กปร.อย่างไรก็ตามเชื่อว่าเยาวชนทุกคนต้องการเป็นคนดี อยากทำความดี แต่ไม่มีพื้นที่สร้างสรรค์ ขาดการสนับสนุนจากผู้ใหญ่อย่างเข้าใจ ดังนั้นหากมีพื้นที่ให้เขาทำและเรียนรู้จริงจัง การหันไปหาปัจจัยเสี่ยง อบายมุขจะลดลงแน่นอน

ด้าน รศ.คิม ไชยแสนสุข ที่ปรึกษามูลนิธิเยาวชนพอเพียงเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า น่าเป็นห่วงที่ขณะนี้เยาวชนต้องตกอยู่ในกระแสโลกาภิวัฒน์ มีความเสี่ยงหลายอย่าง หากเขาได้เรียนรู้ชีวิตในทางที่ถูกต้องจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน สู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความรู้ มีคุณธรรม มีเมตตาในอนาคตข้างหน้าได้ เนื่องจากคนเก่งและดีเป็นสิ่งที่บ้านเมืองต้องการ ดังนั้นการน้อมนำหลักพอเพียงของพระองค์ท่านมาปรับใช้ จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน รู้จักเตรียมความพร้อม รับมือกับปัญหาข้างหน้า และการสะสมความดีนี้ในอนาคตสังคมจะน่าอยู่ขึ้น ที่สำคัญภาครัฐต้องทำตัวเป็นต้นแบบ ทำตัวให้เป็นเยี่ยงอย่าง และให้การสนับสนุนเด็กและเยาวชนตามแนวทางย่างจริงจังและต่อเนื่อง