ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

‘หมอวินัย’ แนะการแก้กฎหมายบัตรทองต้องยึดเจตนารมณ์ “หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” และประโยชน์ประชาชนเป็นหลัก ระบุการแก้ไขครั้งนี้ควรทำในประเด็นที่ คตร.ทักท้วง จนต้องออกคำสั่ง ม.44 ให้ทำได้

นพ.วินัย สวัสดิวร

นพ.วินัย สวัสดิวร อดีตเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า การแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ สิ่งสำคัญคือต้องยึดหลักตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง จึงไม่ควรมีการปรับแก้ไขที่เป็นการเปลี่ยนแปลงหลักการของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ควรดำเนินการเฉพาะประเด็นที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ทักท้วง และภายหลังต่อมาได้มีการแก้ไขชั่วคราวตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 37/2559 ซึ่งเป็นคำสั่งที่ระบุชัดเจนว่า การบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของหน่วยบริการและเครือข่ายหน่วยบริการตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 มีบางประเด็นที่ไม่ชัดเจนและทำให้เป็นอุปสรรคต่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการและส่งผลต่อประสิทธิภาพการให้บริการของหน่วยบริการ ซึ่งส่งผลกระทบถึงการให้บริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนโดยรวม

“ในท้ายคำสั่ง คสช.นี้ระบุชัดเจนว่า ให้ใช้บังคับจนถึงวันที่ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มี รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ เป็นประธาน ซึ่งมีกรอบระยะเวลาประมาณ 6 เดือน หากแก้ในสิ่งที่นอกเหนือจากนี้ กฎหมายที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของประชาชน ต้องเปิดให้มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางและใช้ระยะเวลามากกว่านี้” อดีตเลขาธิการ สปสช. กล่าว