ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก

“อนุทิน ชาญวีรกูล” เตรียมเสนอที่ประชุม ครม. 20 ต.ค. ปรับระบบจ้างงานต่างด้าวตกค้าง หลังพบแรงงานเมียนมาร่วมหมื่นคนเข้ามาถูก กม. แต่ไม่มีใครจ้างงาน หวังทดแทนนำเข้าใหม่ ป้องกันเชื้อโควิดเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด19 ในอ.แม่สอด จ.ตากว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่อ.แม่สอด เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2563 ทำให้รับทราบในหลากหลายมิติ อย่างเช่น มีแรงงานเมียนมาที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายอยู่ในพื้นที่อ.แม่สอดร่วมหมื่นคน แต่ไม่มีใครจ้างงาน เนื่องจากการเข้ามานั้นหากโดยบริษัท ก.เป็นคนนำเข้าก็ต้องทำงานกับบริษัท ก. ไม่สามารถไปทำงานกับบริษัท ข.ได้ เมื่อบริษัท ก.ไม่จ้างงานจึงทำให้ว่างงาน ทั้งที่บริษัท ข.มีความต้องการแรงงาน เป็นสิ่งที่กำลังเดินสวนทางกันอยู่

“ จึงได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)หารือกับปลัดกระทรวงแรงงาน ในการพิจารณาจัดหาแหล่งทำงานให้แรงงานที่อยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นผู้ที่ไม่มีเชื้อ แต่หากขอนำเข้ามาใหม่ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการนำเชื้อเข้ามาและเพิ่มต้นทุนให้กับบริษัท ที่จะนำเข้า เพราะต้องจ่ายค่ากักกันตัวให้แรงงานที่เข้ามาใหม่ 14 วัน อย่างบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งขออนุญาตนำเข้าแรงงาน 3,000 คนก็ต้องมานั่งลุ้นอีกว่าจะปลอดเชื้อหรือไม่ ขณะที่มีแรงงานอยู่ในไทยนั่งรออยู่แล้วแต่จ้างงานไม่ได้ ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 20 ตุลาคม 2563 จะนำเข้าหารือเพื่อปรับระบบและจัดสรรสถานที่ทำงานในการรับช่วงแรงงาน” นายอนุทิน กล่าว

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) กล่าวว่า จากการคัดกรองผู้สัมผัสและการค้นหาเชิงรุกในชุมชนกว่า 4,900 คน พบการติดเชื้อที่รายงานแล้วคือ 2 สามีภรรยา ลูกและหลานรวม 5 คน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงคนอื่นผลการตรวจหาเชื้อรอบแรกเป็นลบ ไม่พบการติดเชื้อ แต่จะมีการตรวจซำอีกครั้งเนื่องจากอาจจะอยู่ในระยะฟักตัวของโรคและจะมีการเฝ้าระวังจนครบ 14 วันและบางรายเข้าอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนดในพื้นที่แล้ว และอยู่ระหว่างคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตากพิจารณาว่าจะต้องตรวจค้นหาเชิงรุกในชุมชนใดเพิ่มเติมหรือไม่

เรื่องที่เกี่ยวข้อง