ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

"ชมรม ผอ.รพช." เชิญชวนโรงพยาบาลชุมชนทั่วประเทศขึ้นป้ายต่อต้านสารเคมีเกษตร ระบุกว่า 700 แห่งเห็นพ้องแก้ไขปัญหา พบการเจ็บป่วยสูงทั้งจากสัมผัส-ใช้ทำร้ายตัวเอง

พญ.สมพิศ จำปาเงิน ประธานชมรมผู้อำนวยการโรงพยาบาลชุมชนแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงกรณีที่ชมรมฯ ได้มีการออกแถลงการณ์เรื่อง ขอให้รัฐบาลมั่นใจในการยกเลิกสารพิษทางการเกษตร พร้อมเชิญชวนให้โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) ทั่วประเทศร่วมกันขึ้นป้ายรณรงค์พิษภัยสารเคมีทางการเกษตรนั้น เป็นผลมาจากมติร่วมกันของคณะกรรมการชมรมฯ สมาชิก รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ เนื่องจาก รพช. ซึ่งอยู่ในพื้นที่ปลายน้ำของปัญหา ต้องพบเจอกับคนไข้ที่ล้นทะลักโรงพยาบาล อันมีสาเหตุเนื่องมาจากสารเคมีทางการเกษตร ตั้งแต่อาการเจ็บป่วยจากสัมผัส หรือการใช้เป็นเครื่องมือในการทำร้ายตนเอง ขณะเดียวกันสารเคมีเหล่านี้ยังมีส่วนทำลายระบบนิเวศ จากการดูดซึมสะสมลงในดิน น้ำ และสะสมในสภาพแวดล้อม เป็นภาพของปัญหาที่ทุกพื้นที่ต่างประสบเหมือนกัน

"เราอยู่ปลายน้ำได้เห็นและสงสารคนไข้ ที่นอกจากจะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ ยังเป็นภาพรวมของสุขภาวะ คือทั้งกาย จิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากการเจาะเลือดชาวบ้านยังพบว่ามีสารเคมีในเลือดสูงกว่าเกษตรกรเสียอีก นำมาสู่การพบค่ามะเร็งค่าไตวายสูง เหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลที่เกิดขึ้น ดังนั้นจากเดิมที่มีบทบาทแค่รักษา พอมันเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราก็ต้องหันมาขับเคลื่อนเชิงป้องกันให้มากขึ้น" พญ.สมพิศ ระบุ

พญ.สมพิศ กล่าวว่า แม้ปัญหาจะมีให้เห็นมานานแต่ที่ผ่านมาอาจยังไม่มีรวมตัวกันขนาดนี้ ซึ่งจากกระแสแรงกดดันจากภาคส่วนต่างๆ ทำให้ขณะนี้ รพช. ที่มีกว่า 700 แห่งทั่วประเทศ ต่างเห็นร่วมในการช่วยกันขึ้นป้ายเพื่อเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้มีการขึ้นป้ายไปแล้วหลายแห่ง เช่นเดียวกับกลุ่มของนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดที่จะร่วมกันเคลื่อนไหวด้วย

สำหรับความคาดหวัง พญ.สมพิศ ระบุว่า ต้องการเป็นเสียงสะท้อนจากปลายน้ำถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน ตลอดจนปัญหาในระบบบริการสุขภาพที่ต้องรับมือกับวิกฤติทั้งด้านการเงิน หรือบุคลากร ซึ่งสามารถช่วยได้ด้วยการลดอาการเจ็บป่วยที่ไม่จำเป็น มุ่งเน้นเรื่องการส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะประเด็นหลักเรื่องอาหารปลอดภัยที่จะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

"เราทุกคนต้องกินอาหาร ถ้าเราสามารถลดสารอันตรายที่ปนเปื้อนจากอาหารการกินได้ ปัญหาสุขภาพอื่นก็จะลดลงตามไปด้วย ในฐานะภาควิชาการที่ยืนเคียงข้างประชาชน และต้องการสะท้อนข้อมูลให้คนทั่วไปรับทราบ ตั้งเป้าไว้ว่าจะขึ้นป้ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ แต่ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นได้สุดท้ายต้องอาศัยความเกี่ยวข้องจากหลายภาคส่วน หลายกระทรวง รวมถึงนโยบายรัฐบอล" พญ.สมพิศ ระบุ