ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ประสานสิบทิศ ผนึกภาคีสู้ ‘COVID-19’ จัดตั้งคณะทำงานฯ สร้างนวัตกรรมบริการสังคม-ประชาชน จ่อเปิดตัวหน้ากากสะท้อนน้ำ ใช้ซ้ำได้ 30 ครั้ง

ศ.พญ.อรพรรณ โพชนุกูล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และประธานคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคไวรัสโคโรนา 19 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 (COVID-19) แพร่ระบาดจนนำไปสู่ความกังวลของสังคมไทยในภาพกว้างนั้น มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในฐานะมหาวิทยาลัยของประชาชนและมีองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และสาธารณสุข จึงได้จัดตั้งคณะทำงานป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นแกนกลางในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับมือกับสถานการณ์อย่างทันท่วงที

ศ.พญ.อรพรรณ กล่าวว่า คณะทำงานดังกล่าวจะร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภายในและภายนอก อาทิ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ออกมารับใช้สังคม โดยในวันอังคารที่ 10 มีนาคม 2563 นี้ จะมีการเปิดตัวหน้ากากอนามัยต้นแบบ ซึ่งผลิตจากวัสดุผ้าสะท้อนน้ำที่สามารถใช้ซ้ำได้ถึง 30 ครั้ง

“หน้ากากดังกล่าวจะผลิตจากวัตถุดิบในประเทศ และใช้นวัตกรรมผลิตอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งหน้ากากที่มีคุณสมบัติป้องกันการแพร่เชื้อ ไม่ดูดซับความชื้น และสามารถทำความสะอาดหรือซักเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้ถึง 30 ครั้ง โดยจะมีการเปิดตัวหน้ากากต้นแบบในวันที่ 10 มีนาคม 2563 นี้” รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา มธ. กล่าว

ศ.พญ.อรพรรณ กล่าวอีกว่า เบื้องต้นตั้งเป้าหมายการผลิตไว้ที่ 400 ชิ้น จากนั้นจะนำมาทดสอบประสิทธิภาพหากผลลัพธ์เป็นไปตามเป้าหมาย ก็จะผลิตเพิ่มอีก 1,000 ชิ้นทันที เพื่อแจกจ่ายให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนต่อไป

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังร่วมมือกับโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในการผลิตเจลล้างมือที่ไม่มีสารก่อให้เกิดการแพ้ เพื่อแจกจ่ายให้กับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรของมหาวิทยาลัยด้วย ขณะที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการไวรัสโควิค-19 แบบครบวงจร หรือ One stop service COVID-19 ขึ้น ทำหน้าที่ตรวจ ประเมิน รักษา อย่างครอบคลุมตลอดทั้งกระบวนการด้วย

​ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยยังคงดำเนินการตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรค โดยมีการออกประกาศมาตราการและคำแนะนำการป้องกันฯ แก่นักศึกษาและบุคลากร อาทิ การคัดกรองเข้าอาคารด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ รวมถึงการแจกหน้ากากและเจลล้างมือในกรณีนักศึกษาจัดกิจกรรมตามสิทธิเสรีภาพด้วยความเหมาะสมเรียบร้อย ตลอดจนการเตรียมสถานที่เพื่อสังเกตอาการ คัดกรองผู้ป่วย และให้เจ้าหน้าที่ บุคลากร ที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา​