ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สปสช. ชู “อบต.บางพระ” ไม่ทอดทิ้งคนพิการ ดำเนิน “โครงการห่วงใยใส่ใจสุขภาพคนพิการ” งบกองทุนสุขภาพตำบล รุกคัดกรองสุขภาพพร้อมเยี่ยมคนพิการถึงบ้าน หนุนงานบริการฟื้นฟูสมรรภาพฯ กองทุนบัตรทอง

น.ส.วิไลวลัย์ นิลคุปต์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าพระ (อบต.บางพระ) อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันพื้นที่ อบต.บางพระ มีคนพิการจำนวน 284 คน มีทั้งคนพิการทางการมองเห็น พิการทางการได้ยินสื่อความหมาย พิการทางการเคลื่อนไหว/ทางกาย พิการทางสติปัญญา และพิการจิตใจ/พฤติกรรม ในจำนวนนี้ส่วนหนึ่งดูแลตนเองไม่ได้และต้องมีผู้ดูแล ขาดความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์คนพิการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จึงเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพ อบต.บางพระ จึงได้ดำเนิน “โครงการห่วงใยใส่ใจสุขภาพคนพิการ” ภายใต้การสนับสนุนงบบริการฟื้นฟูสรรถภาพด้านการแพทย์ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่ง สปสช.ได้ดำเนินงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อช่วยให้คนพิการเข้าถึงบริการสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยดำเนินการ 2 กิจกรรมหลัก คือ

1. การตรวจคัดกรองสุขภาพคนพิการ อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป อาทิ การเอ็กซเรย์ปอดดิจิตอล ตรวจเม็ดเลือดแดงแบบสมบูรณ์ ตรวจน้ำตาลและระดับไขมันในเลือด ตรวจยูริคเก๊าท์ ตรวจการทำงานของตับ และการตรวจการทำงานของไต เป็นต้น โดยเจ้าหน้าที่ รพ.แหลมฉบังง พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพคนพิการ ซึ่งมีคนพิการ 50 คน และผู้ดูแลคนพิการจำนวน 30 คนเข้าร่วม การคัดกรองสุขภาพนี้จะทำให้ทราบความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ที่นำไปสู่การปรับพฤติกรรม รวมถึงการดูแลสุขภาพเพิ่มขึ้น

2. การเยี่ยมบ้าน ตรวจคัดกรองสุขภาพ และการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ การต่อบัตรประจำตัวคนพิการเมื่อบัตรหมดอายุ สำรวจปัญหาและความต้องการของคนพิการและผู้ดูแล ให้กับคนพิการที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว ที่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมที่ อบต.ได้ โดยดำเนินการ่วมกับ รพ.สต.ในพื้นที่ ต.บางพระ 3 แห่ง ซึ่งจะดำเนินการระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกันยายน 2560

“โครงการห่วงใยใส่ใจสุขภาพคนพิการ เกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ ที่มองเห็นปัญหาของคนพิการ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว ทำให้ขาดโอกาสการใช้สิทธิต่างๆ โดยเฉพาะสิทธิด้านสุขภาพ ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งโครงการนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยอุดช่องว่างให้กับคนพิการในพื้นที่ได้” รองนายก อบต.บางพระ กล่าว

ด้าน นพ.ชูชัย ศรชำนิ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับคนพิการ จึงได้จัดสรรงบประมาณเฉพาะสำหรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์และอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการตั้งแต่ปี 2546 พร้อมได้ขยายขอบข่ายงานบริการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ ให้ครอบกลุ่มประชากรที่จำเป็นต้องได้รับ ทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง และผู้ป่วยหลังการเจ็บป่วยเฉียบพลัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลให้ประชาชนเข้าถึงบริการที่จำเป็นด้านสุขภาพอย่างครอบคลุมและทั่งถึง โดยปี 2560 นี้ ได้จัดสรรงบประมาณ 787 ล้านบาท หรือเฉลี่ย 16.13 บาทต่อประชากรเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีคนพิการด้านต่างๆ อาทิ ด้านการเคลื่อนไหว การได้ยินหรือสื่อ สติปัญญา การมองเห็น เป็นต้น

ทั้งนี้แม้ว่า สปสช.จะมีการจัดสรรงบประมาณเฉพาะสำหรับบริการฟื้นฟูสมรรถภาพฯ แล้ว แต่ที่ผ่านมายังมีคนพิการที่มีปัญหาการเข้าถึงบริการ อาทิ การเดินทางที่เป็นอุปสรรค เป็นต้น รวมถึงความเข้าใจเกี่ยวกับการรับสิทธิประโยชน์คนพิการ และเพื่อเป็นการดูแลคนพิการในพื้นที่ให้เข้าถึงบริการที่จำเป็นซึ่งเป็นสิทธิประโยชน์ภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อบต.บางพระ โดยกองสวัสดิการสังคมจึงได้ดำเนิน “โครงการห่วงใยใส่ใจสุขภาพคนพิการ” ใช้งบประมาณจาก “กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับพื้นที่หรือท้องถิ่น” (กองทุนสุขภาพตำบล) ซึ่ง อบต.บางพระ ได้ร่วมสมทบงบประมาณส่วนหนึ่ง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้พิการกลุ่มนี้ นับเป็นความร่วมมือระหว่าง สปสช.และ อปท.เพื่อดูแลประชาชน

“การดำเนินโครงการห่วงใยใส่ใจสุขภาพคนพิการ นอกจากสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความใส่ใจในการดูแลผู้พิการของ อบต.บางพระ แล้ว ยังเป็นตัวอย่างหนึ่งของการบริหารกองทุนสุขภาพตำบลที่ดี เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพให้กับชาวบ้านในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการที่มีปัญหการเข้าถึงบริการสุขภาพ” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

เรื่องที่เกี่ยวข้อง