ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สหพันธ์แบคออฟฟิศ เรียกร้องผู้บริหาร สธ. ก.พ. และรัฐบาล ดูแล “บุคลากรสายสนับสนุน ภายใต้ สธ.” เท่าเทียมวิชาชีพอื่นในระบบ เผยไม่ได้รับความสำคัญ ทำเหลื่อมล้ำสุด จำกัดความก้าวหน้า ค่าตอบแทนต่ำ พร้อมยื่น 9 ข้อเสนอเพื่อปรับปรุง

นายชาติชาย เดชรัตน์ ประธานสหพันธ์แบคออฟฟิศกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สหพันธ์แบคออฟฟิศเป็นองค์กรที่เกิดจากการรวมตัวของผู้ปฏิบัติงานสายสนับสนุนบริการในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่มงานบริหาร นักจัดการงานทั่วไป และน้องๆ สายบริหารทั่วไป และสนับสนุนอื่นๆ ซึ่งเป็นนับวิชาชีพหนึ่งที่อยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข สายแบคออฟฟิศประกอบด้วยข้าราชการตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไป เจ้าพนักงานในกลุ่มงาน ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน รายวัน พกส. แต่ที่ผ่านมากลับไม่ได้ถูกให้ความสำคัญ ทั้งในด้านความก้าวหน้าและค่าตอบแทน ถูกมองเป็นเพียงสายงานสนับสนุนที่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติ ทำให้ขาดขวัญและกำลังใจ ซึ่งการทำงานของวิชาชีพต่างๆ เพื่อดูแลผู้ป่วย รวมถึงการให้บริการของโรงพยาบาลจำเป็นต้องมีส่วนสนับสนุน ดังนั้นที่ผ่านมาจึงได้มีการรวมตัวเพื่อร้องขอความเป็นธรรม ทั้งต่อรัฐบาล สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำข้อเรียกร้อง 9 ข้อ เพื่อขอความเป็นธรรม คือ

1. ขอความก้าวหน้าตำแหน่ง “หัวหน้ากลุ่มงานบริหารทั่วไปโรงพยาบาล” ที่เรียกว่า “พ่อบ้าน” ในการเลื่อน “ระดับชำนาญการพิเศษ” ซึ่งติดเงื่อนไขตามหนังสือเวียนของ ก.พ. ตาม ว2/2558

2. หัวหน้าบริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เปิดให้เลื่อนถึงตำแหน่ง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดด้านบริหารได้

3. รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร เปิดเลื่อนตำแหน่งถึงระดับเชี่ยวชาญ

4. ลูกจ้างชั่วคราวรายวัน รายเดือน ต้องมีอัตราจ้างที่เป็นธรรม ไม่ต่ำกว่าค่าแรงขั้นนต่ำและให้ได้รับบรรจุเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.)

5. พกส. ได้รับบรรจุเป็นพนักงานราชการ

6.เพิ่มขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่สายสนับสนุนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัย 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเป็นธรรมและทัดเทียมกับวิชาชีพอื่น

7.ขอให้บุคลากรสายแบคออฟฟิศใช้หลักเกณฑ์เบิกค่าตอบแทน ฉบับที่ 11 เช่นเดียวกับวิชาชีพอื่น โดย สธ.มีคำสั่งชัดเจน เพราะขณะนี้มีหลายจังหวัดที่เบิกไม่ได้

8.บรรจุตำแหน่งข้าราชการให้กับบุคลากรสายแบคออฟฟิศทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งขณะนี้ สธ.ได้ดึงตำแหน่งของผู้ที่เกษียณกลับไปบริหารที่ส่วนกลาง ทำให้บุคลากรในสายแบคออฟฟิศไม่ได้รับการบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม

และ 9.การเบิกจ่ายค่าตอบแทนนอกเวลาราชการ (OT) ให้ใช้ระเบียบเบิกจ่ายของ สธ.เช่นเดียวกับวิชาชีพอื่น ซึ่งปัจจุบันถูกกำหนดให้ใช้ระเบียบกระทรวงการคลัง ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกัน ทั้งที่ทำงานในโรงพยาบาลเดียวกัน

นายชาติชาย กล่าวว่า บุคลากรสายแบคออฟฟิศเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อระบบสุขภาพเช่นเดียวกัน ที่ช่วยสนับสนุนการบริการประชาชนไม่ให้สะดุด ซึ่งมีกำลังกระจายทำงานอยู่ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เฉพาะในส่วนที่เป็นข้าราชการมีประมาณ 20,000 คน หากรวมผู้ที่อยู่ในตำแหน่งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างรายเดือน และ พกส. น่าจะมีประมาณราวหนึ่งแสนคน ซึ่งคนเหล่านี้ก็ควรได้รับความเป็นธรรมในการทำงาน ทั้งความก้าวหน้าและค่าตอบแทนเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่นๆ ไม่ควรปล่อยให้เกิดความไม่เป็นธรรมและเหลื่อมล้ำมากเกินไป ซึ่งที่ผ่านมาทางสหพันธ์แบคออฟฟิศได้เคยทำหนังสือยื่นต่อปลัดกระทรวงสาธารณสุขมาแล้ว และหลังจากนี้จะหารือกับภาคีเครือข่ายเพื่อร่วมเดินหน้าผลักดันข้อเรียกร้องต่อไป

“ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ก.พ. และรัฐบาลเห็นใจพวกเราด้วย ที่ผ่านมาเราเป็นสายวิชาชีพที่เป็นเด็กดีมาตลอด มีหน้าที่ในการปฏิบัติงานตามที่ได้รับคำสั่ง เราเป็นฝ่ายสนับสนุน สั่งอะไรก็ต้องทำตาม ห้ามดื้อ และไม่มีการเคลื่อนไหว ขณะที่ขวัญกำลังใจก็ไม่ได้รับ ตำแหน่งเกษียณไปก็ไม่ได้กลับคืน จึงขอให้เราได้รับความเป็นธรรมเช่นเดียวกับวิชาชีพอื่นในระบบ” ประธานสหพันธ์แบคออฟฟิศ กล่าว