ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

เมื่อวันที่ 23 เม.ย. นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค และกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติงบประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ในการต่อสู้กับปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งรวมถึงการจัดหาวัคซีนด้วย โดยให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติไปหามาตรการว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยมีโอกาสพัฒนาวัคซีนโควิดได้ ซึ่งการตั้งโรงงานก็เป็นส่วนหนึ่ง รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตด้วย ทั้งนี้มี 2 ทางคือ 1. ซื้อเทคโนโลยีต่างประเทศมาต่อยอด 2. พัฒนาขึ้นเองเพราะอนาคตจะยังต้องเจอโรคอื่นๆ อีกมาก เราต้องยืนบนขาตัวเองให้ได้

“แต่ถ้าเลือกเส้นที่ 3 คือเอาเงินไปซื้ออย่างเดียว อย่าคิดว่ามีเงินแล้วซื้อได้ เขาไม่ขาย ประสบการณ์ยุคที่มีไข้หวัดใหญ่ 2009 ระบาด ประเทศหนึ่งผลิตวัคซีนได้ ประชาชนของเขายื่นต่อรัฐบาลของเขาเลยว่าวัคซีนที่ผลิตได้ต้องฉีดให้คนในประเทศจนคนสุดท้ายก่อน ที่เหลือถึงจะเริ่มขายได้ นี่คือข้อจำกัดที่เราต้องคิดว่าเราจะพึ่งพาตัวเองอย่างไร” นพ.ทวี กล่าว

นพ.ทวี กล่าวต่อว่า เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนนั้นมีการคิดมานาน ไม่ใช่เพิ่งคิด แต่ก็ถกเถียงกันมาตลอดว่าจะเอาเงินมาจากที่ไหน ซึ่งพอมีการระบาดโควิด-19 รัฐบาลก็อนุมัติงบฯ 4.5 หมื่นล้านบาทไปจัดการปัญหา บางคนบอกว่า 4.5 หมื่นล้านบาทเยอะมาก แต่ถ้าคิดให้ดี เกี่ยวกับมาตรการที่จะแก้ปัญหาโควิด-19นั้น หากช้าไป 1 เดือนประเทศสูญเสียเป็นแสนล้านบาท ดังนั้นเราต้องรีบจัดการ ดังนั้นอย่าดูที่ตัวเงินว่าต้องจ่ายไปเยอะแยะ แล้วจะสำเร็จหรือไม่ แต่ขอให้เดินหน้าและตั้งเป้าเลยว่าต้องสำเร็จ ถ้าสำเร็จเร็วเรามีวัคซีนใช้ก่อนคนอื่น แทนที่จะต้องรอซื้อจากคนอื่น ซึ่งอาจต้องรอเป็นปีๆ ให้คนในประเทศผู้พัฒนาวัคซีนได้รับจนครบก่อน แล้วคำถามว่าในการรอ 1 ปีนั้น ประเทศไทยต้องสูญเสียไปเท่าไหร่ ไม่คุ้มเลย แถมคนต้องเจ็บป่วยล้มตายอีกมาก

สำหรับแนวคิดว่าประเทศไทยมีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่แล้ว ควรมุ่งที่การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นหลักแล้วจะเพียงพอหรือไม่นั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เหมือนกับโรงงานผลิตรถจักรยาน แล้ววันนี้บอกว่าอยากจะผลิตเครื่องบิน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมันคนละเรื่อง ดังนั้นเรื่องนี้ต้องคิดอย่างรอบคอบ แต่ก็มีการคิดว่าจะต่อยอดใช้โรงงานเดิมที่มีอยู่ได้หรือไม่ ซึ่งเท่าที่มองดูตอนนี้อาจจะต่อยอดไม่ได้

เมื่อถามถึงความหวังการพัฒนาวัคซีนของไทย นพ.ทวี กล่าวว่า ยังอีกไกล แต่ตนอยู่ในวงการวัคซีนมานาน สมัยก่อน ประเทศไทยผลิตวัคซีนได้หลายตัว คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน เป็นต้น แต่ก็มีคนคิดว่าซื้อเขาถูกกว่า ซึ่งตนเก็บอยู่ในใจมาตลอดกับคำนี้เป็นสิ่งที่ทำให้การพัฒนาของไทยหดลง ตอนนี้ไม่ต้องไปเทียบกับจีน เกาหลี หรืออินเดีย แต่ให้เทียบกับประเทศเวียดนาม ตอนนี้เขาผลิตวัคซีนได้เองประมาณ 11 ตัว แต่เราผลิตได้เองแค่ 2 ตัว เพราะฉะนั้นเราต้องทำต่อไป อาจจะไม่สำเร็จในยุคที่ตนมีชีวิตอยู่ไม่เป็นไร แต่รุ่นถัดๆ ไปจะต้องพยายามดันให้สำเร็จ นี่คือการพัฒนาเทคโนโลยี การระบาดโควิด-19 ครั้งนี้ทำให้เห็นว่าถ้าไม่มีวัคซีนตายแน่ ต้องรอไปเรื่อยๆ ความสูญเสียทางเศรษฐกิจก็เสียไปเรื่อยๆ อย่าหวังว่าประเทศที่ผลิตวัคซีนได้จะขายให้ได้ ไม่มีทาง โดสหนึ่งก็ไม่ให้