ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเดินหน้าขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ คาดสามารถจัดทำฐานข้อมูลพระสงฆ์ ๔๐,๐๐๐ รูป ภายในปี ๒๕๖๑ หนุนการเข้าถึงสิทธิรักษาพยาบาลตามระบบประกันสุขภาพ พร้อมสานเครือข่ายพระคิลานุปัฏฐาก ขยายวัดส่งเสริมสุขภาพทั่วประเทศ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากมีการประกาศใช้ “ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐” เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้เกิดความตื่นตัวของทุกฝ่ายในการสร้างสุขภาวะที่ดีแก่พระสงฆ์ทั่วประเทศ โดยล่าสุด มหาเถรสมาคมมีมติรับทราบการแต่งตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐” แล้ว เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๖๑ เพื่อเป็นกลไกบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งทุกฝ่ายโดยเฉพาะคณะสงฆ์ได้เริ่มเดินหน้างานขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพฯ แล้ว หากกลไกจัดตั้งเรียบร้อยก็จะเป็นพลังหนุนเสริมการสร้างเครือข่ายสุขภาวะพระสงฆ์ไปทั่วประเทศได้เร็วและเป็นระบบขึ้น

“เรื่องนี้นับเป็นผลงานสำคัญของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติที่สนับสนุนให้เกิดสุขภาวะสงฆ์ทั่วประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนธรรมนูญพระสงฆ์ครั้งใหญ่ ที่จะมีทุกฝ่ายทั้งพระและฆราวาสเข้ามาร่วมมือในวันนี้ และได้วางโครงสร้างกลไกการทำงานอย่างเป็นระบบรองรับ เหลือเพียงการเดินหน้าขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยควรกำหนดแผนงานและผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะเรื่องสุขภาพพระสงฆ์เป็นงานที่เกิดจากการผลักดันของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติโดยตรง”

ขณะนี้การขับเคลื่อนงานที่เริ่มดำเนินการแล้ว คือการจัดทำ “ฐานข้อมูลพระสงฆ์” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และกำลังขยายการทำงานร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำรวจและขึ้นทะเบียนพระสงฆ์และวัดให้ครอบคลุมทั้งประเทศ โดยจะนำไปเชื่อมโยงกับเลขประจำตัว ๑๓ หลักตามระบบทะเบียนราษฎร์ ซึ่งจะช่วยให้พระสงฆ์สามารถเข้าถึงสิทธิการดูแลและรักษาสุขภาพตามระบบประกันสุขภาพ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ ของพระด้วย คาดว่าภายในสิ้นปี ๒๕๖๑ จะมีพระสงฆ์ได้รับการขึ้นทะเบียนทั้งหมด ๔๐,๐๐๐ รูป และจะขึ้นทะเบียนพระทั่วประเทศ ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ รูป ให้แล้วเสร็จภายในปี ๒๕๖๓

“ทุกหน่วยงานกำลังหลอมรวมการทำงานเพื่อฟื้นฟูสุขภาวะพระสงฆ์ให้ห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ โดยอาศัยธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๐ เป็นแนวทางสำคัญให้สถาบันสงฆ์กลับมาเข้มแข็ง เป็นเสาหลักทางด้านจิตใจ อีกทั้งเป็นผู้สื่อสาร พัฒนา และเป็นต้นแบบด้านสุขภาพแก่ประชาชนและสังคมได้อีกด้วย”

ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑ มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วย พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และกรรมการจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุม ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยได้มีการรายงานความก้าวหน้าของการพัฒนาสุขภาวะพระสงฆ์ในด้านอื่นๆ ด้วย อาทิ กรมการแพทย์ ได้จัดทำโครงการคัดกรองสุขภาพพระสงฆ์และสามเณรนำร่องในโรงเรียนพระปริยัติธรรมใน กทม. กรมอนามัยจัดทำโครงการพัฒนาพระคิลานุปัฏฐากและโครงการวัดส่งเสริมสุขภาพทั่วประเทศ โดยจะดำเนินงานให้ครบ ๓๖,๐๐๐ วัด เพื่อให้วัดมีความเข้มแข็งสามารถเป็นศูนย์เผยแพร่การส่งเสริมสุขภาพให้กับประชาชนในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนกองการนิสิต มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) ดำเนินโครงการขับเคลื่อนธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาตินำร่องใน ๒๐ จังหวัดทั่วประเทศ

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า “ขณะนี้พระสงฆ์ในหลายพื้นที่ก็ได้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายเพื่อพัฒนากลไกสร้างสุขภาวะ อาทิ เครือข่ายพระสงฆ์จังหวัดนครราชสีมา มีหลักสูตรสร้างพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด (อสว.) แล้วมากกว่า ๒,๐๐๐ รูป ซึ่งพร้อมจะเป็นหนึ่งในทีมทำงานร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ด้านมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ผลิตสื่อเพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ญาติโยม ชุดสงฆ์ไทยไกลโรค เป็นต้น”

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชน เขตพื้นที่ภาคใต้ได้แก่เขต ๑๑ และ ๑๒ ซึ่งเขต ๑๑ ได้รายงานความคืบหน้าการบูรณาการหน่วยงานและภาคส่วนต่างๆเพื่อแก้ปัญหาประเด็นสุขภาวะผู้สูงอายุ โดยใช้ “ยุทธศาสตร์พฤฒพลัง พลังผู้สูงอายุในการขับเคลื่อนสังคมสุขภาวะ” เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถเป็นเสาหลักของสังคม อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีและมีคุณภาพชีวิตดี ส่วนเขต ๑๒ กำลังขับเคลื่อนแก้ปัญหาประเด็นการไม่สามารถเข้าถึงสิทธิสุขภาพของกลุ่มชาติพันธุ์มานิ อูรักลาโว๊ย

นอกจากนี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติยังมีมติอนุมัติในหลักการของ ร่าง ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์ชุมชนเข้มแข็ง พ.ศ.... เพื่อเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนพัฒนาชุมชนเข้มแข็ง ตามแผนการปฏิรูปประเทศด้านสังคม โดยมีข้อเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชุมชนเข้มแข็งระดับชาติ ระดับจังหวัดและกรุงเทพมหานครเป็นกลไกสำคัญ รวมถึงที่ประชุมได้รับทราบกำหนดการจัดสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ ๑๑ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒-๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๑ ณ ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ โดยจะจัดไปพร้อมมหกรรมสร้างสุข เพื่อเผยแพร่การทำงานของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และคณะกรรมการเขตสุขภาพเพื่อประชาชนทั้ง ๑๓ เขตทั่วประเทศ รวมถึงหน่วยงานเครือข่ายให้เป็นที่รับรู้ของสังคมด้วย