ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เครือข่ายป้องกันภัยน้ำเมา อัดหอการค้าชงนโยบายทำร้ายสังคม ชี้ขยายเวลาปิดผับ เลิกคุมเวลาขายเหล้า หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้ไม่คุ้มเสีย เชื่อรัฐบาลไม่เอาด้วย เหตุทุกฝ่ายกำลังช่วยกันลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เวลาที่มาสร้างปัญหาเพิ่ม เตรียมขอเข้าพบนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขานายกฯ เพื่อให้ข้อมูลผลกระทบ

นายชูวิทย์ จันทรส

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2562 นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากกรณีนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กำลังผลักดันนโยบายให้รัฐบาลยกเลิกการควบคุมเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และขยายเวลาปิดผับ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนนั้น เครือข่ายฯ มองว่าเป็นความพยายามของฝ่ายธุรกิจการท่องเที่ยวที่เชื่อแบบนี้มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ขายไอเดียปิดผับตี 4 มาจนถูกวิจารณ์อย่างหนักมาครั้งหนึ่งแล้ว คราวนี้กลับมาอีกด้วยแนวคิดเดิมๆ เพียงแค่เปลี่ยนตัวละครใหม่ๆ ออกมาเล่นในนามสภาหอการค้า แต่เลยเถิดไปไกลถึงขั้นเสนอให้ยกเลิกการควบคุมเวลาขาย ซึ่งถือเป็นข้อเสนอที่ขาดความรอบคอบอย่างยิ่ง ไม่มีฐานข้อมูลทางวิชาการใดๆ มารองรับ อ้างลอยๆ ว่ากระตุ้นการท่องเที่ยว โดยไม่คิดถึงผลกระทบที่มากกว่า ควรเลิกคิดแล้วเอาเวลาไปกระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยวิธอื่น เช่น การท่องเที่ยวเมืองรอง การท่องเที่ยวชุมชน ทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวปลอดภัย หรือทำอย่างไรให้การเติบโตของการท่องเที่ยวอยู่บนฐานความยั่งยืนมากกว่า การกอบโกย แต่ทำลายล้าง

“ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงเห็นแค่มิติเดียว มองข้ามผลกระทบความเสียหายที่จะเกิดขึ้นไปได้อย่างไร แค่ต้องการเอาใจนักท่องเที่ยวสายเมา ตกลงเราต้องการคุณภาพนักท่องเที่ยวแบบนี้หรือ ส่วนตัวยังเชื่อว่ารัฐบาลคงไม่บ้าจี้ตาม เพราะทุกวันนี้แค่ทำงานแก้ไขปัญหาจากน้ำเมารายวันก็แทบแย่ คนไทยตายจากเมาแล้วขับติดอันดับต้นๆของโลกอยู่แล้ว ทุกหน่วยงานเขาร่วมมือกันทุ่มเทสรรพกำลังทุกรูปแบบยังเอาไม่อยู่ แล้วหอการค้ากล้าดีอย่างไรจึงเสนออะไรที่สวนทาง และซ้ำเติมปัญหาแบบนี้” นายชูวิทย์ กล่าว

นายคำรณ ชูเดชา

ด้าน นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา กล่าวว่า ข้อเสนอแบบนี้ถือว่าถอยหลังเข้าคลอง จากการสำรวจในหลายการศึกษา พบว่า นักท่องเที่ยวที่มาเมืองไทย ไม่ได้มาเพื่อหวังเมา แต่มาเพราะสนใจธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรมที่สวยงาม อีกทั้งเวลากลางวันเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวดื่มด่ำกับกิจกรรมกลางแจ้ง ดำน้ำ ลงทะเล เที่ยวภูเขา น้ำตก หรือวัดวาอาราม ดังนั้นมันเป็นวิธีการที่สิ้นคิดหากปลดล๊อคเวลาขายเหล้าเบียร์ ด้วยการมอมเมาคนไทยและนักท่องเที่ยวเพื่อเม็ดเงิน เพราะจะสร้างผลกระทบให้เมาหนักมากยิ่งขึ้น ทำให้มาตรการควบคุมการจำหน่ายและการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อ่อนแอลง สร้างภาระให้กับสังคม มีเพียงธุรกิจสุรา สถานบริการร้านเหล้าผับบาร์เท่านั้น ที่ได้ประโยชน์ กลับกันถ้ามีข่าวคนเมาทำร้ายนักท่องเที่ยว จะทำลายการท่องเที่ยว

“ขอคัดค้านมาตรการที่หอการค้าฯเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ทั้งการขอให้ปลดล๊อคเวลาห้ามจำหน่ายสุรา การขยายเวลาปิดผับบาร์ออกไป ซึ่งเร็วๆ นี้เครือข่ายฯจะขอเข้าพบนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ดูเรื่องนี้เพื่อเสนอข้อมูลผลกระทบที่รอบด้าน เพราะเวลาที่อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปัจจุบัน เหมาะสมต่อสถานการณ์สังคมไทยดีอยู่แล้ว ขอเวลากลางวันที่ปกติสงบสุขให้กับประชาชน เด็กและเยาวชนบ้าง ทำไมต้องยัดเยียดความเสี่ยงให้เพิ่มขึ้นในสังคม” นายคำรณ กล่าว