ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

สหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าเรียกร้องขอ สธ. ดูแลความก้าวหน้าของบุคลากรสายสนับสนุนและการบรรจุข้าราชการ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ และความก้าวหน้าในอาชีพ รุดยื่นหนังสือ “นายกรัฐมนตรี” พิจารณาจัดสรรการบรรจุเป็นข้าราชการ จากตำแหน่งที่เหลือบรรจุสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 หรือบรรจุเป็นข้าราชการในรอบต่อไป พร้อมให้ยกเลิกบัญชีจำแนกตำแหน่ง ในสายงานของส่วนราชการที่จะยุบเลิก

นายชาติชาย เดชรัตน์ ประธานสหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ตามที่ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการบรรจุข้าราชการเพิ่มเติม จากที่เป็นพนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข ในส่วนที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ดูแลสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จำนวน 45,684 คน นั้น ยังมีบุคลากรสายสนับสนุนบริการอีกจำนวน 28 สายงาน รวมไปถึงกลุ่มลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข และลูกจ้างกระทรวงสาธารณสุข ที่ปฏิบัติงานของสายงานสนับสนุนบริการ จำนวน 100,000 กว่าคน ไม่ได้รับการเหลียวแลและบรรจุเป็นข้าราชการในครั้งนี้เลย

ดังนั้น จึงขอให้ดูแลสร้างขวัญและกำลังใจให้ทั่วถึงและเป็นธรรม เนื่องจากปฏิบัติงานในหน้าที่ดูแลสถานการณ์ โรคระบาดโควิด-19 เช่นเดียวกัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้ไปยื่นหนังสือ ถึง พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล โดยขอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณาสั่งการให้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข พิจารณาจัดสรรการบรรจุเป็นข้าราชการของสายงานสนับสนุนด้วย จากตำแหน่งที่เหลือจากการบรรจุข้าราชการในครั้งนี้ หรือการบรรจุเป็นข้าราชการในรอบต่อไป และให้ยกเลิกบัญชีจำแนกตำแหน่งในสายงานของส่วนราชการที่จะยุบเลิก ดังนี้

1. พิจารณาการบรรจุลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) และลูกจ้างในสายงานสนับสนุนบริการ “ที่มีวุฒิ" บรรจุเป็นข้าราชการ

2. พิจารณาการบรรจุ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราว สายงานสนับสนุนบริการ ในตำแหน่ง “ที่ไม่มีวุฒิ” ให้บรรจุเป็นลูกจ้างประจำ

3. พิจารณาเรื่องความก้าวหน้าของข้าราชการ ตำแหน่ง “นักจัดการงานทั่วไปโรงพยาบาลชุมชน” ให้มีความก้าวหน้าได้ถึงระดับชำนาญการพิเศษเหมือนกับข้าราชการกรมอื่นๆ ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ทุกระดับของโรงพยาบาลชุมชน

4. พิจารณาเรื่องความก้าวหน้าของ “ข้าราชการสายสนับสนุนในประเภททั่วไป” ให้มีความก้าวหน้าในระดับอาวุโส

5. พิจารณาเรื่องความก้าวหน้าของข้าราชการ “ตำแหน่งนักจัดการงานทั่วไปโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป” ให้มีความก้าวหน้าได้ถึงระดับเชี่ยวชาญเหมือนกับข้าราชการกลุ่มอื่นที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล

6. ให้สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งกองสายงานสนับสนุนบริการขึ้นมาใหม่อีก 1 กอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ดูแลข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราวสายสนับสนุน ที่ไม่ได้รับการดูแลทั้งความก้าวหน้าในตำแหน่ง การบรรจุเป็นข้าราชการ หรือบรรจุเป็นลูกจ้างประจำตามข้อเสนอข้อ 1-6 แยกออกจากสายวิชาชีพเป็นการเฉพาะ

“ที่ผ่านมา มีการรวมตัวเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ 29 ม.ค. 2559 และเคลื่อนไหวติดตามตลอด ต่อมาวันที่ 22 เม.ย. 2562 ก็ได้ไปยื่นข้อเรียกร้องที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับเครือข่ายสาธารณสุข 31 องค์กร รวมถึงทำหนังสือขอเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และเมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2563 ตามที่ ครม. มีมติบรรจุข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องโรคระบาดโควิด-19 แต่ก็ไม่ได้รับการตอบกลับมา ล่าสุดวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา จึงไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ทำเนียบรัฐบาล” ประธานสหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข กล่าว

ทั้งนี้ สหพันธ์แบคออฟฟิศ กระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย ข้าราชการสายสนับสนุนหลายตำแหน่ง เช่น หัวหน้ากลุ่มงานบริหารทั่วไปโรงพยาบาลชุมชน รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ และข้าราชการสายทั่วไป เช่น เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี เจ้าพนักงานพัสดุ เจ้าพนักงานธุรการ ตลอดจนลูกจ้างทุกประเภท ได้แก่ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานกระทรวงสาธารณสุข ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน ลูกจ้างชั่วคราวรายวัน ซึ่งรวมแล้วมีประมาณ 100,000 กว่าคนทั่วประเทศ ปฏิบัติงานอยู่ทั้งโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และสังกัดกรมอื่นๆ ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุข